โบว์สีขาว ล้วงลึกความหมายการต่อสู้ ผ่านยุคสมัยด้วยแฟชั่น จนกลายเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ทางการเมือง พร้อมแฮชแท็กสุดฮอต #หนูรู้หนูมันเลว

โบว์สีขาว กลายเป็นแฟชั่น สัญลักษณ์ยุติเผด็จการ ต่อต้านรัฐบาลลุงตู่ เป็นการแสดงออกทางการเมืองของ “พลังเด็ก” ทั่วประเทศไปแล้ว

ไม่เพียงแต่เด็ก ก็ยังมีผู้ใหญ่มาร่วมแสดงออกกันอีกด้วย

เช่นเดียวกับ ช่อ พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกทรงพลังของพรรคอนาคตใหม่ ที่มักปรากฏตัวหน้ากระทรวงศึกษาในเสื้อผ้าหน้าผมสุดปัง อีกทั้งยังเคยเป็นสาวสายแฟในสภา ล่าสุด กับลุคพจมาน ถักผมเปียสองข้างพร้อมผูกโบว์ขาว เข้ากับชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ และคัทชูสีชมพู ดูเด็กไปอีก ร่วมม็อบ “นักเรียนเลว”


โดยก่อนหน้านี้ ช่อ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า พร้อมไปม็อบ! พร้อมติดแฮชแท็ก #หนูรู้หนูมันเลว พ่อแม่คนไหนอยากไปกับลูกไม่ต้องเขินนะคะ เราคือเพื่อนกัน อายุเกินแต่อยากไป


ไม่กี่วันต่อมาเธอก็ปรากฏตัวร่วมม็อบดังกล่าว พร้อม เครือข่ายนักเรียนกว่า 30 โรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ภายใต้กลุ่ม “นักเรียนเลว” ร่วมชุมนุมหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกดดันให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เร่งปฏิรูปการศึกษาตามข้อเรียกร้อง 10 ข้อ และจัดเวทีดีเบตอีกด้วย

 

เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ เรา มารู้จักประวัติความเป็นมาของโบว์กันค่ะ

โบว์สีขาว หรือ ริบบิ้นขาว ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี โดยเมื่อปี ค.ศ.1991 (พ.ศ. 2534) ที่ประเทศแคนาดา หลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยมอนทรีออล 14 คน ทำให้เกิดการรณรงค์ของกลุ่มนักศึกษาชายจำนวน 100,000 คนที่ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาความรุนแรงต่อสตรีและต้องการยุติปัญหาดังกล่าว


จึงได้เรียกร้องให้ผู้ชายทั่วโลกร่วมรับผิดชอบต่อปัญหาความรุนแรงต่อสตรี รวมทั้งแสดงตนว่า จะไม่ทำความรุนแรงต่อสตรี

แต่สำหรับครั้งนี้ในเมืองไทย นิสิต นักศึกษา และนักเรียน ได้นำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน