วายแอลจีลุ้นทองในประเทศทะลุบาทละ 3 หมื่น หากราคาตลาดโลกแตะเป้า 1,960 ดอลลาร์ – ชี้เงินอ่อนค่าช่วยหนุน
ลุ้นทองทะลุบาทละ3หมื่น – นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2564 ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลง 6-7% ส่วนหนึ่งมาจากแรงขายหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนมิ.ย. ที่ส่งสัญญาณเตรียมถอนคันเร่งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน แต่รายงานการประชุมล่าสุดชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในขณะนี้คงต้องระมัดระวังในการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่รอบของการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในแต่ละปีจะปรับตัวขึ้นไปในช่วงไตรมาสที่ 3-4 และจะเริ่มปรับลดลงในไตรมาสที่ 1-2 ทำให้อาจเห็นสัญญาณบวกอีกครั้งในครึ่งปีหลัง โดยการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปีนี้ก็ยังถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เมื่อต้นปี วายแอลจีได้ให้เป้าหมายการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไว้ที่ 1,960 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาราคาทองคำก็เข้าไปใกล้เป้าหมายดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ จึงปรับตัวลดลงเพื่อสะสมกำลังอีกครั้ง ทำให้ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ วายแอลจียังมองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบเป้าหมายดังกล่าวอีกครั้ง หากเฟดยังไม่เร่งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือ หากการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตารุนแรงขึ้น
อีกทั้งในปีนี้ราคาทองคำในประเทศมีแนวโน้มจะปรับตัวมากขึ้นกว่าราคาทองคำในตลาดโลก เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทะลุ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ทองไทยมีโอกาสแตะ 30,400 บาทต่อบาททองคำ หากราคาทองโลกแตะเป้า 1,960 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
สำหรับปัจจัย 5 ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำในครึ่งหลังของปีนี้ ได้แก่นโยบายการเงินของเฟด หากเร่งขึ้นดอกเบี้ย หรือ เริ่มต้นลดวงเงินคิวอีเร็วกว่าคาด จะถือเป็นความเสี่ยงด้านต่ำต่อการคาดการณ์เชิงบวกของราคาทองคำ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องดตามอย่างใกล้ชิด ค่าเงินสกุลหลัก ทั้งดอลลาร์สหรัฐ และยูโร ซึ่งมีผลต่อการไหลเข้าออกของเงินลงทุนในตลาดทองคำ โดยราคาทองคำส่วนมากจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับดอลลาร์สหรัฐ และเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับยูโร
แต่ก็มีบางครั้งที่ทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับดอลลาร์สหรัฐ เช่น กรณีที่นักลงทุนโยกเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งหมายถึง ทองคำ และดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี หากเริ่มลดลงนักลงทุนจะเริ่มประเมินว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีความเสี่ยง และจะหนุนราคาทองในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย และ ปัจจัยสัดท้าย ความต้องการทองคำ ทั้งกระแสเงินทุนไหลเข้า-ออก กองทุนอีทีเอฟทองคำ ความต้องหารทองคำกายภาพจากจีนและอินเดีย และแรงซื้อทองคำจากธนาคารกลาง
สำหรับคำแนะนำการลงทุนทองคำ ให้แบ่งพอร์ตการลงทุนทั้งในรูปแบบของทองคำตามราคาตลาดโลก และลงทุนทองคำในประเทศ เพื่อจะทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดี
