กนง.ลงมติคงดอกเบี้ย0.5%ตามคาด
รองรับความไม่แน่นอนสูง-ลุ้นปี64ศก.ฟื้นโต3.2%

กนง.ลงมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ปรับคาดการณ์ จีดีพีปีนี้ไทยเหลือติดลบ 6.6% จากเดิมคาดติดลบ 7.8% ปี 2564 คาดขยายตัวเป็นบวก 3.2%

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่มีความเสี่ยงด้านต่ำและไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า

จึงต้องการแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ และรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัด เพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

โดยกนง.ได้ปรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2563 จะฟื้นตัวดีขึ้นที่ติดลบ 6.6% จากคาดการณ์เดิมที่ติดลบ 7.8% จากการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้น ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 3.2% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.6% ก่อนจะฟื้นตัวดีขึ้นที่ระดับ 4.8% ในปี 2565

ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้คาดว่าจะส่งผล กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไม่มากนัก เพราะมองว่าการระบาดจะอยู่ในวงจำกัดและกินระยะเวลาไม่นานเพียง 1-2 เดือนเท่านั้น รวมทั้งเชื่อว่าภาครัฐจะสามารถบริหารจัดการได้

“ในไตรมาส 3/2563 เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 4/2563 ซึ่งดีกว่าที่คาดจากการบริโภคและการส่งออกเป็นหลัก ส่วนการระบาดของโควิด-19 นั้น เชื่อว่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งรัฐบาลมีมาตรการควบคุมในลักษณะที่ตรงจุด ทำให้มองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ แต่ยังมีความเสี่ยงด้านต่ำสูงมากในระยะสั้น ดังนั้นหลังจากนี้จึงต้องจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดและมาตรการจากภาครัฐที่ออกมาว่าจะเข้มข้นแค่ไหน อย่างไร” นายทิตนันทิ์กล่าว

นายทิตนันทิ์กล่าวอีกว่า ตัวเลขจีดีพีปี 2564 ถูกปรับลดลง พอสมควร ส่วนหนึ่งมาจากสมมติฐานเรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงเหลือ 5.5 ล้านคน จากเดิม 9 ล้านคน ซึ่งประเด็นดังกล่าวมีความสำคัญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า รวมถึงประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19

โดยประเมินว่าในช่วงไตรมาส 2/2564 ประชากรของหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศสำคัญมากกว่า 30% จะเข้าถึงวัคซีน และในไตรมาส 3/2564 ประเทศนักท่องเที่ยวหลักของไทยจะเข้าถึงวัคซีนได้เกินกว่า 30% ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะเข้าถึงวัคซีนได้ประมาณ 20% ภายในสิ้นปี 2564 ส่วนปี 2565 คาดว่าภาพรวมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน