วิทัย ผอ.ออมสินคนใหม่ เดินหน้าลุยดัดหลังจำนำทะเบียนรถ ทำแผนใน 6 เดือนรับแก้หนี้ ตัดตอนดอกเบี้ยโหด 36% เดินหน้าธนาคารเพื่อสังคมเต็มตัว พร้อมยืดพักหนี้ถึงสิ้นปี’63
วิทัยดัดหลังจำนำทะเบียนรถ – นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินจะปรับตัวเป็นธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank) เต็มรูปแบบ ช่วยคนจน ช่วยชุมชน ช่วยฐานราก ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ ต้องดำเนินการให้เกิดผลเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งได้มีการหารือกับคณะกรรมการของธนาคาร และผู้บริหารของธนาคารแล้ว ทุกคนร่วมใจกันซึ่งชัดเจนว่า ธนาคารออมสินจะเป็นธนาคารเพื่อสังคม เน้นให้เกิดผลจริง จะทำอะไรต้องเกิดผลจริงช่วยคนได้เยอะปล่อยสินเชื่อได้มาก
“ต่อไปธนาคารออมสินจะไม่ยึดว่าต้องมี สินทรัพย์ สินเชื่อ เงินฝาก มากเป็นอันดับที่เท่าไร ไม่เน้นใหญ่โต ธนาคารจะเน้นเรื่องความแข็งแรง เรื่องคุณภาพ ธนาคารอาจจะต้องหดตัว เล็กตัว หรือต้องไม่โตบ้าง แต่มีสินทรัพย์ที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งนี่เป็นทิศทางของธนาคารที่จะเดินต่อไป รวมถึงงบเรื่องการประชาสัมพันธ์ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปช่วยลูกค้า” นายวิทัย กล่าว
ทั้งนี้ การทำให้ธนาคารเป็นธนาคารเพื่อสังคม จะใช้เวลา 6 เดือนแรก ปรับองค์กรทั้งธนาคารให้เป็นธนาคารเพื่อสังคม ซึ่งต้องทำทั้งหมด ทั้งเรื่องของการปรับโครงสร้างภายใน ปรับกระบวนการภายใน ปรับเรื่องของผลิตภัณฑ์ ซึ่งต้องมีผลิตภัณฑ์ฐานรากขึ้นมาและลดผลิตภัณฑ์เพื่อการพาณิชย์บางอย่างที่ไม่มีกำไร และไม่ตรงตามภารกิจ
นายวิทัย กล่าวว่า ใน 3-6 เดือนแรก ธนาคารจะจะเน้นการช่วยเหลือ คือ ผู้มีรายได้น้อย พ่อค้า ที่มีปัญหาหนี้สินสูง มีทั้งหนี้นอกระบบอัตราดอกเบี้ยสูง 10-20% ต่อเดือน ยังมีหนี้ในระบบที่อัตราดอกเบี้ยสูงอีก เช่น นอนแบงก์ เช่น สินเชื่อเช่าซื้อ จำนำทะเบียนรถ 20-28% ต่อปี ฟิโก นาโน 36% ต่อปี ธนาคารออมสินเห็นปัญหานี้ว่าเป็นดอกเบี้ยที่มีกำไรสูงเกินไป มีกำไรส่วนเกินอยู่มาก ธนาคารออมสินจะเข้าไปลุยในตลาดนอนแบงก์ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะมีความเสี่ยงต่ำที่สุด
“เป็นภารกิจของธนาคารออมสิน ภายใน 6 เดือน ธนาคารออมสินจะแทรกเข้าไปในตลาดนอนแบงก์ ที่มีมูลหนี้อยู่ 5 แสนล้านบาท ธนาคารออมสินต้องการเห็นดอกเบี้ยลดลง 8-10% จะเริ่มทยอยเกิดขึ้นจะการที่ธนาคารออมสินเข้าไปรีไฟแนนซ์สินเชื่อส่วนนี้ออกมา หวังว่า เมื่อธนาคารออมสินเข้าไปรีไฟแนนซ์สินเชื่อจากนอนแบงก์ จะทำให้ดอกเบี้ยทั้งระบบของนอนแบงก์ไหลต่ำลงในที่สุด การทำเช่นนี้จะช่วยคนได้จำนวนมากมหาศาล”
นายวิทัย กล่าวว่า เวลาพูดถึงเรื่องช่วยคน สินเชื่อรถยนต์มีความเสี่ยงต่ำมาก มียอดหนี้อยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท มีคนกู้ 3 ล้านคน ถ้าธนาคารออมสินเข้าไปรีไฟแนนซ์สินเชื่อรถยนต์ ทำให้ดอกเบี้ยลดลงทั้งระบบ คนที่ได้ประโยชน์คือ 3 ล้านคน และหากเข้าไปรีไฟแนนซ์หนี้ของนอนแบงก์ได้ 5 แสนล้านบาท ก็จะช่วยคนได้กว่า 10 ล้านคน ธนาคารออมสินต้องการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของรายย่อยที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงให้ต่ำลงมา 8-10%
ปัจจุบันธนาคารมีสินทรัพย์ 2.89 ล้านล้านบาท มีสินเชื่อ 2.2 ล้านล้านบาท กำไรครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5,229 ล้านบาท เพื่อช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยการลดดอกเบี้ยมาตรการต่าง และการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เป็นการตอบแทนกำไรคืนสู่สังคม ช่วยแก้ปัญหาของประชาชน และประเทศชาติ เชื่อว่าสิ้นปี 2563 กำไรกลับมาอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าปี 2562 กำไร 2.42 หมื่นล้านบาท และ ปี 2561 กำไร 2.42 หมื่นล้านบาท
นายวิทัย กล่าวว่า ธนาคารได้มีการดำเนินมาตรการพักชำระหนี้ช่วยลูกค้า 3.1 ล้านราย มูลหนี้ 1.14 ล้านล้านบาท ซึ่งพักชำระหนี้มาตั้งแต่ 1 เม.ย.-30 ก.ย. 2563 โดยธนาคารจะขยายเวลาการพักชำระหนี้ให้ต่อถึงสิ้นเดือนธ.ค. 2563 ซึ่งจะมีการประกาศออกมาเป็นทางการ โดยครั้งนี้จะให้ลูกค้ามีทางเลือกจะพักหรือไม่พักการชำระหนี้ก็ได้ หรือจะเลือกพักต้น จ่ายดอก หรือ เพิ่มเงินงวดแต่ต้องทำสัญญาใหม่ก็ได้
ส่วนมาตรการสินเชื่อผู้มีรายได้น้อยรายละไม่เกิน 1 หมื่นบาท และไม่เกิน 5 หมื่นบาท ปล่อยไปแล้ว 1.15 ล้านราย วงเงิน 1.42 หมื่นล้านบาท ซึ่งตอนนี้ยังมีการทยอยปล่อยอยู่ตามที่ลูกค้าลงทะเบียนขอเข้ามา และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1.5 แสนล้านบาท ปล่อยไปแล้วประมาณ 1.4 แสนล้านบาท โดยขณะนี้ได้เสนอกระทรวงการคลังไปแล้วให้มีการปล่อยสินเชื่อซอฟต์โลนอีก 1 แสนล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเป็นการเฉพาะ