‘ซัมซุง’ทุ่มหมดหน้าตัก

เรือธง‘กาแล็กซีเอส 20 อัลตรา’

‘ซัมซุง’ – กาแล็กซี เอส 20 ซีรีส์ จากค่ายซัมซุง ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำของโลกจากเกาหลีใต้ นับเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนเรือธงที่แวดวงไอทีปีนี้จับตามอง หนึ่งในเหตุผลที่น่าสนใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ทางซัมซุงวางจำหน่ายรุ่น “มหาเรือธง” ไม่ใช่ เอส 20 หรือเอส 20 พลัส แต่เป็น “อัลตรา” หมายถึงล้ำสุด สุดโต่ง แบบที่ภาษาอังกฤษใช้ว่า “เอ็กซ์ตรีม”

“ข่าวสดไอที” มีโอกาสใช้งาน ซัมซุง กาแล็กซี เอส 20 อัลตรา (Samsung Galaxy S20 Ultra) ประมาณ 1 สัปดาห์ จึงนำความสุดโต่งของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มาเล่าสู่กันฟัง

‘ซัมซุง’

การออกแบบภายนอกของมหาเรือธง กาแล็กซี เอส 20 อัลตรา ยังคงเป็นไปตามแบบฉบับเรือธงของ ซัมซุงที่แลดูคุ้นเคย โครงเครื่องเป็นวัสดุอะลูมิเนียมเกรดอวกาศยานขอบโค้งมนประกบแซนด์วิชหน้าหลังด้วยกระจกนิรภัยกอริลลากลาส 6 รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายคอร์นิ่ง ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการทดสอบความทนทานด้วยการตกกระแทกลงบนพื้นแข็ง 15 ครั้ง จากความสูง 1 เมตร มีความแข็งแกร่งมากกว่าเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับอริลลากลาส 5

การประกอบมีความแน่นหนาและเรียบเนียนให้ความรู้สึกนุ่มเนียนเมื่อถือในมือ ทราบได้ทันทีว่าเป็นสมาร์ตโฟนหรูหรา ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 มีปุ่มปรับระดับเสียง และเปิด-ปิด เรียงตัวอยู่ที่ขอบด้านขวาทั้งหมด

ส่วนถาดใส่ซิมนั้นอยู่ที่ขอบด้านบน และขอบล่างเป็นที่อยู่ของช่องลำโพง และ USB-C สำหรับเชื่อมต่อข้อมูลและอุปกรณ์ชาร์จขนาด 25 วัตต์ (W) ซึ่งทางซัมซุงแถมมาให้ สนับสนุนระบบ Super Fast Charge สูงสุดถึง 45W แต่ต้องไปหาซื้อ ชาร์จเจอร์ 45W เป็นจุดแรกที่ผู้ทดสอบมองว่า ซัมซุงควรจะแถมมาให้ได้แล้วด้วยสมาร์ตโฟนระดับนี้








Advertisement

ส่วนอุปกรณ์อื่นในกล่อง ได้แก่ สายเคเบิลแบบ USB-C to USB-C และหูฟังแบบ In-Ear จากค่าย AKG ประเทศสหรัฐ ให้คุณภาพเสียงเหนือชั้นกว่าหูฟังที่แถมจากสมาร์ตโฟนรุ่นทั่วไป จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนสายเคเบิลแถมมาเป็น USB-C to USB-C จากเดิมที่เป็น USB-C to USB-A เหมือนกันกับรุ่นกาแล็กซี โน้ต 10 จุดนี้ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยสายเคเบิลกับคอมพิวเตอร์พีซี และโน้ตบุ๊กที่ไม่มี USB-C ได้ และจำเป็นต้องหาสายเคเบิลอื่นมาใช้แทน

พานคิดไปว่า ซัมซุงน่าจะพิจารณาพัฒนาและแถมหัวแปลงมาเผื่อผู้ใช้รายอื่นที่ไม่สะดวกหาซื้อสายเคเบิลใหม่ หรือไม่มีคอมพิวเตอร์ที่มี USB-C อีกจุดหนึ่งคือ การที่ไม่มีช่องหูฟังมินิสเตอริโอ หรือมินิแจ๊กขนาด 3.5 มิลลิเมตร แม้เป็นสิ่งที่เริ่มจะคุ้นชินแล้วในเหล่าเรือธงทั้งหลาย

‘ซัมซุง’

ยูเอสบีไทป์-ซี

แต่ก็ยังเป็นจุดที่ผู้ใช้หลายคนชื่นชอบอยู่ นานาจิตตังตรงนี้

ด้านลำโพงของกาแล็กซี เอส 20 อัลตรา เป็นลำโพงแบบสเตอริโอ ที่พ่นเสียงออกทางช่องขอบล่างและลำโพงที่ซ่อนอยู่ใต้จอภาพบริเวณขอบบน ให้เสียงที่ค่อนข้างดังมาก สามารถมีมิติของเวทีที่กว้าง และการแบ่งเสียงเครื่องดนตรีได้ชัดเจน ทำให้ผู้ทดสอบสามารถเข้าถึงอรรถรสของภาพยนตร์ เพลง และเกมได้ดีเยี่ยม รวมทั้งมั่นใจได้ว่าไม่พลาดทุกสายเรียกเข้า ข้อเสียเดียว ของการซ่อนลำโพงไว้ในส่วนบนของเครื่องคือ เสียงการสนทนาอาจเบาเล็กน้อย

‘ซัมซุง’

จอภาพ 120Hz

ส่วนขนาดของเครื่องนั้นกว้าง 76 ยาว 166.9 หนา 8.8 ม.ม. น้ำหนัก 222 กรัม ถือว่าเบาแล้วสำหรับโทรศัพท์ขนาด 6.9 นิ้ว การ กระจายน้ำหนักทำได้ดีเยี่ยม ไม่รู้สึกว่าจะพลิกตกจากมือไปด้านใดด้านหนึ่ง แต่พื้นผิวโดยรอบของเครื่องนั้นมีความลื่นสูง ผู้ทดสอบแนะนำให้แปะฟิล์มที่จอและใส่เคสจะดีที่สุด

จุดที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด ได้แก่ ขอบโค้งที่จอภาพของ กาแล็กซี เอส 20 ซีรีส์ ทางซัมซุงทำให้องศาความชันน้อยลงจนแทบไม่รู้สึกได้ถึงสัมผัสความโค้งเว้าแต่ยังมากพอที่ทำให้จอของเครื่องแลดูโค้งมนเข้าไปหาขอบอะลูมิเนียม เป็นสิ่งที่ผู้ทดสอบชอบและขอชมเชยซัมซุง เพราะขอบโค้งมนที่มากไปนั้นแม้ทำให้สมาร์ตโฟนแลดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์แต่ต้องแลกมากับพื้นที่หน้าจอบริเวณขอบที่ไม่ค่อยมีประโยชน์นัก

‘ซัมซุง’

โมดูลกล้องโดดเด่น

‘ซัมซุง’

สแกนลายนิ้วมือัลตร้าโซนิก

ส่วนการปรับปรุงล่าสุดนั้นเป็นความสมดุลที่ยอดเยี่ยมระหว่างจอที่แลดูใหญ่ ไม่เสียพื้นที่ และความโค้งมนของกระจกที่ยังคงเอกลักษณ์ ส่วนอีกจุดที่ชัดเจนที่สุดคือ โมดูลกล้องด้านหลังขนาดมหึมา ซึ่งเป็นฟีเจอร์หลักที่ทางซัมซุงภูมิใจนำเสนอ ใช้การออกแบบจัดเรียงเลนส์แบบ โดมิโน่ ดีไซน์ ตัวโมดูลนูนขั้นมาจากเครื่องค่อนข้างชัดเจน แต่แลดูไม่น่าเกลียด เพราะออกแบบขอบมาได้โค้งมน และการใช้เล่นเฉดสีดำทั้งบริเวณเลนส์ส่วนบน 3 ชิ้น และเลนส์ระบบสเปซซูม 100 เท่า จัดวางมาอย่างตระการตาพร้อมอักษร สเปซ ซูม “100X” สุดเก๋ไก๋ ทำให้เอส 20 อัลตรา ซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 100 เท่า!

‘ซัมซุง’

อัตราส่วนใหม่ แคบๆ ยาวๆ

หน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาดมหึมา 6.9 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดแบบ QHD+ (3,200×1,440 พิกเซล) ความหนาแน่นพิกเซล 511 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) พื้นที่จอต่อตัวเครื่อง ร้อยละ 89.9 สนับสนุน HDR10+ อัตราส่วนภาพ 20:9

จุดนี้เองที่ทำให้ เอส 20 อัลตรา เป็นสมาร์ตโฟนค่อนไปทางทรงสูงทำให้กำไว้ในมือได้กระชับขึ้น แลกกับที่ผู้ใช้ซึ่งไม่ชินกับอัตราส่วนใหม่อาจจะรู้สึกว่าภาพค่อนข้างบีบๆ ทั้งแนวตั้ง (portrait) และการใช้งานแนวนอน (landscape) รวมไปถึงการพิมพ์ผิดบ่อยขึ้น แต่เมื่อเริ่มชินก็จะเกิดปัญหาน้อยลง

ส่วนที่เป็นไฮไลต์สุดๆ นั้นเป็นความถี่การแสดงผลของจอภาพสูงสุด 120 เฮิร์ตซ์ (Hz) เป็นการแสดงผลภาพแบบ 120 ภาพต่อวินาที ทำให้ภาพที่เคลื่อนบนจอนั้นแลดูลื่นไหล เนียนตา เขี่ยเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน จากปกติที่จอสมาร์ตโฟนทั่วไปจะอยู่ที่ 60Hz แต่ผู้ใช้จำเป็นต้องเลือกระหว่างความละเอียดสูงสุดที่ QHD+ ความถี่ 60 Hz หรือเน้นความถี่เป็น 120 Hz แต่ลดความละเอียดลงมาเหลือ FHD+ (2,400×1,080 พิกเซล) ซัมซุงน่าจะมีเจตนาดี ต้องการประหยัดช่วยแบตฯจึงให้ผู้ใช้เลือกระหว่างสองโหมดนี้

‘ซัมซุง’

เลนส์ละลายเบาๆ 108MP

อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้ซัมซุงควรให้ทางเลือกปรับทั้งความละเอียดและความถี่ได้สูงสุด แม้จะเปลืองแบตฯ จัดๆ แต่ก็เป็นสิทธิของผู้ซื้อที่จะเลือกได้

กาแล็กซี เอส 20 อัลตรา รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล (SoC) รุ่น Exynos 990 บนสถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร (nm) ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผล กลางแบบ 8 หัว (Octa-core) มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาแบ่งเป็น 3 คลัสเตอร์ ได้แก่ 2.73 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) จำนวน 2 หัว 2.50 GHz จำนวน 2 หัว และ 2.0 GHz จำนวน 4 หัว มีหน่วยประมวลผล กราฟิกรุ่น Mali-G77 หน่วยความจำแรม (RAM) 12/16 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูล 128/256/512 GB บนอินเตอร์เฟซ UFS 3.0 สนับสนุน microSDXC สูงสุด 1 เทราไบต์ (TB)

ผลการทดสอบผ่านแอพพลิเคชั่น Geekbench 5 ได้คะแนนประมวลผลคอร์เดียวเฉลี่ย 894 แต้ม และประมวลผลหลายคอร์เฉลี่ย 2,747 แต้ม สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ และรันแอพฯ ทุกชนิดได้อย่างรวดเร็วหายห่วง เช่นเดียวกันกับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) ถือว่าจุใจ

จากการทดสอบงานอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ 09.00-20.00 น. แบตฯ เหลือร้อยละ 25 ด้วยจอแบบ 120 Hz แต่ถ้าใช้งานบนจอ 60 Hz จะเหลือถึงร้อยละ 40 ชาร์จ 25W ด้วยสายจากศูนย์ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มภายใน 1 ชั่วโมงเศษเท่านั้น

นอกจากนี้ ระบบพลังงานยังสนับสนุนการชาร์จไร้สาย Fast Qi/PMA wireless charging ขนาด 15W และสามารถใช้เป็นเพาเวอร์แบงก์ไร้สายได้ขนาด 9W ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 10 รุ่นล่าสุดจากกูเกิ้ล และ One UI 2.1 ของซัมซุง เทคโนโลยีการสื่อสารยุคที่ห้า (5G) บลูทูธ 5.0 และครบเครื่อง Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax แบบ dual-band (รวม Wi-Fi 6)

กล้องของเอส 20 อัลตรา กล้องหลังประกอบด้วย 4 เลนส์ ได้แก่ เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล (MP) ช่องรับแสงขนาด f/1.8 ถัดมาเป็นเลนส์ซูม ความละเอียด 48MP f/3.5 เลนส์อัลตราวาย ความละเอียด 12MP (0.5X) f/2.2 และเลนส์ TOF (Time-of-flight) ความละเอียด 0.3MP f/1.0 สร้างมิติให้ภาพ

คุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้ เอส 20 อัลตรา ซูมภาพแบบออพติคอลได้ 10X โดยไม่สูญเสียคุณภาพ และ 100X แบบดิจิตอล!

‘ซัมซุง’

ภาพซูมกลางคืน

ซัมซุงตั้งชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า สเปซ ซูม (space zoom) เป็นการจัดวางเลนส์ซ้อนกันในแนวขวางในตัวโมดูลแล้วใช้กระจกพิเศษหักเหภาพตรงออกมาจากโมดูล รองรับการถ่ายคลิปละเอียดสูงสุดได้ถึง 8K!! ที่อัตราเฟรม 24 เฟรมต่อวินาที (4320p@fps) มีความคมชัดบ้าคลั่งมาก

การทดสอบเลนส์หลักของ เอส 20 อัลตรา พบว่า ให้ภาพที่มีความคมชัดกว่าเลนส์หลักทั่วไปชัดเจนมาก ทั้งยังมีแสงที่สดสวยงาม เนื่องมาจากขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น ภาพที่ถ่ายตอนกลางคืนนั้น (night mode) มีความสว่างมาก อาการแสงล้นลดลงมาก และมีความชัดเจนในระดับที่ดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอที่ดีขึ้นด้วย

ภาพระยะใกล้ (มาโคร) มีความคมชัด และการละลายขอบผ่านเทคนิคโบเก้ก็น่าประทับใจ แต่ผู้ทดสอบพบว่า กล้องของเอส 20 อัลตรานั้นจะให้ภาพที่ออกมาค่อนข้างติดเหลือง และระบบโฟกัสไม่ค่อยได้ดั่งใจ เพราะเร็วมาก และมักไปโฟกัสจุดที่ผู้ทดสอบไม่ต้องการ แต่คาดว่าไม่นานจะได้รับการแก้ไขจากซัมซุงผ่านเฟิร์มแวร์อัพเดต

ส่วนการซูมภาพแบบดิจิตอล 100 เท่านั้นผลที่ออกมาก็ตามคาด ไม่ได้มีความคมชัดเท่าที่ควร เพราะนอกจากกล้องต้องนิ่งมากๆ แล้วแสงต้องพอด้วย แต่การซูม 10X แบบออพติคอล และ 30X แบบ ไฮบริดนั้นชัดเจนน่าประทับใจ สเปซ ซูม จึงน่าจะเป็นการแสดงถึงแสนยานุภาพทางเทคโนโลยีล่าสุดของซัมซุงมากกว่าการที่จะนำไปใช้จริง เพราะหากผู้ใช้ต้องการซื้อโทรศัพท์มาเพื่อใช้ซูม 100 เท่าอย่างเดียวนั้น บอกตรงๆ ว่า ณ จุดนี้ยังไม่คุ้ม

‘ซัมซุง’

ภาพซูมกลางวัน

โดยรวมแล้ว ซัมซุง กาแล็กซี เอส 20 อัลตรา เป็นสมาร์ตโฟนมหาเรือธงที่สุดโต่งมาก เพราะสเป๊กเครื่องและตัวเลขต่างๆ ที่ทางซัมซุงอัดเข้าไปในโทรศัพท์ทำให้มันทะลุขีดสุดของคำว่าเรือธงชั่วโมงนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจอภาพที่ดีที่สุดและความนุ่มลื่น 120 Hz ยืดระยะการใช้งานจุใจแบตฯ 5,000 mAh ความเร็วในการชาร์จที่น่าอัศจรรย์ใจ 57 นาที (45W) รองรับ 5G และการเชื่อมต่อแทบทุกชนิด ถ่ายคลิป 8K สเป๊กแรงตกขอบ

รวมถึงราคาเครื่องศูนย์ที่ 39,990 บาท! สุดโต่งกว่านี้ไม่มีแล้วชั่วโมงนี้!!

จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน