เสริมสะโพกซิลิโคน ศัลยแพทย์แนะ วิธีถนอมก้นหลังผ่าตัด แผลไม่เน่า ไม่ฉีก ไม่ติดเชื้อ

เสริมสะโพกซิลิโคน หวังปังลงทุนบินไกลศัลยกรรมยกเครื่องครั้งใหญ่ถึงเกาหลี สำหรับ “น้ำเพชร น้ำเพชร ฏีญาภาร์” เพื่อเตรียมหนังหน้าร่างสะบึ้มไปประกวดนางงามเวทีมิสเอิร์ธ ปี 2019

“มาเก็บกรอบหน้าที่ตกจากการทำโครงหน้ารอบที่แล้วให้เป๊ะ โดยการดูดไขมันที่เหนียงและแก้ม จากนั้นก็ร้อยไหมเก็บค่ะ” น้ำเพชรโพสต์ข้อความลงอินสตราแกรม เมื่อ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

“ดูดไขมันทั้งตัว แขน รอบต้นขา เอวคอด เสริมก้น โดยใช้ซิลิโคน ตอนนี้ก้นสวยมาก มีก้นใหญ่ I Have Big Booty วันแรกยังบวมอยู่นะ สวยให้สุด สวยตั้งแต่หน้ายันก้น”

แต่ “ก้นเน่า” เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง เกือบเข้ากระแสเลือด

“เผลอไปเข้าห้องน้ำสาธารณะที่มันไม่ค่อยสะอาด และบินกลับไทยโดยที่คิดว่า แผลเราหายสนิทแล้ว พอกลับถึงไทยก็รู้สึกว่ามีหนองไหลออกมาจากแผลเลย” เธอเพิ่งโพสต์ย้อนเล่ามหากาพย์การรักษา เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา

ต้องเสียเงินเสียทอง เสียเวลา ทำงานไม่ได้เป็นเดือน ที่สำคัญ ในการรักษาช่างทรมานแสนสาหัส นั่งไม่ได้ ต้องนอนคว่ำเท่านั้น ต้องให้ยาผ่านทางเส้นเลือดเป็นเวลานานกว่า 15 วัน หนำซ้ำ ต้องหอบสังขารอันอ่อนเปลี้ยขึ้นเครื่องบินไปเย็บปิดแผลที่เกาหลีอีก รวมเวลาทั้งหมดเกือบ 2 เดือน แทบเอาชีวิตไม่รอด

เธอยอมรับว่าจิตตก เครียด และเข็ดมาก ที่ไม่ใส่ใจดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

“การทำศัลยกรรมไม่ได้น่ากลัว และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนแบบนี้ ถ้าเราดูแลตัวเองดี”

ทีนี้ต้องดูแลตัวเองหลังผ่าตัดศัลยกรรมอย่างไร ควรมีข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องค่ะ

นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด มาให้คำแนะนำสำหรับการดูแลตนเองภายหลังการศัลยกรรมอย่างถูกวิธี

“สิ่งสำคัญสำหรับการทำศัลยกรรมคือ เรื่องความปลอดภัย”

“การทำศัลยกรรมให้ปลอดภัยมีอยู่ 3 ส่วนหลัก ข้อแรกคือ ก่อนผ่าตัดควรตรวจวิเคราะห์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการผ่าตัด เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมและพอดีกับรูปร่าง ข้อสองคือ เทคนิคการผ่าตัด แพทย์ต้องมีเทคนิคการผ่าตัดที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดผลแทรกซ้อนภายหลัง”

ข้อสุดท้าย เป็นประการสำคัญที่มักจะลืมกันคือ การดูแลตนเองหลังผ่าตัด คนไข้ต้องดูแลตนเองอย่างดีด้วย แม้ก่อนทำการผ่าตัดจะมีการวิเคราะห์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีเทคนิคการผ่าตัดที่ดีแล้ว แต่หลังการผ่าตัดหากคนไข้ดูแลตนเองไม่ดีแล้ว อาจเกิดผลแทรกซ้อนภายหลังได้

สำหรับการเสริมสะโพก หรือเสริมก้น ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ควรระวังคือ อาจมีโอกาสติดเชื้อได้สูง เนื่องจากการเสริมสะโพก หรือเสริมก้นด้วยถุงซิลิโคน แผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณร่องก้น และอยู่ใกล้กับรูก้น

ถ้ามีการฉีดน้ำชำระล้าง หรือการทำความสะอาดไม่ดี ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ นอกจากนี้ หลังการผ่าตัดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แพทย์จะไม่แนะนำให้นั่งหรือนอนทับโดยตรง เนื่องจากในช่วงแรกแผลยังไม่หายดี เมื่อเกิดการกดทับ อาจส่งผลให้แผลเกิดการแยกได้ และอาจตามมาด้วยการติดเชื้อ ทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้

“การศัลยกรรมเสริมสะโพก หรือเสริมก้น ถือเป็นการผ่าตัดที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี สำหรับผู้ที่ไม่มีสะโพกหรือก้น เพียงแต่การดูแลหลังผ่าตัด ต้องใช้ความระมัดระวังหลังการผ่าตัดมากกว่าการศัลยกรรมทั่วไป โดยสองข้อห้ามหลักที่ต้องระมัดระวังคือ ในช่วง 1 สัปดาห์แรก ไม่ควรนั่งทับโดยตรง เพราะแรงกดทับที่เกิดโดยตรง อาจทำให้แผลตึงและแยกได้ แต่สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ เช่น การเดิน ส่วนการนอน ควรเป็นท่านอนคว่ำก่อน

นอกจากนี้ ต้องทานยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ และข้อสำคัญ งดการใช้สายฉีดชำระ ควรใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาด โดยทิศทางการทำความสะอาดควรมาด้านหน้า ไม่ย้อนไปด้านหลัง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรอยแผลผ่าตัด

ทั้งนี้ โดยทั่วไปการดูแลตนเองหลังการผ่าตัดเสริมสะโพก หรือเสริมก้น แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองอย่างละเอียด เพื่อไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อหรือผลแทรกซ้อนตามมาภายหลัง

แต่อย่างไรก็ตาม หากเกิดการติดเชื้อเพียงแค่บริเวณผิวหนัง วิธีการรักษา คือ การทานยาฆ่าเชื้อ หรือให้ยาฆ่าเชื้อผ่านทางเส้นเลือด ก็สามารถรักษาได้ แต่หากเกิดการติดเชื้อลามเข้าสู่โพรงด้านในที่มีการใส่ซิลิโคน มีหนอง การรักษาที่ถูกต้องคือ การนำถุงซิลิโคนออกและรักษาอาการติดเชื้อให้หาย โดยมากใช้ระยะเวลาในการรักษา 3-6 เดือน หลังจากนั้น สามารถเสริมสะโพก หรือเสริมก้น ได้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะปลอดภัยสูงสุด

มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด

ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่

เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499

http://bangmodaesthetic.com/home

Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter

LINE ID : @bangmod

Instagram : bangmodaesthetic

YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน