เหมือนกับว่า “ยุบพรรค” จะเป็น “ไม้เด็ด”จากคสช.และรัฐบาลที่จะจัดการกับ “พรรคเพื่อไทย”
โดยยกกรณีที่มีข่าวการบินไปพบ”ทักษิณ ยิ่งลักษณ์”
ไม่ว่าจะเป็นที่จีน ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นที่ฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นที่สิงคโปร์
ล้วนเป็นเรื่องล่อแหลม
เป็นความล่อแหลมและแหลมคมพอๆกับคำถามที่ว่า”ทักษิณ ยิ่งลักษณ์”มาปรากฏตัวที่จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ด้วยจุดประสงค์อะไร
ต้องการมาเนื่องในเทศกาล”ตรุษจีน”อย่างนั้นหรือ
เป็นความล่อแหลมและแหลมคมพอๆกับที่ 1 คสช. และ 1 รัฐบาลต้องการคำตอบ
ทั้งๆที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างคลุมเครือ
ประเด็นที่ว่ากระบวนการ”ยุบพรรค”จะสามารถเป็น”ไม้เด็ด”ในการจัดการกับ “พรรคเพื่อไทย”หรือไม่
ต้องย้อนไปยังบทเรียนในการ”ยุบพรรค”ที่ผ่านมา
นั่นก็คือ การยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 นั่นก็คือ การยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551
เพราะยุบพรรคไทยรักไทยจึงเกิดพรรคพลังประชาชน
ขณะเดียวกัน เพราะยุบพรรคพลังประชาชนจึงเกิดพรรคเพื่อไทย
การเลือกตั้งในห้วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา
พรรคไทยรักไทยกำชัยจากเมื่อเดือนมกราคม 2544 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 พรรคพลังประชาชนกำชัยจากเมื่อเดือนธันวาคม 2550 พรรคเพื่อไทยกำชัยจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
อาจกล่าวได้ว่าเป็นชัยชนะใน 1 ทศวรรษ
จึงเห็นได้ชัดว่า การยุบพรรคมิได้เป็นมาตรการยอดเยี่ยมในการโค่นล้มและทำลายไทยรักไทย พลังประชาชน
เพราะสามารถเกิดพรรคเพื่อไทยขึ้นมาได้
พรรคและบางกลุ่มการเมืองอาจจะดีใจเหมือนกับเมื่อตอนยุบพรรคไทยรักไทย หรือยุบพรรคพลังประชาชน
แต่คำถามก็คือสามารถเอาชนะพรรคในแบบไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย ในสนามเลือกตั้งได้หรือไม่
ตรงนี้แหละคือแรงสะท้อนจากมาตรการ”ยุบพรรค”