ป้องเด็กจาก‘โควิด’

หมอแนะวิธีดูแลให้ห่างโรค

ป้องเด็กจาก‘โควิด’ หมอแนะวิธีดูแลให้ห่างโรค – สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่กำลัง แพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทย ทำให้หลายคนเกิดความวิตกกังวล ยิ่งในครอบครัวที่มีเด็ก

ความกังวลของพ่อแม่ผู้ปกครองยิ่งมีมากขึ้น แม้รายงานการติดเชื้อในเด็กมีไม่มากนัก แต่การเฝ้าระวังโรคทั้งตัวผู้ปกครอง หรือแม้แต่ตัวเด็ก ก็ต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19

นพ.พรเทพ สวนดอก กุมารแพทย์ สาขาโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ที่เด็กติดเชื้อไม่มาก เพราะไม่ได้เดินทางหรือพบปะผู้คนมากเท่าผู้ใหญ่ ทำให้โอกาสติดเชื้อน้อยลง และยังอยู่ในช่วงปิดเทอม ส่วนใหญ่เด็กมักได้รับเชื้อมาจากผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ชิด หรือติดจากเพื่อนที่โรงเรียน

สิ่งที่สำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ในบ้าน ควรต้องรักษาสุขอนามัยของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่เอาเชื้อมาติดเด็กๆ ต้องล้างมือและทำความสะอาดตัวเองทุกครั้งก่อนสัมผัสลูก เด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไปสามารถสวมใส่หน้ากากอนามัยได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่แนะนำในเด็กเล็กสวมใส่หน้ากากอนามัยโดยไม่มีผู้ปกครองดูแล เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจยังไม่แข็งแรง อาจทำให้หายใจลำบากได้ ที่สำคัญคนใกล้ชิดเด็กต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย

นอกจากโอกาสการติดเชื้อของเด็กมีน้อยกว่าผู้ใหญ่แล้ว ความรุนแรงและผลกระทบต่อสุขภาพก็น้อยกว่าเช่นกัน เพราะระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกันของเด็กทั่วไปมักแข็งแรง มีการปรับตัวต่อการติดเชื้อไวรัสอยู่อย่างต่อเนื่อง ยกเว้นเด็กที่มีโรคประจำตัวหรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยอาการของโรคในเด็กคล้ายกับผู้ใหญ่ แต่มักไม่รุนแรงเท่า คือ มีอาการไข้สูง ไอ หายใจเร็วหรือปอดบวม ซึ่งคุณหมอใช้วิธีการรักษาตามอาการและเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อน

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กมีโอกาสติดเชื้อโรคโควิด-19 นอกจากการได้รับเชื้อมาจากผู้ใหญ่และคนในครอบครัวแล้ว การพาเด็กไปในที่สาธารณะ ชุมชน สถานที่ที่มีคนเยอะ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการพาไปพื้นที่เสี่ยงโดยไม่จำเป็น

หากเด็กมีอาการป่วย แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตอาการดังต่อไปนี้ ไข้สูง ไอ เหนื่อยหอบ ซึม ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที และที่สำคัญต้องแจ้งข้อมูลต่างๆ ให้กับทางโรงพยาบาลโดยละเอียด โดยเฉพาะประวัติการเจ็บป่วยของคนในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมโรงเรียน

นพ.พรเทพกล่าวต่อว่า การป้องกันที่สำคัญ หลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กสัมผัสสิ่งของต่างๆ โดยไม่จำเป็น ไม่ใช้สิ่งของประจำตัวร่วมกับผู้อื่น กินอาหารปรุงสุก ไม่กินของสุกๆ ดิบๆ ใช้ช้อนกลาง และล้างมืออย่างถูกวิธีที่สำคัญทำความสะอาดที่อยู่อาศัยไม่ให้เป็นแหล่งรังโรค สังเกตอาการเจ็บป่วยของคนในบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เอาเชื้อมาติดลูกได้ สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัว ควรควบคุมโรคเดิมให้ดี กินยาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันโรคไอพีดี เพื่อป้องกันปอดอักเสบ

“อีกหนึ่งเกราะป้องกันลูกรักให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19 คือ การสร้างความรู้ความเข้าใจกับตัวโรคแก่เด็ก ให้เข้าใจถึงสถานการณ์และการปฏิบัติตัว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้กับเด็กๆ ได้ อาทิ 1.บอกกับลูกว่า ตอนนี้มีเชื้อโรคตัวใหม่และรุนแรง ที่สามารถติดกันได้ง่ายจากการไอ จาม และการสัมผัสสิ่งของร่วมกันทุกคนต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น 2.สอนให้ลูกล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ทุกครั้งอย่างถูกต้อง ก่อนและหลังทำกิจกรรมต่างๆ 3.อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า ควรหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าหรือเอามือเข้าปาก เพราะทำให้ติดเชื้อโรคได้ 4. ต้องใส่หน้ากากอนามัยเสมอเมื่อไปนอกบ้านหรือที่มีคนเยอะ”

นพ.พรเทพกล่าวด้วยว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ แนะนำว่าประชาชนทั่วไปควรตระหนักกับโรคระบาด แต่ไม่ตระหนกกับโรค จนเครียด นอนไม่หลับ ภูมิคุ้มกันของตัวเองลดลง ที่สำคัญการเว้นระยะห่างทางสังคม ลดการออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะ เน้นเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคล หมั่นล้างมือ กินอาหารปรุงสุกใหม่ สวมหน้ากากอนามัย และคอยติดตามข่าวสารอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้เราสามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน