ใกล้เข้ามาอีกครั้งแล้วกับเทศกาลอิ่มท้อง อิ่มใจ ได้บุญ ครั้งใหญ่! อย่างเทศกาลกินเจ ในวันที่ 17- 25 ตุลาคม 2563 นี้ สำหรับคนที่กินเจเป็นประจำคงไม่มีปัญหาในเรื่องการทำอาหารหรือหาร้านที่ถูกใจ แต่สำหรับชาวกรุงเทพประเภท Flexitarian ที่ต้องการหยุดพักการกินเนื้อสัตว์ และหันมากินเจในเทศกาลนี้โดยเฉพาะ อาจจะเกิดความกังวลใจว่าจะไปร้านไหนดี แล้วร้านที่เลือกจะเคร่งครัดตามแบบฉบับของเจจริง ๆ ไหม หรือจำเป็นที่จะต้องไปถึงเยาวราชเลยหรือเปล่า?

วันนี้ข่าวสดมีข่าวดีมาบอกกกกก! ว่าร้านอาหารเจคุณภาพพรีเมียม แต่ราคาดี๊ดี มีอยู่ที่สุขุมวิท 36 กับ “VIBE Coffee & Plant-based food” ร้าน full coffee bar & plant-based restaurant ใจกลางกรุง ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์การกินมังสวิรัติมากว่า 26 ปี ประกอบกับอยากให้คนทั่วไปได้มาลิ้มลองและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่ออาหารเจและมังสวิรัติ (Vegetarian & Vegan) ของคุณพิมพ์วลัญช์ จุลมาณพ เจ้าของร้าน จึงทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นร้านอาหารสุดครบครันทั้งเครื่องดื่ม อาหาร และของหวาน ที่ปราศจากเนื้อสัตว์และผักฉุน 5 ชนิด ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกทานได้ดั่งใจและมาทานได้ตลอดทั้งปี ไม่เฉพาะแค่เทศกาลกินเจเท่านั้น

จากห้องครัวที่บ้าน สู่จานพิเศษของร้า

คุณพิมพ์วลัญช์ เล่าว่า ตนเป็นคนกินอาหารมังสวิรัติและเจมากว่า 26 ปีแล้ว และต่อมาทราบว่าคุณพ่อคุณแม่ป่วย จึงมีโอกาสได้ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องวัตถุดิบและโภชนประโยชน์จากอาหารประเภทนี้มากขึ้น โดยหาข้อมูลและเริ่มคิดสูตรอาหารมังสวิรัติให้แม่ครัวลองทำ หลังจากนั้นเมื่อมีโอกาสได้ดูแลร้านกาแฟ จึงมีความคิดที่จะนำเสนออาหารสไตล์ Plant-based ควบคู่กันไปด้วย เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมายังไม่เคยเจอร้านอาหารมังสวิรัติหรือเจที่เป็น Full drink bar เลย และอยากให้คนทั่วไปลบภาพจำและรสชาติเดิม ๆ ของอาหารเจและมังสวิรัติแบบเดิมออกไป แล้วหันมาเปิดใจให้อาหารเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพราะที่ร้านเราจะปรุงอาหารด้วยโปรตีนจากพืช ไม่เน้นแป้งและของทอด แต่จะปรุงจากตัวรสชาติของผักจริง ๆ จึงทำให้อาหารยังคงมีคุณค่าของวิตามินอยู่และมีรสชาติอร่อย

จากความต้องการที่อยากให้ทุกคนเปิดใจลิ้มลองอาหารที่ปรุงด้วยโปรตีนจากพืชว่ารสชาติมีความอร่อยไม่แพ้กัน จึงเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละคน ทั้งในเรื่องของสุขภาพและความต้องการที่ต่างกัน ที่นี่จึงมีความพิเศษกว่าร้านอื่น ๆ คือ ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบได้ตามต้องการ พิเศษสำหรับเทศกาลเจปีนี้คือลูกค้าสามารถเปลี่ยนนมในเครื่องดื่ม **ฟรี** ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นชาวมังสวิรัติหรือเจถ้ามาที่นี่ต้องกินได้ทุกเมนู เช่น ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบได้ว่าจะใช้นมนมสดครบส่วน (Whole Milk), นมสดไขมันต่ำ (Low fat) , นมถั่วเหลือง (Soy milk) หรือนมอัลมอนด์ (Almond milk) ได้

ครบเครื่องเรื่อง Plant-based

ร้าน VIBE ถือคติที่ว่า You are what you eat และยึดตามแนวคำสอนของพระพุทธศาสนา คือ ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว อาหารที่ทานเข้าไปจึงควรทำให้จิตใจสงบ ขั้นตอนการปรุงต้องสะอาด ได้มาตรฐาน เพื่อให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดี ห่างไกลโรคภัยและความเจ็บป่วย”

ดังนั้นจึงพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบ อาทิ ถั่วที่ใช้ในร้านจะเป็นถั่วที่มีเปอร์เซ็นโปรตีนสูง ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มท้อง เช่น ถั่วลูกไก่ ถั่วเลนทิล เป็นต้น พริกแกงจะใช้ของที่ส่งตรงจากภาคใต้ เพราะเป็นดินแดนอุดมสมบูรณ์ สมุนไพรต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ดี ขิง ข่า ตะไคร้ พริก จะถูกโขลกออกมาได้อย่างเข้มข้นและมีกลิ่นหอม ผักจะเลือกจากร้านที่มีคุณสมบัติทั้งรสชาติและสารอาหารตรงกับความต้องการของร้าน เพื่อคงสภาพของรสชาติเดิมเอาไว้ และสำหรับ Plant-based meat ได้เลือกใช้วัตถุดิบที่ให้โปรตีนสูง

ในส่วนของเชฟ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการทำอาหารมาอย่างยาวนาน สามารถปรุงอาหารจานต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว มีทั้งเมนูทั่วไปและอาหารฟิวชัน (fusion) เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบความจำเจ และตอบโจทย์ Well-being ที่คนในยุคนี้กำลังมองหา เช่น คาร์โบนาราฟักทอง (Pumpkin carbonara), สปาเกตตี้เขียวหวานไก่เจ รวมถึงยังใส่ใจเกี่ยวกับผู้ร่วมงานด้วย โดยทางร้านจะมีการเลี้ยงอาหารพนักงานวันละ 2 มื้อ และไม่อนุญาตให้นำเนื้อสัตว์เข้ามาทำหรือทานในครัว เพื่อให้ผู้กินมังสวิรัติหรือเจไม่กังวลใจเรื่องการปนเปื้อนของเนื้อสัตว์อย่างแน่นอน และเพื่อช่วยให้พนักงานประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ ทางร้านยังร่วมรักษ์โลกด้วยการใช้ถ้วย กระดาษเช็ดปาก และภาชนะต่างๆ ที่ทำมาจากไบโอพลาสติกและกล่องกระดาษคราฟท์เท่านั้น และหากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย จะมีการนำหลอดแก้ว หรือ Reusable straw มาใช้สำหรับนั่งทานในร้านด้วย

อร่อย – ง่าย – สบายกระเป๋า

คุณพิมพ์วลัญช์ เล่าต่อว่า เราเปิดร้านในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมนูต่าง ๆ จึงถูกปรับให้เป็นอาหารจานเดียว ปรุงร้อน และมีราคาที่จ่ายได้ง่าย ๆ ไม่ปวดหัว โดยราคาซุปเริ่มต้นที่ 79 บาท และอาหารจานเดียวเริ่มต้นเพียง 89 บาท ในปริมาณที่อิ่มจุใจ มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ คือ ลดราคา 20% ทุกวันพระ ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2563 กันเลยทีเดียว

พิเศษ! สำหรับเดือนตุลาคมนี้ ทางร้านได้ร่วมมือกับ “More Meat” สตาร์ทอัพผู้บุกเบิก Plant-based meat ในไทย คิดค้นเมนูไฮไลท์เพื่อคนกินเจ ที่หาไม่ได้จากร้านทั่วไปและมีเสิร์ฟเฉพาะเทศกาลเจ – 31 ตุลาคมนี้เท่านั้น นำทีมความอิ่มใจ ได้บุญ ด้วย

สปาเกตตี้มีทบอลในซอสมะเขือเทศ (Meet Meat spaghetti in tomato sauce)

สปาเกตตี้เส้นเหนียวนุ่ม ฉ่ำด้วยซอสมะเขือเทศ ตัดเลี่ยนด้วยมีทบอลจาก Plant-based meat ที่ให้รสชาติไม่แตกต่างจากเนื้อสัตว์จริง ๆ

ไม่ว่าจะเป็นคนกินเจเป็นประจำ หรือคนที่กินเจตามเทศกาลก็ทาไนได้ไม่ยาก

บรอคโคลีมีทบอล (Broccoli nest in sesame gravy)

จานนี้คนไม่กินผักอาจจะหนักใจ แต่ทีมข่าวสดอยากบอกว่า ทานง่ายมากกกกกก กว่าที่คิด เพราะบรอคโคลีกรอบและหวาน ไม่ขมเลย แถมยังเข้ากันมากกับมีทบอล ส่วนน้ำมันงาที่ราดลงบนผักเพียงเล็กน้อยนั้น ช่วยเสริมให้จากนี้มีกลิ่นหอม และมีรสชาติที่กินง่ายมากขึ้น

(เรียงจากซ้าย) ช็อกเย็นเจ (Choc Yen J) มัทฉะลาเต้เย็นเจ (Iced Soy Matcha latte J) และครีมบูเล่คาเฟ่ลาเต้เจ (Crème Brûlée Café latte J)

เครื่องดื่มยอดฮิตที่ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบให้เป็นสูตรเจได้ตามต้องการ โดยทางร้านจะทำรสชาติพื้นฐานที่ไม่หวานมาก แต่เข้มข้นด้วยรสชาติของช็อกโกแลต มัทฉะ และกาแฟแท้ ๆ

ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายเมนูเจที่รอทุกคนมาสัมผัสด้วยตัวเอง ทั้งข้าวยำเกาหลี (Bimbimbab) เต้าหู้ทองทอด (Golden Konjac Tofu) ซิสลิ่งเสต็กไก่ (Sizzling Chick Steak) และไอศกรีมเจ (รสชาติ Choc go nutz และ Bushido Matcha) ในส่วนคนกินมังแต่ไม่กินเจ ก็ยังเข้าร้านได้เช่นเคย เพราะ VIBE พร้อมเสิร์ฟทุกเมนูตามปกติตลอดปี โดยเมนูยอดฮิตที่ต้องห้ามพลาดเลยตอนนี้ก็คือ

พาสตาเขียวหวานไก่เจ

เมนูที่ลูกค้ามังสวิรัติแบบ Vegetarian สามารถเลือกใส่วิปครีม หรือนมได้ตามปกติ หรือถ้าเป็นลูกค้ามังสวิรัติแบบ Vegan หรือเจ ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้นมถั่วเหลืองหรือนมอัลมอนด์ได้ด้วย

Housemade style burger + fries

แฮมเบอร์เกอร์ที่ทางร้านพิถีพิถันทำตัว Patty ขึ้นมาเอง จากถั่วและธัญพืชต่าง ๆ เช่น ถั่วลูกไก่ เลนทิล และควินัว มาผสมกับสมุนไพร ด้วยเทคนิคและสูตรเฉพาะของร้าน ทำให้ได้รสชาติที่ไม่ซ้ำใคร ควรค่าแก่การมาลิ้มลองรสชาติมาก ๆ

“อยากชวนคนไทยให้หันมาใส่ใจสุขภาพ อย่ารอจนป่วยแล้วจึงตื่นตัว เพราะบางครั้งอารมณ์หงุดหงิดหรือการเจ็บป่วยเล็กน้อยก็อาจนำมาสู่การเจ็บป่วยที่ร้ายแรงในอนาคตได้ แค่เพียงหันมาใส่ใจจากสิ่งเล็ก ๆ ก็จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองได้ เริ่มด้วยการปรับเปลี่ยนการทานอาหาร จากกินเนื้อสัตว์มาเป็น Plant-based food อาจจะนาน ๆ ครั้ง หรือกินอย่างสม่ำเสมอก็ได้ เพราะอาหารประเภทนี้เป็นอาหารพลังงานสะอาดที่จะทำให้สุขภาพกายและใจดี” คุณพิมพ์วลัญช์ทิ้งท้าย

สำหรับคนกรุงที่ไม่รู้จะไปร้านไหนดีช่วงเจนี้ หรืออยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตัวเอง มาสัมผัสและลิ้มลองรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ Plant-based ที่ไม่ซ้ำใคร ได้แล้ววันนี้ที่ “VIBE Coffee & Plant-based food” @Vtara

  • เดินทางง่าย ๆ ด้วย BTS สถานีทองหล่อ แล้วเดินต่อเข้าซ.สุขุมวิท 36 ประมาณ 700 ม. จะเจอร้านอยู่ทางขวามือ หรือนั่งวินมอเตอไซต์ราคา 15 บาท
  • ใครที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมา ที่นี่มีลานจอดรถที่กว้างขวาง สะดวกสบายรองรับได้หลายร้อยคัน ที่สำคัญคือแสตมป์บัตรจอดรถได้ฟรี โดยสามารถจอดได้ที่อาคารวีธารา (Vtara Sukhumvit 36) ชั้น B1
  • ใช้บริการ Shuttle Service รับส่งฟรี BTS สถานีทองหล่อ – วีธารา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/vibecoffeebkk

LINE: @vibecoffeebkk และ

Tel: 097-298-5570

หรือจะใช้บริการจัดส่งอาหารฟรีภายใน 5 กม.จากร้าน ก็แสกน QR Code ข้างล่างนี้ได้เลย!

“VIBE Coffee & Plant-based food อิ่ม จบ ครบทุกเรื่อง Plant based food”

เริ่มวันที่ 16 ตค เป็นต้นไป ทางร้าน VIBE จะปรับเวลาทำการใหม่เป็น 7.00 – 21.00 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน