น.ส.พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยาวนานเกือบ 2 ปี และยังมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ภาพรวมตลาดสินเชื่อบุคคล หรือสินเชื่อไม่มีหลักประกัน มีทิศทางการเติบโตสูงตามทิศทางการเติบโตของสินเชื่อในปี 2563 ที่ตลาดมีความต้องการสินเชื่อที่สูงขึ้น ขณะที่การแข่งขันการหาลูกค้าใหม่ โปรโมชั่นเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสมัครสินเชื่อจะเห็นในหลายรูปแบบไม่ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย หรือการอนุมัติในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
อย่างไรก็ดี เคทีซี มุ่งรักษาเสถียรภาพของคุณภาพลูกหนี้ทั้งลูกหนี้สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อมีหลักประกัน หรือเคทีซี พี่เบิ้ม โดยควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับ ณ เดือนมิ.ย. ที่ 3% ด้วยการปรับเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อลูกค้าให้รัดกุมขึ้น รวมถึงการติดตามทวงหนี้ด้วย แม้ว่าในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงทำให้รัฐบาลมีการล็อกดาวน์ ขณะที่ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาดังกล่าวส่งผลให้คุณภาพลูกหนี้แย่ลง แต่เชื่อมั่นว่ายังควบคุมได้ไม่สูงกว่า NPL ของทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.5% แต่ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ก.ย. รัฐบาลเริ่มคลายล็อกดาวน์แล้ว ร้านค้าเริ่มกลับมาเปิดบริการได้ แนวโน้มลูกค้าเริ่มมีรายได้มากขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าหลังจากนี้ระดับ NPL น่าจะดีขึ้นได้ อาจช่วยหนุนการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลให้กลับมาฟื้นได้บ้าง
สำหรับภาพรวมการปล่อยสินเชื่อในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ลดลงไปกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้น โดยมีการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลให้กับลูกค้าใหม่ไปเพียง 30,000 ราย เนื่องจากมีการปรับเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อลูกค้าให้รัดกุม ทำให้ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรักษาพอร์ตสินเชื่อไว้ที่ 29,400 ล้านบาท ใกล้เคียงปี 2563 โดยจะมาจากฐานลูกค้าใหม่ และฐานลูกค้าเดิมกว่า 8 แสนราย รวมถึงยังมีการเตรียมขยายบริการสินเชื่อส่วนบุคคลไปสู่การให้บริการแบบดิจิตอล (Digital Lending) ที่จะเข้ามาเสริมการขยายการบริการสินเชื่อ พร้อมกับการบริการขอสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านแอพพลิเคชั่น KTC Touch ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ได้รับความสะดวกอย่างรวดเร็วในการขอสินเชื่อ และขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น
ล่าสุดยังได้อัพเกรดผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ พร้อมบัตรกดเงิน เคทีซี พี่เบิ้ม” ครบฟังก์ชันรูด-โอน-กด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการสินเชื่อไทยที่มีการออกผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้ เพื่อให้คนไทยที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ ได้มีเงินทุนหมุนเวียนในการต่อยอดใช้จ่ายสิ่งจำเป็น เหมาะสำหรับผู้มีรถมอเตอร์ไซค์และมีเล่มทะเบียนเป็นชื่อตนเอง สามารถกู้ง่าย ได้ไว อนุมัติรับเงินก้อนใหญ่พร้อมบัตรกดเงินสด โดยสามารถใช้บัตรกดเงินรูดซื้อสินค้า โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแบบเรียลไทม์ และกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มได้ ไม่มีค่าธรรมเนียม
ด้านน.ส.เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการ-ธุรกิจสินเชื่อ หรือ เคทีซี พี่เบิ้ม กล่าวว่า หลังเริ่มธุรกิจมาตั้งแต่เดือนส.ค. ปีที่แล้ว โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ยังไม่ถึง 50% ของเป้าหมายที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้การทำตลาดเพื่อให้ลูกค้ารับรู้แบรนด์ยังทำได้ไม่เต็มที่ ในขณะที่ตลาดมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์ที่เหลือของปีนี้ จะเดินหน้าการขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปีนี้ โดยจะขยายไปกับสาขาของธนาคารกรุงไทย ในทุกภูมิภาค และรวมกับสาขาที่เป็นเครือข่ายของกรุงไทยลีสซิ่ง จำนวน 10 สาขา ทำให้สามารถขยายการให้บริการและเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
