สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 26 พ.ย. 2564 SET Index ปิดที่ 1,610.61 จุด เปลี่ยนแปลง -37.85 จุด หรือ -2.30% มูลค่าการซื้อขาย 123,472.09 ล้านบาท โดย SET Index ปรับตัวในแดนลบตั้งแต่เปิดตลาด เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค
โดยในวันนี้สินทรัพย์เสี่ยงต่างถูกขายอย่างหนักซึ่งเป็นผลกระทบทางจิตวิทยาการลงทุน อันเนื่องมาจากควางกังวลเกี่ยวกับการค้นพบโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์แบบใหม่ ที่ขณะนี้ใช้ชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งกำลังระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศแถบแอฟริกา อาทิ แอฟริกาใต้ บอตสวานา รวมถึงฮ่องกงด้วย โดยการกลายพันธุ์ดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถหลบหลีกการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจากทั้งการติดเชื้อก่อนหน้านี้และวัคซีน
นอกจากนี้ แล้วการกลายพันธุ์ยังเกี่ยวข้องกับความสามารถในการแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ก่อให้เกิดการกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดเมืองอีกครั้งได้
โดยสินทรัพย์ที่มีแรงขายมากอาทิ น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงมากกว่า 5% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและจีนปิดลบมากกว่า 2.5% และแม้ว่าตลาดหุ้นฝั่งยุโรปและอเมริกาจะปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) แต่ตลาดอนุพันธ์ Future ก็ต่างปรับตัวลงมากกว่า 2% เช่นกัน
โดยหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงในวันนี้ต่างเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป็นหมายของกองทุนและต่างชาติ อาทิ หุ้นกลุ่มขนส่ง หุ้นกลุ่มเปิดเมือง ธนาคาร และพลังงาน
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุดประจำวันนี้ ประกอบด้วย KBANK 142.50 บาท (-4.50 บาท), AOT 63.00 บาท (-3.75 บาท), SCB 127.00 บาท (-3.50 บาท), CPALL 60.00 บาท (-1.50 บาท) และ BANPU 11.00 บาท (-0.50 บาท) ตามลำดับ
โดยนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 6,091.21 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 3,462.17 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 3,238.22 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 12,791.60 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)
