ใครที่ติดตามการประชุมมหาเถรสมาคมมาอย่างต่อเนื่อง ย่อมจับความผิดปกติได้ในบรรยากาศก่อนและหลังการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 20 เมษายน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากการแถลงข่าวผลการประชุมของผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พ.ต.อ.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์
แทนที่จะเป็นการแถลงข่าวรายละเอียดการประชุมมหาเถรสมาคมกลับเป็นการออกมา “ชี้แจง” และยืนยันในเรื่องการดำเนินคดีกับพระมหาเถระที่อึกทึกครึกโครม 2-3 วันที่ผ่านมา
เสมอเป็นเพียง “เป็นการกล่าวหาตามมูลหรือหลักฐานที่ตำรวจให้ไปแจ้งความ”
“ยังไม่มีพยานหลักฐานครบถ้วนที่จะพิสูจน์ได้ว่าใครผิด ถูก”

ความสงสัยก็คือ เหตุปัจจัยอันใดทำให้ พ.ต.อ.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ต้องออกมาแถลง
ทั้งๆที่เป็นครั้งแรกนับแต่ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายน
เป็นการแถลงข่าวในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และในฐานะเลขานุการมหาเถรสมาคมอย่างแน่นอน
ประเด็นอยู่ที่ว่าเป็นการแถลงข่าวโดยสมัครใจหรือว่าไม่สมัครใจ
แจ่มชัดอย่างยิ่งว่า “ไม่สมัครใจ”
แจ่มชัดอย่างยิ่งว่า ถูกกระแสกดดันจากภายในที่ประชุมมหาเถรสมาคม ไม่ว่าจะเป็นกรรมการจากสายธรรมยุติ ไม่ว่าจะเป็นกรรมการจากสายมหานิกาย ล้วนแสดงความแคลงใจในบทบาทของเลขานุการมหาเถรสมาคม
ทำไมจึงไม่มีการปรึกษาหารือก่อนร้องทุกข์”กล่าวหา”
ทั้งๆที่ก็นั่งและเห็นหน้าเห็นตากันอยู่ภายในที่ประชุมมหาเถรสมาคมนั่นเอง

ทั้งหมดนี้เหมือนกับย้อนกลับไปยัง”บรรยากาศ”อันเคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 อีกคำรบหนึ่ง
นั่นก็คือ สภาพ”มึนตึง”และ”หมางเมิน”
อันดำรงอยู่ระหว่างพระ และโดยเฉพาะระหว่างกรรมการมหาเถรสมาคมกับเลขานุการมหาเถรสมาคมและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วภายในศาสนจักร
ความตึงเครียดนี้ยังดำรงอยู่อย่างเด่นชัดและอาจบานปลาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน