บทบาททางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กำลังถูกแสงแห่งสปอตไลต์ฉายจับอย่างโดดเด่น
ไม่เพียงแต่จะไปปรากฏตัวที่พรรคประชาธิปัตย์
ในห้วงที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังหาทางออกร่วมกันในการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ในคืนวันที่ 4 มิถุนายน
ก่อนร่วมกันประสานเสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในคืนวันที่ 5 มิถุนายน
เสริมเติมจำนวน 500 เสียงให้แข็งแกร่ง มั่นคง
หากแม้เมื่อมีการเคลื่อนไหวของ 10 ส.ส.จาก 10 พรรคการเมือง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ปรากฏเงาร่างขึ้น
เท่ากับยืนยันฐานที่มาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โดดเด่น
หลายคนอาจสงสัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขึ้นกับกลุ่มการเมืองใดภายในพรรคพลังประชารัฐ
เหมือนกับจะอยู่ในสายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
แต่เมื่อเขาออกมาเตือนนิ่มๆ “เป็นเรื่องมารยาททางการเมือง เพราะเราอุตส่าห์ไปเชิญเขามาร่วม เด็กก็ควรอยู่แบบเด็กไม่ควรไปเทียบชั้นหัวหน้าพรรค”
ทำให้เห็นว่าเป้าการเตือนคือการโพสต์ข้อความพาดพิงไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ของเด็กในสายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน บางคน
จึงเด่นชัดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่น่าจะเป็นดาวบริวารในกลุ่มสามมิตรอย่างแน่นอน
และพลันที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปแสดงบทบาทกำราบการเคลื่อนไหวของบาง ส.ส.จากบางพรรคใน 10 พรรคการเมืองที่นัดทวงโควตารัฐมนตรี
การแยก 8 พรรคออกจาก 2 พรรคจึงเป็นฝีมือแท้ๆ โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มิใช่ใครที่ไหน
ในเมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มิได้อยู่ในเครือข่าย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในเมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปอยู่กับนาทีสุดท้ายก่อนพรรคประชาธิปัตย์จะตัดสินใจ
ดัชนีจึงชี้ออกมาอย่างเด่นชัดว่า คำตอบสุดท้ายก่อนพรรคประชาธิปัตย์จะขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาจากใคร
ใครคนนั้นแหละที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต่อสายตรง