ศัลยกรรมสุดปัง เปิดใจ “จุ๊ อัญวีณ์ พุทธะเจริญรัตน์” โมหน้าตั้งแต่อายุ 18 ปี เปย์ชิวๆ 2 ล้านกว่าบาท เพราะ ความสวยไปต่อยอดชีวิตได้

ศัลยกรรมสุดปัง สวยจริงไม่จกตา สำหรับสาวน้อยวัย 25 ปี “จุ๊ อัญวีณ์ พุทธะเจริญรัตน์” ที่เดินเข้าห้องผ่าตัดเสริมจมูกตั้งแต่อายุ 18 ปี บินไปตัดกรามอัพอึ๋มถึงเกาหลี เท่านั้นไม่พอ ยังฉีดไขมันฉีดโบท็อกซ์ ปั่นเลือดฉีดหน้าเด้ง ซื้อคอร์สความงามอีกร่วมล้าน

ชมคลิป สัมภาษณ์เปิดใจเส้นทางศัลยกรรมของสาวไทยสายเปย์ ผู้มีทัศนะว่าความสวยคือการลงทุนอย่างหนึ่ง

จากเด็กฟันเหยิน เสริมจมูกพลิกชีวิต

จุ๊ อัญวีณ์ พุทธะเจริญรัตน์ เล่าว่าตนเองเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผิวคล้ำ สิวเขรอะ ฟันเหยิน ซึ่งดัดฟันมาตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย และพออายุ 18 ปี

“มันมีช่วงที่เรากำลังจะขึ้นมหาวิทยาลัย เรียนจบม.6 อ่ะค่ะ เรียนจบ.6 และกำลังจะขึ้นมหาวิทยาลัย ทีนี้เราก็รู้สึกเหมือนแบบว่า ตอนนั้นเราทำงานหาเงินด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ขายของหาเงินด้วยตัวเองมา เราก็รู้สึกว่าเราอยากให้ของขวัญตัวเองชิ้นหนึ่ง ชิ้นใหญ่ชิ้นแรกในชีวิต ด้วยการเหมือนว่าเปลี่ยนตัวเองให้ดูดีขึ้น”

ประเดิมเสริมจมูกกับศัลยแพทย์ตัวท็อปของเมืองไทย

“ก่อนที่จะทำ ก็หาอ่านรีวิวในกูเกิล หาแบบ ดูหมอ ดูรีวิว แล้วทีนี้เรารู้สึกว่าชอบผลงานหมอคนนี้ที่สุด เราก็เลยแบบว่าติดต่อเขาไป ลองเข้าไปปรึกษาเขาที่คลินิกดู”

“หมอบอกมา 500,000 บาท เราก็อึ้งไป แล้วก็กลับบ้านไปก่อน หายไปเลย 2 เดือน ทีนี้เราก็ลองไปปรึกษาหมอใหม่ๆ ดู แต่เรารู้สึกว่าเราไม่ถูกใจคนไหนเท่าคนนี้ หมอบอกว่าจริงๆ จะคิด 1,200,000 บาท ลดให้แล้ว สมมติลดกว่านี้คือ ไม่ปังแล้วนะ”

อินศัลยกรรมเกาหลี บินไปหาหมอเลย

ระหว่างพักฟื้น ในช่วง 7 วันนั้น เรานั่งดูรายการ Let Me In รายการเขาช่วงนั้นดัง อิน แล้วทีนี้เราอยากทำกับหมอปาร์ค ซังฮุน”

เธอตัดไหมตอนเช้าปุ๊บ ตอนกลางคืนก็บินไปเลย

“ที่นั่นเขาจะมีล่ามไทยให้อยู่แล้ว แล้วทีนี้พอเข้าไป ไปติดต่อ ว่าเราอยากทำวีไลน์ อยากจะมาตัดกราม เหลาช่วงคาง เราบอกเราอยากทำกับหมอปาร์ค ซังฮุน ตอนแรกเขาไม่ เหมือนประมาณว่าหมอเขาเหมือนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล ปกติเขาทำให้คนในรายการ เราบอกเราอยากทำกับหมอคนนี้ ถ้าไม่ได้ทำกับหมอคนนี้ เราก็จะบินกลับ”

ในที่สุด เธอได้ทำกับหมอปาร์ค ซังฮุน ในราคา 650,000 บาท

“เขาบอกหน้าเราไม่เท่ากัน หน้าข้างหนึ่งรู้สึกว่า 38 อีกข้างหนึ่ง 35 เขาจะตัดให้เหลือประมาณ 25 ให้เท่ากันทั้งสองข้าง”

2-3 ปีต่อมา เธอก็บินไปเกาหลีอีก เพื่อเสริมหน้าอก

“ตอนแรกหมอจะให้ทำประมาณ 280 เพราะว่าน้ำหนักน้อย และตัวเตี้ย แต่เราบอกหมอว่าถ้าเราได้ทำแค่ 280 เราก็ไม่ทำ จริงๆ ใจอยากทำ 380 ด้วย แต่หมอบอกมันเกินไป ไปฟังคนอื่นไง คนอื่นชอบบอกว่าทำมาแล้วยุบลงอีก สุดท้ายตกลงกันได้ทำ 350 ข้างหนึ่ง 335 ข้างหนึ่ง” สนนราคา 290,000 บาท

“แล้วก็มีฉีดไขมันหน้าด้วย ทำพร้อมกันเลย ไขมันช่วงตรงนี้ค่ะ ดูดไขมันช่วงตรงนี้ แล้วก็ฉีดหน้าผาก กับคาง”

“ก็อยากฉีดโบท็อกซ์ แล้วเดินไปเข้าคลินิก แล้วเราเพิ่งฉีดไขมันมา เดินเข้าไปคลินิก ไปกับเพื่อน ฉีดโบท็อกซ์เสร็จ เพื่อนจะฉีดแฟต ก็บอกฉีดแฟตด้วยสิ และวันนั้นแหล่ะที่ไปปั่นหน้า ปั่นเลือด”

รวมทั้งหมดประมาณ 50,000 บาท ซึ่งเธอจำตัวเลขเป๊ะไม่ได้ บอกเพียงว่านิดหน่อย เพราะเคยซื้อคอร์ส์ในเมืองไทยราคาเหยียบล้านมาแล้ว

“ตอนนั้นเขาบอก 400,000 บาท ใช้ได้ 500,000 บาท เราก็ซื้อ 800,000 บาท ใช้ได้ 1,000,000 บาท ช่วยกันใช้กับเพื่อน กว่าจะหมด จนไม่หมด จนเขาแบบปิดคลินิก ต้องย้ายให้เราไปทำคลินิกอื่น คลินิกเพื่อนเขา”

เธอยอมรับว่า “รวมๆ ก็หมดเยอะนะ”

ศัลยกรรมคือ การลงทุน ต่อยอดได้

แน่นอน หลายคนสงสัยสาวจุ๊ร้ำรวยมาจากไหน ถึงมีเงินทำศัลยกรรมเป็นล้านๆ

“พ่อแม่ไม่รวย เพราะว่าหาเงินด้วยตัวเองด้วยแหล่ะ ขายครีม เลยกล้าที่จะใช้ขนาดนี้” เธอย้ำว่า

“ไม่รวย แต่กล้าจะใช้เงิน”

“อยากทำอ่ะ เหมือนแบบตอนนั้นมีไฟ คนไม่เคยมีเงิน แล้วพอทำงานหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ สิ่งแรกที่ฉันอยากทำ คือ ฉันอยากสวย

“เด็กคนอื่นพอมีเงิน แล้วอยากได้กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า รถ แต่เราอยากได้อะไรบนหน้าเราก่อน สวยขึ้นก่อน เพราะหนูมองว่าความสวยไปต่อยอดชีวิตได้ หน้าที่การงานเราด้วย มันมีโอกาสสำหรับเรา ความสวยมันมีโอกาสในการใช้ชีวิตหลายๆ”

“เรามองว่า คนมองเข้ามา เขาก็มองที่รูปลักษณ์ภายนอกก่อนทุกอย่าง สมมติเราอยากได้แฟนดีๆ เขาก็มองรูปลักษณ์ มองข้างนอก เราทำงานเราขายของ ถึงเราไม่ได้ขายของ เราไปทำงานอย่างอื่น ก็ต้องใช้รูปลักษณ์หน้าตาของเรา มันเหมือนเป็นการลงทุนให้กับตัวเอง ถ้าเกิดลงทุนตรงนี้ เราก็ได้กับตัวเอง แล้วมันอยู่กับเรา เดี๋ยวบ้านรถ ก็ตามมาได้ เราก็ยังหาได้อีก”

ขอบคุณ ภาพส่วนหนึ่งจาก FB: Jutamas Pattanacham

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน