ข้างกาย เหยื่อถูกละเมิดตั้งแต่ 4 ขวบ และถูกผู้ชาย 16 คน ข่มขืน จี้ ศธ.ปรับการเรียนการสอนเด็กอนุบาลเรื่องเพศ เด็กต้องรู้! จุดสงวนคืออะไร ใครห้ามจับ!

ข้างกาย เอรียาสกุล เจ้าของธุรกิจเช่าสินสอด หลังจากออกมาเปิดเผยเรื่องราวในอดีตที่เจ็บปวดจนกลายเป็นแผลเป็นในใจของตนเอง ผ่านเพจ “เฟซบุ๊ก “KhangGuy – ผู้หญิงที่ชื่อ ข้างกาย” และผ่านสื่อ ว่า เธอเคยเป็นเหยื่อจากการถูกละเมิดตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และตลอดชีวิตที่ผ่านมา เคยถูกข่มขืนจากผู้ชายถึง 16 คน โดยคนใกล้ตัว

วันนี้เธอกลายเป็นกระบอกเสียงและพลังขับเคลื่อนของเหยื่อผู้ถูกคุกคามละเมิดทางเพศ ตั้งมั่นเดินหน้าต่อสู้ให้ประเทศไทยมีบทลงโทษทางกฎหมายกับผู้ที่ก่อเหตุข่มขืนให้หนักข้อขึ้น

โดยก่อนหน้านี้ เธอได้ยื่นหนังสือผ่าน นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเรา และล่วงละเมิดทางเพศ จี้ลงโทษขั้นสูงสุดในคดีข่มขืน โดยให้ฉีดยาผู้กระทำผิดให้หมดสมรรถภาพทางเพศ เพื่อยุติความต้องการทางเพศ และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับเหยื่อ เนื่องจากเห็นว่าการปรับ จับ และขัง เป็นการลงโทษที่ไม่เพียงพอ

ล่าสุด เธอได้เดินหน้าสร้างเกราะป้องกันให้กับเด็กน้อยที่อาจถูกละเมิดโดยไม่รู้ตัว ด้วยการยื่นข้อเสนอ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้ไม่อยากให้เด็กคนไหนตกเป็นเหยื่อแบบเธออีกแล้ว ผลักดันให้มีการปรับแนวทางการสอนเด็กเล็ก ตั้งแต่อนุบาลให้รู้จักภัยใกล้ตัวหากถูกล่วงละเมิดจะได้แจ้งผู้ปกครองได้ เพื่อให้อนาคตการถูกล่วงละเมิดในเด็กจะน้อยลง

“จากที่เรียนมาตอนอนุบาล การบกพร่องทางการศึกษาที่หนูได้รับมา มันทำให้หนูต้องตกเป็นเหยื่อตั้งแต่อายุ 4 ขวบ การศึกษาไทยไม่ได้สอนให้เด็กอนุบาลเข้าใจว่า ของสงวนคือตรงไหน และผู้ปกครองไม่ทราบ ว่าจะต้องบอกลูกอย่างไร เพราะสมัยนั้นเราไม่มีใครพูดเรื่องเพศกัน แม้แต่สมัยนี้ก็ยังไม่พูดกันตั้งแต่อนุบาล

ที่โรงเรียนไม่สอน ครูไม่พูดถึง ที่บ้านก็ไม่พูดถึง ตั้งแต่เปิดเพจขึ้นมา มากกว่าพันข้อความส่งมาว่า ตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกันเลย ตกเป็นเหยื่อตั้งแต่อายุน้อย 3 ขวบ 5 ขวบ โดยที่ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพราะไม่มีใครสอน

เราไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น พอเกิดขึ้นเราบอกพ่อแม่ไม่ได้ บอกไม่เป็น ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร

หนูเคยบอกพ่อบอกแม่ว่า แม่ หนูไม่ชอบเล่นกับลุงเขา นี่คือสิ่งที่เด็ก 4 ขวบบอกแม่ แม่ไม่เข้าใจ หนูตกเป็นเหยื่อนั้นอยู่เป็นปี จนหนูได้มาเรียนสุขศึกษา เรื่องเพศศึกษา ในช่วง ม.1 ก็อายุ 12 ขวบแล้ว ตั้งแต่ 4 ขวบยันอายุ 12 หนูมีผู้ร้ายแล้วทั้งหมด 10 คน ที่ตกเป็นเหยื่อโดยไม่เข้าใจ”

ย้ำถึงเวลาต้องออกมาพูด จี้โรงเรียนในชั้นเรียนอนุบาล พูดคุยกันเรื่องนี้ ในการประชุมผู้ปกครองทุกครั้ง พูดให้ผู้ปกครองเข้าใจ

“พอหนูมาเรียนเพศศึกษา ครูบอกว่า ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว เพื่อที่จะไปเป็นภรรยาใครในอนาคตจะได้มีค่า มีราคา หนูกลายเป็นบุคคลมีตำหนิ ตั้งแต่ยังไม่รู้ตัวเลย มันไม่ควรจะเกิดขึ้นแบบนี้กับใครอีกแล้ว”

เด็กไม่เข้าใจหรอกว่าอะไรคือการล่วงละเมิดทางเพศ และต่างจากการแสดงความเอ็นดูอย่างไร เราต้องสอนให้เขาเข้าใจว่า จุดสงวนที่พ่อแม่และครูสอน คืออะไร ใครห้ามจับต้อง ลักษณะไหนบ้างที่ห้าม และที่สำคัญต้องบอกพ่อแม่

ถ้าวันนั้นครูบอกหนูว่า ถ้ามีคนมาจับตรงนี้ ต้องบอกพ่อบอกแม่นะ หนูจะบอก พอหนูบอก พ่อแม่จะระวังแล้ว และหนูจะไม่ตกเป็นเหยื่อ”

พร้อมเผยเหตุที่ออกมาพูด ทั้งที่คิดว่าจะทิ้งเรื่องราวสุดขมขื่นนี้ไปได้

“เพราะไม่ใช่เราที่โดนคนเดียวที่ตกเป็นเหยื่อ ยังมีเด็กน้อยที่ตกเป็นเหยื่อในทุกวันทุกนาที ตอนนี้หนูสอนลูกตัวเองแล้ว แต่ลูกคนอื่นล่ะ ถ้าวันนี้หนูไม่ออกมาพูด แล้วลูกคนอื่นล่ะ การจะพูดชัดเจนคืออะไร คือต้องไปออกทีวีเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่ว่าต้องการจะดังอะไร แต่ไม่ต้องการให้ใครมามีแผลเป็นแบบหนูอีกแล้ว มันเจ็บปวด

ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับลูก ยินดีติดตามปัญหานี้อย่างเข้มข้น

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเหมือนแผลเป็นของชีวิต ไม่สมควรเกิดขึ้นในโรงเรียน หรือที่บ้าน ส่งผลให้การพัฒนาการเรียนการสอนของเด็กด้อยลง เพราะมีสิ่งที่เข้ามาทำร้ายจิตใจ อยากจะขจัดคนพวกนี้ออกไปจากสังคม อย่างน้อยในสังคมการศึกษา พร้อมยินดี และติดตามปัญหาอย่างเข้มข้น ต้องยอมรับว่าหลายๆ อย่างในอดีต เราไปย้อนกลับมาไม่ได้ แต่ในอนาคตเราป้องกันได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน