มนุษย์ลุงห้ามไล่

คอลัมน์ ใบตองแห้ง

มนุษย์ลุงห้ามไล่ – มนุษย์ลุงไม่ยอมรับว่าประชาชนเบื่อ ไม่ยอมให้วิ่งไล่ อ้างว่าไม่เป็นประโยชน์กับคนไทย 60 ล้านคน

มนุษย์ลุงไม่ใช่ญาติผู้ใหญ่ ไม่ได้เป็นญาติข้างพ่อข้างแม่ มาจากไหนไม่เคยรู้จัก ใช้ปืนใช้รถถังบังคับ ตั้งตนเป็นผู้อบรมสั่งสอนคนไทย อะไรก็ตัวเองดีหมด ถูกหมด รู้ไปหมด มีศีลธรรมแต่ผู้เดียว ประชาชนรู้น้อย ไม่รู้จักใช้ชีวิต ไม่รู้จักทำมาหากิน มีแต่กิเลสอยากได้โน่นได้นี่ ไม่รู้จักพอ เรียกร้องจะมีสิทธิเสรีทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย

น้ำท่วมก็ต้องสอนให้เลี้ยงปลา น้ำแล้งก็ขุดบ่อเอาหน้าดินขาย น้ำกร่อยก็เอาไปต้ม จะได้เค็มยิ่งๆ ขึ้นไป แปรงฟันก็ต้องรู้จักปิดน้ำ ประหยัดวันละ 9 ลิตร อนิจจาคนไทย ต้องให้มนุษย์ลุงที่สมองหายไปครึ่งหนึ่งมาสั่งสอนรายวัน

ไม่ได้ต้องการอำนาจผลประโยชน์ อ้าว งั้นใครตั้ง 250 ส.ว.มาโหวตตัวเองเป็นนายกฯ ถ้าทำผิดก็มีองค์กรอิสระตรวจสอบ อ้าว แล้วใครตั้งองค์กรอิสระ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตามกติกา ก็เครือข่ายเดียวกันทั้งนั้นที่กำหนดกฎกติกา

พูดราวกับว่าประชาชนรู้ไม่ทัน มันก็แผงเดียวกันทั้งนั้น ทั้งผู้นำ คสช. ที่ต่อท่ออำนาจมาเป็นผู้นำรัฐบาล ทั้งผู้นำเหล่าทัพ 250 ส.ว. องค์กรกฎหมาย องค์กรอิสระ รัฐราชการ ไปจนกระทั่งเครือข่ายอธิการบดี สภามหาวิทยาลัย ทั้งหมดคือตัวถ่วงประเทศ ตัวทำลายประชาธิปไตย แย่งอำนาจไปจากประชาชนไทย ซ้ำร้าย ยังสมคบกับนักการเมืองเลว เจ้าพ่ออิทธิพล

ประชาชนรู้ทันหมดนั่นแหละ เพียงแต่เครือข่ายมันใหญ่โต มีอำนาจมหาศาล เกินกำลังที่ประชาชนจะโค่นล้มได้ จึงจำยอมอยู่ใต้อำนาจล้าหลัง ผู้นำหลงตัวเอง รัฐมนตรีฉลาดน้อย อย่างที่ออกมาคุยโวว่าทรัมป์ส่งซิกให้รู้ก่อนใคร

ถ้าจะมีอะไรประเทืองความเดือดดาลของผู้รักประชาธิปไตย ก็คือได้หัวร่อน้ำหูน้ำตาไหล กับความโง่ที่ไม่เคยปรานีใคร

หรือไม่ก็หัวร่อให้องคาพยพพิกล แบบเชื่อมั่นว่า โดรนสหรัฐทำอะไรนายพลไทยไม่ได้ เพราะนายพลไทยมีมากกว่าโดรน

รัฐบาล คสช.สืบทอดอำนาจผ่านเลือกตั้งพิธีกรรม การแข่งขันจอมปลอม เพราะกำหนดกติกาเอาเปรียบไว้แล้ว ตั้ง 250 ส.ว.มาโหวตตัวเอง เท่านั้นไม่พอ ยังเอาชนะด้วยสูตรคำนวณ ส.ส.เศษคน ที่ครูสอนคณิตศาสตร์ต้องเผาตำรา

รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ก็ใช้นิติสงคราม ทำลายพรรคฝ่ายค้าน พร้อมกับกว้าน ส.ส.งูเห่า ภายใต้ “เผด็จการรัฐสภา” ที่เหนียวแน่นมั่นคง เพราะต่อให้แพ้โหวต ยุบสภา ลาออก 250 ส.ว.ก็เลือกประยุทธ์กลับมาใหม่ ทำอย่างไรฝ่ายค้านก็ไม่ชนะ

เมื่อคุมอำนาจเบ็ดเสร็จในสภา ก็อ้างว่าเป็นรัฐบาลจากเลือกตั้ง มีอำนาจตามกฎหมาย แล้วใช้กฎหมายจำกัดสิทธิเสรีภาพ ทั้งที่อ้างว่าอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เช่นการใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ จำกัดสิทธิ “วิ่งไล่ลุง” ตามจังหวัดต่างๆ โดยตำรวจใช้อำนาจเกินขอบเขต เช่น อ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ต่อต้านรัฐบาล ผิดกฎหมาย

ประชาชนมีสิทธิต่อต้านรัฐบาลนะครับ (เว้ย) เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ผิดกฎหมาย ตำรวจห้ามไม่ได้ ตำรวจเพียงมีหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ที่จะต้องอำนวยความสะดวกให้ชุมนุมหรือวิ่งหรือทำกิจกรรม ในพื้นที่ที่เตรียมไว้ ซึ่งในกรณีวิ่งไล่ลุง ก็ไม่ใช่การปิดถนนปิดเมืองปิดสนามบิน เป็นการวิ่งอย่างมีกำหนดเวลา ในช่วงที่ไม่รบกวนใคร วิ่งการกุศล แห่นาค แห่ขันหมาก แห่สิงโต ฯลฯ ตำรวจก็จัดให้มาเยอะแล้ว

ถ้าเชื่อศรีสุวรรณ เคลื่อนไหวการเมืองต้องขออนุญาตตำรวจ ซึ่งอยู่ใต้อำนาจรัฐบาล ประชาชนก็ไม่ต้องทำอะไรกัน เว้นแต่เดินสอพลอ หรือชูป้ายเชียร์ เวลาไปเยี่ยมจังหวัดต่างๆ

แต่มนุษย์ลุงอ้างความสงบ ยกก้นตัวเองมีพระคุณต่อประเทศชาติประชาชน เข้ามารักษาความสงบ จากใคร? ก็จากม็อบปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้งทำประเทศฉิบหาย ที่ตอนนี้เข้ามาชูคออยู่กับมนุษย์ลุงทั้งนั้น

ระบอบมนุษย์ลุงมุ่งหวังครอบงำประเทศ ครอบงำความคิดประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนที่จะเติบโตเป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งที่โลกไปถึงไหนกันแล้ว ให้โอวาทเด็กก็บอกให้รู้จักหน้าที่ อย่าเรียกร้องเสรีภาพ ทั้งที่อยากให้ปฏิรูปการศึกษา อยากให้เด็กคิดเป็น แต่ไม่ยอมให้คิดวิพากษ์ ปฏิรูปการศึกษาจึงได้ ผอ.ให้เด็กกราบไหว้ ได้โรงเรียนบ้าคลั่งวัดระดับความดังร้องเพลงชาติ

ระบอบนี้ไม่มีทางประสบความสำเร็จ มีแต่จะขัดแย้งกับคนรุ่นใหม่ ไม่มีวันที่คนรุ่นหลังจะยกย่อง มีแต่จะประณามเย้ยหยันไยไพ

แต่ไม่ต้องมองไกลขนาดนั้น ภายใต้ความกดดันทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจสังคมการเมือง แน่ใจนะว่ามนุษย์ลุงจะอยู่ครบสี่ปี หรือเอาแค่ปีนี้ก็เถอะ ทุกอย่างจะรุมเร้า แผงอำนาจแม้เหนียวแน่นมั่นคงก็จะเผชิญความหวั่นไหว รู้แก่ใจว่าดันทุรังอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้

ประชาชนคาดไม่ออกหรอกว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แต่ขอให้เกิดอะไรสักอย่าง ดีหรือร้าย ก็ยังดีกว่าไม่เปลี่ยนเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน