ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ รองประธานมูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม เปิดเผยว่า ผมชอบทำงานร่วมกับผู้พิการเพื่อเปิดโอกาสในการสร้างความมั่นคงทางอาชีพ ส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำ และเพื่อเป็นการสร้างความเสมอภาคทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการ โดยเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ได้มีการรับผู้พิการเข้ามาทำงานในเฟสแรก จำนวน 4 คน ประกอบไปด้วย ด.ช.สรวิชญ์ ดอกมะลิป่า (แฝด), นายณัฐวุฒิ เทียมอุบล (ฟลุ๊ค), นายธีรวุฒิ สุดใจ (เต่า), น.ส.อทิตยา ทิมศรี (ฟ้าใส) เพื่อมาดูแลเรื่องงานซ่อมรถที่ต้องทำอีกครั้งหนึ่ง

“ในวันที่ 24 มีนาคม 2566 ผมได้เดินทางไปร่วมงาน เปิดบ้านวิชาการโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม และได้ทาบทามนักเรียนจำนวน 2 คน ประกอบด้วย ด.ช.พลภัทร์ ฝ่ายดี (แสตมป์) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ ด.ญ.เกดลดา สิงห์พลาย (เกด) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในฐานะรีเซฟชั่น และ ถ้าเด็กทั้ง 2 คนทำได้ดีในอนาคตอาจจะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย ทั้งนี้ที่ทาบทามไว้ก็เพราะว่าวันที่ทาบทามเป็นวันที่โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมพอดี และเด็กต้องเดินทางกลับบ้านจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ปกครองของเด็ก เปิดเทอมเมื่อไหร่จึงจะพูดคุยเรื่องนี้อีกครั้ง” ดร.ภาคภูมิ กล่าว

ดร.ภาคภูมิ กล่าวเพิ่มเติม “ผมสะดวกใจที่จะทำงานร่วมกับคนพิการทางการได้ยินมากกว่าปกติ ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าตนเองเป็นintrovertหรือเปล่า แต่ที่มั่นใจได้คือสิ่งที่ผมและทีมงานทำนั้นเป็นสิ่งที่ตั้งใจ และ เต็มใจทำเพื่อสังคมร้อยเปอร์เซ็นต์ การทำงานเพื่อหวังผลทางการเมืองนั้นไม่มีอยู่ในแผนชีวิตเลย”

“แค่สร้างเจษฎามิวเซียมแห่งใหม่ก็ยุ่งมากแล้ว ถ้าจะให้ไปลงสมัครส.ส.ตามที่ผู้ใหญ่จากบางพรรคการเมืองแนะนำนั้นคงเป็นไปไม่ได้”

“ผมแค่อยากเห็นการเมืองใสสะอาดขึ้น บ้านเมืองเจริญทางด้านวัตถุไปมากแล้ว ก็อยากให้ผู้นำบ้านเมืองในอนาคตส่งเสริมการพัฒนาทางด้านจิตใจของประชาชนด้วย …ตอนนี้ นอกจากปัญหาทางเศรษฐกิจตกต่ำแล้ว ปัญหายาเสพติดมีทุกหย่อมหญ้า แค่จะเอาชีวิตรอดในการทำงานไปวันๆก็ยากแล้ว แต่ปัจจุบันประชาชนตาดำๆยังต้องมานั่งระแวงการก่ออาชญากรรมทั้งจากผู้ใช้ยาเสพติด และ จากชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทยด้วย…คนปกติหาเช้ากินค่ำที่ว่ายากลำบากแล้วคนพิการยิ่งยากลำบากสีกว่าแทบจะบรรยายไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหลังจากจบจากโรงเรียนโสตศึกษาไปแล้วจะทำมาหากินอะไร จะอยู่ในสังคมที่ตนเองไม่คุ้นเคยเลยอย่างไร… ถ้านายกรัฐมนตรีคนที่30 คณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในอนาคตใจไม่บอด ผมก็อยากจะให้มาดูแลนักเรียนที่พิการเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”

“สำหรับท่านที่ปรารถนาจะรับเด็กเข้าทำงาน เพื่อส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคมให้คนพิการมีงานทำอย่างทั่วถึง และมีรายได้จากการทำงานโดยตรง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป หรือมีความประสงค์จะบริจาคสิ่งของให้กับโรงเรียนโสตศึกษา สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 034 332 309 เว็บไซต์ของโรงเรียน https://ssnp.thai.ac/home/info/5/ เพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/ssnpschool19/?locale=th_TH



ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน