ฝุ่นจิ๋วผิวพัง คนไทยกำลังเผชิญ PM 2.5 เรื้อรัง หมอบอกเลยว่าคนมีสิวฝ้ากระ อ่วมแน่ คนผิวดี ก็หนีไม่พ้น แก่เร็วชัวร์ มารีบปกป้องและดูแลผิวพรรณกันด่วนๆ

ฝุ่นจิ๋วผิวพัง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ถึงกับต้องรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือ เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) หลายเขต โดยมีค่าอยู่ที่ 51-81 มคก./ลบ.ม.

ขณะที่พื้นที่ปริมณฑล สถานการณ์ PM 2.5 ก็เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพเช่นกัน โดยอยู่ในระดับ 47-67 มคก./ลบ.ม., ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในระดับ 41-65 มคก./ลบ.ม. ส่วนภาคเหนือ อยู่ในระดับ 40-92 มคก./ลบ.ม.

แน่นอน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพด้านปอดลมหายใจ รวมทั้งด้านผิวหนัง ลามไปถึงความงาม เช่นกัน

เรื่องผิวหนังเรื่องความงาม เกิดผลระยะสั้นและระยะยาวน.พ. วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ Medical Director และผู้ก่อตั้งเฮอร์ทิจูด คลินิก (Hertitude Clinic) กล่าวกับ ข่าวสด บิวตี้

“กรุงเทพฯ มีตึกเยอะ และลมพัดไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พอเกิดภาวะความกดอากาศสูงปั๊บ ฝุ่นก็ไม่วิ่งไปไหน มันก็สะสมอยู่บนท้องถนน ทำให้ปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ พอมันสัมผัสโดนผิวของเรา คนที่จะได้รับอันตราย ก็จะมีสองกลุ่มหลักๆ ด้วยกัน กลุ่มแรกคือ พวกที่เป็นโรคผิวหนังอยู่แล้ว พวกที่เป็นผื่นง่ายอยู่แล้ว โดนอะไรนิดหน่อยก็เป็นผื่น ไอ้ตัว PM 2.5 จะไปทำให้เกิดอาการระคายเคือง และภาวะผื่นที่เป็นยิ่งแย่ลง”

“กลุ่มที่สอง น้องๆ ที่เป็นสิว พอโดน PM 2.5 มันระคายเคือง เกิดสิวเห่อ สิวกำเริบ คนที่เป็นสิวง่าย ไม่ว่าโดนอะไรกระตุ้น สิวก็จะเห่อได้ PM 2.5 ทำให้สิวเห่อได้”

“ทางวิทยาศาสตร์ PM 2.5 เป็นโมเลกุลที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบ ทั้งแก่ ทั้งระคายเคือง ดังนั้นกลุ่มที่สามคือ คนที่มีปัญหาฝ้ากระจุดด่างดำ มันถูกกระตุ้นด้วยการอักเสบของผิวอยู่แล้ว พอโดน PM 2.5 ปั๊บ มันทำให้พวกรอยจุดด่างดำต่างๆ โดยเฉพาะพวกฝ้ากระ เข้มขึ้นได้ด้วยครับ”

นี่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่ทว่าในระยะยาว หมอวรพจน์บอกว่า

“ถ้าต้องเผชิญ PM 2.5 ในระยะยาว ต่อไปเรื่อยๆ แม้แต่คนที่ผิวสุขภาพดี ปราการปกป้องผิวตามธรรมชาติจะค่อยๆ แย่ลงๆ และในที่สุด มันก็อาจจะทำให้ผิวอ่อนไหวมากขึ้น ทำให้เป็นผื่นง่ายขึ้น ทำให้อาการโรคผิวหนังจากการแพ้ฝุ่นตามมา”

“มีรายงานการวิจัยมากมายจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มี PM 2.5 มากกว่าบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน หรือเกาหลีใต้ พวกนี้มี PM 2.5 เรื้อรังมานานกว่าบ้านเรา การเผชิญต่อ PM 2.5 มันทำให้เซลล์ถูกทำลาย ผิวมีริ้วรอย ความหย่อนคล้อย รวมถึงสีผิวที่ผิดปกติ ได้เร็วง่ายขึ้น พูดง่ายๆ ผิวเราก็จะแก่เร็ว นั่นเอง

หมอวรพจน์พูดเลยว่าวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ

“วิธีป้องกันทางด้านผิวหนังที่ดีที่สุดคือ ไม่ไปสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น ถามว่าเป็นไปได้มั้ยครับ เป็นไปไม่ได้เลย”

ดังนั้น หมอจึงแนะวิธีที่เป็นไปได้

“หนึ่ง หลบ พยายามหลบอยู่ในบ้าน ใครอยู่นอกเมืองก็ดีหน่อย พยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่มี PM 2.5 อย่างเช่น การออกไปท้องถนนในช่วงที่รถติดมากๆ PM 2.5 ก็จะมากขึ้น”

“สอง ปกป้อง พยายามใส่เสื้อผ้าแขนยาวที่ช่วยปกป้องผิวจากฝุ่น หน้าก็ควรจะใส่หน้ากาก ถ้าจะให้ดี ควรเป็นหน้ากาก N95-N99”

เสื้อผ้ากันไม่ได้ 100% หน้ากากก็ป้องกันได้อย่างมาก 95% แต่ก็ยังดีกว่าไม่ปกป้องด้วยอะไรเลย

“กลับบ้านต้องล้างให้สะอาด ด้วยสบู่หรือสารทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการขับถูผิว เพราะจะทำให้ปราการผิวเสียไป พอเราไปเผชิญ PM 2.5 มันจะเข้าสู่ผิวเราได้ง่ายยิ่งขึ้น”

“ถัดไป ก็ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ปกป้องผิว เป็นปราการป้องกันผิว เพิ่มจากปราการป้องกันผิวตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้ PM 2.5 สัมผัสผิวโดยตรง”

ทั้งนี้ ควบคู่กับการดูแลตัวเองจากภายใน ดื่มน้ำสะอาดประมาณวันละ 2 ลิตร เพื่อล้างสิ่งตกค้างและให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น เลี่ยงของหวาน แต่หันมากินผักผลไม้หลากสีสันมากขึ้น เพื่อรับสารต้านอนุมูลอิสระให้ร่างกายไว้ใช้ต่อสู้กับมลพิษทางอากาศด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน