ลุ้นด้วยสิ! นางงามสายประกวด-นางแบบแฟชั่นวีก ชิงมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่ สำนักงานใหญ่ บริษัทวุฒิศักดิ์ฯ ห้องประชุม 600 ชั้น 6 ได้จัดงานสัมนาในหัวข้อ ‘การดูแลผิพรรณสำหรับผู้หญิง และความรู้ทางโภชนาการ’ โดยมีผู้เข้าประกวดจากเวทีมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019 จำนวน 57 คน ร่วมงานด้วย คุณกวิน สัณฑกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท วุฒิศักดิ์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวต้อนรับ รวมถึงการเซอร์ไพรส์ของ พอลล่า เอ็ม ชูการ์ต ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส ที่เข้ามากล่าวรับขวัญ และให้กำลังใจสาวงามในการประกวดครั้งนี้ด้วย

ในส่วนของการบรรยายเรื่องผิวพรรณได้รับเกียรติจาก นพ.สว่าง อัมพรพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ชะลอวัย ได้แนะนำเทคนิกการดูแลผิวแบบรอบด้าน ทางด้านผศ.ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แนะนำการดูแลผิวและสุขภาพจากการรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ เป็นการบูรณาการความสวยแบบภายนอกและภายใน ให้สาวๆ นำไปใช้เสริมการดูแลสุขภาพให้สวยอย่างยั่งยืน ทั้งนี้บริษัทวุฒิศักดิ์ฯ ยังเป็นผู้สนับสนุนรางวัลแก่ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง

โดยในช่วงบ่ายน้องๆ สาวงามยังได้เยี่ยมชม บริษัทวุฒิศักดิ์ฯ และทำกิจกรรมร่วมกันอีกมากมาย

นอกจากนี้เรายังมีโอกาสสัมภาษณ์สาวงามแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ถึงการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้

เฟิร์ส น.ส.ภัทราพร หวัง อายุ 24 ปี ผู้ประกวดหมายเลข 9 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิต สาขาการจัดการด้านการบิน ปัจจุบันทำงานเป็นนางแบบอาชีพ เปิดเผยว่า

หนูเคยผ่านการประกวดเวทีมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ปี 2014 ตอนนั้นได้รองอันดับ 3 จากนั้นก็ได้ไปประกวดที่เวทีมิสอินเตอร์คอนติเนนตัลไทยแลนด์ ปี 2014 ที่เยอรมนี และได้ตำแหน่งมิสอินเตอร์คอนติเนนตัล ปี 2014 โดยเริ่มเดินสายประกวดตั้งแต่อายุ 19 ปีค่ะ

หนูเตรียมตัวทุกด้านก่อนที่จะมาเข้าประกวดครั้งนี้ ซึ่งเรื่องการเดินแบบเป็นสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยจะโฟกัสไปที่การฝึกตอบคำถาม และภาษาอังกฤษ เพราะประสบการณ์ครั้งแรกที่ประกวดเรายังเป็นเด็กอยู่ก็ยังพูดจาไม่ฉะฉาน ตอบคำถามไม่ตรง และได้ภาษาอังกฤษนิดหน่อย เวลาผ่านมา 5 ปี เราจึงพยายามพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ

เรื่องที่เป็นจุดเด่นของตัวเอง ถ้าเป็นรูปลักษณะภายนอกก็จะเป็นเรื่องความสูง และหน้าตา หนูเป็นคนสะโพกค่อนข้างใหญ่ ทำให้บางคนมองอาจจะคิดว่าเฟิร์สเอวเล็ก และเราเป็นลูกครึ่งไต้หวัน ที่มีความเป็นไทย เป็นส่วนผสมที่ออกมาลงตัว นอกจากนี้เรายังมีประสบการณ์ในเวทีประกวดมาหลายปี คุณสมบัตินี้เฟิร์สจึงคิดว่าเป็นข้อได้เปรียบที่จะคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส

เป้าหมายสูงสุดในเส้นทางนางงามคือ มิสยูนิเวิร์สค่ะ เพื่อคว้ามงที่ 3 มาให้แก่ประเทศไทย

การเตรียมตัวเข้าแข่งขันในระดับโลกนั้น หนูคิดว่าการทำงานกับองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราไม่มีวินัยไม่มีระเบียบ หรือความรับผิดชอบเราก็จะไม่สามารถทำงานกับองค์กรใหญ่ๆ ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้เรียนรู้จากทีมงานและผู้เชี่ยวชาญกับทาง TPN (ผู้จัดการประกวด) ที่เตรียมโปรแกรมเพื่อเทรนพวกเราอย่างเข้มข้น ให้สามารถไปสู่เวทีใหญ่อย่างสง่างามได้ค่ะ

เฟิร์สโชคดีมากๆ ค่ะ ที่ทางบ้านและครอบครัวให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ จริงๆ เฟิร์สเป็นคนที่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร รู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรในการประกวด คุณแม่จะเป็นคนคอยดูแลเรื่องต่างๆ แทนเราทั้งหมดโดยเฉพาะในช่วงที่เตรียมตัวประกวด เช่น อาหารการกินที่ และการดูแลความสวยความงาม ซึ่งเรารู้ว่าคุณแม่มีความเชื่อในตัวเราว่าเราสามารถทำได้

************

เบลล่า น.ส.ธนัชพร บุญแสง อายุ 24 ปี ผู้เข้าประกวดหมายเลข 3 จบการศึกษาจากคณะโบราณคดี เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร อาชีพนางแบบ

ก่อนเข้ามาแข่งขันเวทีนี้ ก็เตรียมตัวเรื่องการแอ๊กติ้งเบื้องต้น เผื่อสามารถนำไปใช้บนเวทีได้ เช่น การเดิน และจริตจะก้าน แล้วก็เรียนเรื่องการพูด การใช้เสียง และบุคลิก

จุดเด่นของหนูคือรอยยิ้มค่ะ เพราะเป็นคนที่ยิ้มกว้าง และยิ้มสวยแบบจริงใจ คือหลายๆ เห็นแล้วมักจะบอกว่าอยากยิ้มตาม และหนูเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมาก คือก่อนที่หนูจะมาเป็นนางแบบได้อย่างทุกวันนี้ หนูถูกปฏิเสธงานมานับครั้งไม่ถ้วน อาจจะเป็นเพราะว่าสีผิวเรามันไม่เป็นที่นิยมของคนไทยมากนัก แม้จะมานิยมบ้างในภายหลัง แต่ก็ต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียงพอสมควร หนูเลยตัดสินใจเดินทางไปที่เมลเบิร์น ออสเตรเรีย อยู่ที่นั้นประมาณ 2 ปี

แต่ก่อนที่จะได้เข้าในบริษัทเอเจนซี่ก็ต้องพยายามเดินไปสมัครหลายที่ซึ่งก็ถูกปฏิเสธตลอด โดยเขาให้เหตุผลว่า มีนางแบบลุกแบบนี้แล้ว อาจจะไปทับไลน์คนอื่นจนทำให้หางานลำบาก เราก็ยอมรับในตอนนั้นแต่ก็พยายามสู้ต่อไป จนวันหนึ่งมีการแคสติ้งในงาน เมลเบิร์นแฟชั่นวีคประมาณปี 2017 เราก็เข้าในแคสโดยที่ไม่มีสังกัด ก็รู้สึกว่ามั่นมากตอนนั้น เข้าไปก็ไม่งานงานนะคะ แต่ว่า Booker คนหนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วบอกว่า ‘คุณสวยมาก’ แล้วเขาอยากได้ลุกแบบนี้ เพราะเราไม่ได้ดูเอเชียเกินไป

เขาคิดว่าเราอาจจะมีเชื้อชาติอื่นผสมอยู่ แต่จะบอกว่าเราคือคนไทยแท้ค่ะ หรืออาจจะบอกว่ามิกซ์ LA ค่ะ ร้อยเอ็ด (หัวเราะ) จากนั้นเขาก็เรียกเราเข้าไปเซ็นสัญญากับเอเจนซี่ ในใจตอนนั้นก็รู้สึกภูมิใจมาก ที่เราทำได้แล้ว จากนั้นก็ทำงานที่นั้นประมาณ 2 ปี ก่อนกลับมาเดินตามความฝันต่อที่ไทยค่ะ

ในเส้นทางนางงามหนูก็อยากจะเป็นมิสยูนิเวิร์สค่ะ หนูคิดว่าการเป็นตัวเองเป็นสิ่งที่เขาอยากจะเห็น ประกอบกับการพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมบ้าง

ครอบครัวสนับสนุนเต็มที่ คุณแม่อยากจะให้หนูเป็นนางงามมาก โดยบิ้วท์หนูให้เข้าประกวดมาหลายปี จนวันนี้ได้เข้ามาแล้วก็มีความสุขมากค่ะ

หากใครอยากชมความเคลื่อนไหวแบบใกล้ชิดก็ติดตามได้ที่ เว็บไซต์ https://missuniverse.in.th/ หรือเฟซบุ๊กเพจ Miss Universe Thailand 2019

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน