เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. (กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง) ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายและสอบปากคำผู้ต้องสงสัย 2 ราย ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มบริษัทแชร์ลูกโซ่ดังกล่าว พร้อมทั้งวางแผนแนวทางการทำงานเพื่อติดตามจับกุมหัวหน้าขบวนการเจ้าของบริษัทดังกล่าว ซึ่งมีพฤติกรรมชัดเจนที่เคยมีประวัติการก่อคดีในลักษณะนี้และจากการตรวจสอบพบว่ามีหมายจับติดตัว 3-4 หมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นคดีลักษณะเดียวกัน โดยมีการเปลี่ยนชื่อสกุลมาแล้วกว่า 10 ครั้งเพื่อเปิดเเละจดทะเบียนบริษัท อย่างไรก็ตามขณะนี้มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีต่อโดยมี 3 หน่วยงานหลักรับเรื่องคือ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค ตำรวจประจำสถานีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ทั้งหมด 470 คน

 

 

ผบช.ก.ยังระบุอีกว่า สำหรับคดีนี้ผู้เสียหายที่อยู่ในพื้นต่างจังหวัด ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม โดยสามารถไปแจ้งความร้องทุกข์ใด้ในพื่นที่สถานีตำรวจในภูมิลำเนาของตน หลังจากตนจะเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการรวบรวมสำนวนมาไว้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อศูนย์กลางในการทำงานเนื่องคดีนี้เข้าข่ายความผิดฉ้อโกงประชาชนที่มีผู้เสียหายมากกว่า 10 คน

 

ผบช.ก.กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการหลังจากนี้จะเร่งติดตามยึดทรัพย์เพื่อนำเงินทั้งหมดมาชดใช้ค่าเสียให้กับผู้เสียหายทั้ง ซึ่งที่ผ่านคดีในลักษณะนี้จะมีการยอมความกันได้แต่สำหรับคดีนี้จากการสอบปากคำผู้เสียหาย และพยานหลักฐานพบว่า ไม่สามารถยอมความได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน