จากกรณีไฟไหม้พื้นที่เก็บถังขยะแบบ สีเขียว สีเหลืองและสีขาว ของสำนักงานเขตปทุมวัน ใต้สะพานไทย-เบลเยี่ยมฝั่งสวนลุมพินี ถนนพระราม 4 แขวงสี่แยกมหานาค เขตปทุมวัน กทม. เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบนสะพานทั้งสองฝั่ง หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ ตรวจหาวงจรปิดกระทั่งสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้
จนเมื่อวันที่22มี.ค. ทางพ.ต.ต.ปิติพล พรหมแก้ว สว.สส.สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้เปิดเผยชื่อผู้ก่อเหตุดังกล่าวชื่อ นายสำราญ ม่วงเขียว หรือ เอก ล็อค 1 อายุ 31 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 19/115 แฟลต 19 แขวงและเขตคลองเตย กทม. ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่งพักอาศัยอยู่บริเวณใต้สะพานไทย-เบลเยี่ยม และยังเป็นหัวหน้าแก๊งเช็ดกระจกรถตามแยกอังรีดูนังต์ถึงแยกวิทยุ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.112/2560 ลงวันที่ 15 มี.ค. 2560 ในข้อหา “กระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทและเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย” นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายสำราญยังพบว่าเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดจำนวน 5 ครั้ง ในพื้นที่สน.บางรัก 1 ครั้ง สน.ท่าเรือ 2 ครั้ง สน.ลุมพินี 1 ครั้ง และสน.ทุ่งมหาเมฆ 1 ครั้ง คดีครอบครองยาเสพติดจำนวน 2 ครั้งของสน.ท่าเรือ และคดีฆ่าผู้อื่นของ สน.ห้วยขวาง
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังประชาสัมพันธ์หากผู้ใดพบเห็นนายสำราญ ม่วงเขียว สามารถแจ้งผ่านได้ที่เบอร์ 097-921-8168 หรือฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ที่เบอร์ 02-286-1138 หากสามารถแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้มีรางวัลนำจับจำนวน 10,000 บาท”
โดยความคืบหน้าคดีดังกล่าววันที่23 มี.ค พ.ต อ อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก สนทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพ นายชื่อ นายสำราญ ม่วงเขียว หรือเอก ล็อค 1 ผู้ต้องหา คดี เผาสะพานไทย-เบลเยี่ยม และเคยต้องเป็นผู้ต้องหาอีกหลายคดีในพื้นที่ นครบาลที่มีการให้รางวัลนำจับจำนวน 10,000 บาท โดยในขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสของผู้ต้องหาหลังจากที่มีการเผยแพร่ ภาพและรางวัลนำจับออกไปทางสื่อ สำหรับ นาย สำราญ เป็นคนเร่ร่อน เป็นคนมีสติสัมปชัญญะ ไม่ใช่คนวิกลจริต แต่ไม่มีการติดต่อกับทางญาติมากว่า 10 ปี แล้ว ซึ่งการติดตามเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องอาศัยเบาะแสจากประชาชนเท่านั้น
ขณะเดียวกันหลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับ ทางกระทรวงพัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงมนุษย์ ทำการปิดล้อมและจับกุม ผู้มีพฤติกรรมเร่รอน ที่อาศัยนอนอยู่บริเวณใต้สะพานข้ามแยก เพื่อไม่ให้มีเหตุซ้ำซ้อนเเกิดขึ้น นอกจากนั้นยังทำการจับกุมพวกกลุ่มแก๊งเช็ดกระจกที่อยู่บริเวณเขตพื้นที่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน โดยได้นำตัวมาทำประวัติและทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหา ก่อความเดือดร้อนรำคาญ
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับในคดีนี้ทาง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสนใจ ได้ให้ทางศูนย์สืบสวน บช.น ได้เข้าร่วมกันติดตาม นาย สำราญ มาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีที่ทำให้ประชาชนส่วนมากได้รับผลกระทบในเรื่องการจราจร
โดยในส่วนของการติดตามตัว นาย สำราญนั้น เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจาก นาย สำราญ จะเป็นคนเร่รอน ค่ำไหนนอนนั้น ไม่มีที่อยู้เป็นหลักแหล่ง ไม่ใช้เทคโนโลยีใดๆ ทั้งสิ้น เคยมีการเล่น เฟสบุ๊ค เมื่อ 5 ปีที่แล้ว จึงทำให้การติดตามเป็นไปด้วยความยากลำบากต้องอาศัยเบาะแสจากประชาชนเท่านั้น
