MTS GOLD เจาะกระแสการลงทุนสินค้าสัญญาขนาดเล็ก เข้าถึงง่าย พร้อมให้นักลงทุนเลือกเทรดสร้างโอกาสทำกำไร ทั้ง Micro Crude Oil สินค้าน้ำมันยอดนิยมในตลาด Nymex รวมไปถึง Micro Bitcoin และน้องใหม่ Micro Ether ตามกระแสตลาดคริปโท หลังประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดีจากการเทรดสินค้าชั้นนำในตลาดอนุพันธ์ระดับโลกอย่าง CME
นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท MTS GOLD เปิดเผยว่า MTS GOLD ยังคงไม่หยุดที่จะรุกตลาดโลก เพื่อเพิ่มและเสริมศักยภาพการเทรดให้นักลงทุนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงตลาดโลกได้อย่างดีที่สุด และเลือกเทรดได้อย่างหลากหลายเช่นเดียวกับนักลงทุนในตลาดโลก ซึ่งความโดดเด่นของ Micro Crude Oil นั้นทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการเทรดในตลาดน้ำมันได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย กับขนาดสัญญา 100 บาร์เรล/สัญญา ที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 บาท โดยประมาณ
ขณะที่คริปโท ก็กำลังเป็นสินค้าแถวหน้าที่กระแสแรงไม่ตก และการซื้อขายในตลาด CME ก็สร้างโอกาสทำกำไรได้เหนือกว่าด้วยการวางกลยุทธ์ได้ทั้งขาขึ้นและขาลง จึงทำให้การซื้อขายสินค้า Micro Bitcoin เป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่ถึง 50% ของมูลค่าจริง ก็สามารถซื้อขายสัญญาได้ เนื่องจากมีขนาดสัญญาที่เล็ก 0.1 Bitcoin
ขณะที่น้องใหม่มาแรงอย่าง Micro Ether ที่เข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยขนาดสัญญา 0.1 Ether จึงทำให้การเทรด Crypto Futures สร้างทางเลือกในการลงทุนได้น่าสนใจและมีมิติในการซื้อขายมากขึ้น ด้วยราคามาตรฐานอ้างอิง โปร่งใส ตรวจสอบได้ตามมาตรฐานของ CME โดยสามารถซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำ Metra Trader 5 (MT5) ซึ่งเป็นโปรแกรมเทรดที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป
แม้สถานการณ์โควิด-19 จะมีผลกระทบรอบด้านอย่างมาก แต่ในโลกแห่งการลงทุนก็ยังคงดำเนินต่อไป ความหลากหลาย และความก้าวหน้าในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มากขึ้นและพัฒนาให้เหนือชั้นกว่าเก่า ทำให้การสร้างโอกาสทำกำไรด้วยระบบออนไลน์เติบโตและเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วทุกมุมโลกเช่นกัน ซึ่ง MTS GOLD คาดหวังว่าเป้าหมายการซื้อขายในตลาดต่างประเทศระดับโลกอย่าง CME จะเป็นที่นิยมในไทยและเพิ่มมากขึ้นอีก 100% ภายในปี 2565 จากที่มีอัตราการเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2561 จน ณ ปัจจุบันมีลูกค้าเปิดบัญชีเข้าสู่ตลาดโลกแล้วสูงกว่าเป้าหมายมากถึง 200%
“จากความสำเร็จและกระแสตอบรับในการเข้าสู่ตลาดอนุพันธ์ระดับโลกหรือ CME มาตั้งแต่ปี 2561 ส่งผลให้นักลงทุนไทยมีทางเลือกที่หลากหลายในการสร้างโอกาสทำกำไรจากการลงทุน เพราะความโดดเด่นของตลาดชั้นนำระดับโลกที่ให้ลูกค้าซื้อขายและวางกลยุทธ์ได้ทั้งขาขึ้นและขาลงพร้อมกับนักลงทุนทั่วโลก ล่าสุดเราได้เพิ่มสินค้าที่มีขนาดเล็กและเป็นสินค้าที่ติดเทรนการลงทุนระดับโลก ทำให้การลงทุนในสินค้าระดับโลกอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป” นายณัฐพงศ์ กล่าว
