สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 2 เม.ย. 2564 ดัชนีปิดที่ 1,596.27 จุด +1.15 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 76,521.44 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. IRPC มูลค่าการซื้อขาย 5,221,737.58 บาท ปิดที่ 4.08 บาท เพิ่มขึ้น +0.22 บาท (+5.70%)
2. DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,761,644.10 บาท ปิดที่ 353.00 บาท เพิ่มขึ้น +29.00 บาท (+8.95%)
3. TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,755,605.15 บาท ปิดที่ 57.75 บาท ลดลง -2.50 บาท (-4.15%)
4. GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,043,222.19 บาท ปิดที่ 3.96 บาท เพิ่มขึ้น +0.22 บาท (+5.88%)
5. BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,938,416.95 บาท ปิดที่ 128.50 บาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท (+0.39%)
สำหรับตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์นี้ (29 มี.ค. – 2 เม.ย. 2564) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.41 จุด หรือ +1.36% มาปิดที่ 1,596.27 จุด ภาพดัชนีโดยรวมทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์ จากการที่นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มากกว่าความกังวลด้านอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นสามารถสร้างฐานได้ แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจาก การที่รัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยถึงแผน Infrastructure Investment ขนาด 2 ล้านล้านเหรียญ ในช่วงกลางสัปดาห์
ขณะที่ในช่วงต้นสัปดาห์มีประเด็นบวกภายในประเทศ จากการรัฐบาลมีแผนทยอยเปิดภาคการท่องเที่ยว โดยจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนแล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ โดยจะเริ่มที่ภูเก็ต ในช่วงก.ค. นี้ ทั้งนี้ ตลาดมี Noise เข้ามากระทบบ้าง จากกรณี Archegos Capital ถูกบังคับขายหุ้นเป็นมูลค่ามากถึงราว 2 หมื่นล้านเหรียญ หลังไม่สามารถดำรงอัตราหลักประกันต่อเงินกู้ (Margin Loan) ไว้ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประเมินความเสียหายที่เกิดกับเหล่า วิณิชธนกิจ/โบรกเกอร์ ที่เกี่ยวข้อง พบว่าอยู่ในจำนวนที่ไม่สร้างความเสี่ยงต่อระบบโดยรวม ทำให้ตลาดมีความผันผวนจากประเด็นนี้เพียงช่วงสั้นๆ ครั้นช่วงปลายสัปดาห์ สินทรัพย์เสี่ยงยังได้รับแรงหนุน จากการที่กลุ่ม OPEC เลื่อนการขยายกำลังการผลิตออกไป ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยมีปริมาณซื้อขายเฉลี่ยที่ 8.1 หมื่นล้านบาท/วัน ลดลง 4.6% จากสัปดาห์ก่อน ภาพทั้งสัปดาห์ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยรวม 3.2 พันล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)
