เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นวันแรก ด้วยราคาเปิด 65 บาท เพิ่มขึ้น 132.14% จากราคาเสนอขายให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่ราคาหุ้นละ 28 บาท
นายอิศรินทร์ ภัทรมัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนแบบครบวงจร เปิดเผยภายหลังบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ประเมินการเติบโตรายได้ของบริษัทในช่วง 3-5 ปีจากนี้ ไว้ที่ 20% ตามทิศทางการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ขณะเดียวกันบริษัทพร้อมนำเงินส่วนหนึ่งประมาณ 1,000 ล้านบาท ที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อขยายและเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง คัดแยกพัสดุเพิ่มเป็นวันละ 3 ล้านภายในปี 2566 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.9-2 ล้านชิ้นต่อวัน
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อม และรองรับปริมาณการส่งของที่เพิ่มมากขึ้น แม้ประเมินแล้วช่วงนี้ประชาชนมีความพร้อม และไม่ได้ตื่นตะหนกต่อสถานการณ์ จนนำไปสู่การสั่งของเป็นจำนวนมากเหมือนช่วงเดือนมี.ค. และ เม.ย. ที่ผ่านมา ที่มีผลให้ปริมาณการส่งของเพิ่มขึ้นถึง 50%
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกิตติมศักดิ์ KEX และประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบีทีเอสและเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น KEX ประมาณ 19% ว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับ KEX ในการทำธุรกิจร่วมกัน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านพื้นที่โฆษณาของ บริษัท วีจีไอ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ประกอบกับ ความแข็งแกร่งของบริการบัตรแรทบิต หรือการขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ช่วยเสริมการใช้บริการ จุดบริการเพียงรายเดียว และ การเข้าถึงสื่อโฆษณา จำนวนมากต่อวัน อีกทั้งในปี 2564 คาดว่าบีทีเอสจะมีผู้โดยสารมากถึง 2.5 ล้านเที่ยวคนต่อวัน
