คอลัมน์ หลากหลายไอที : หัวเว่ย พี 40โปรพลัสเปิดตัวซูมสิบเท่าเจ้าแรก

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส – ในบรรดาสมาร์ตโฟนทุกรุ่นของหัวเว่ยผู้พัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำจากประเทศจีน พี ซีรีส์ (P-series) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้มีจุดเด่นสุดที่การถ่ายภาพ กลายเป็นที่รู้จักกันในฐานะเรือธงต้นปีของหัวเว่ย (ท้ายปีจะเป็น เมท ซีรีส์)

แต่นอกจากศักยภาพในการถ่ายภาพแล้ว ฟีเจอร์อื่นๆ นั้นก็ย่อมเป็นระดับพรีเมียมด้วย

ตามปกติ พี ซีรีส์ จะมีเพียงรุ่นปกติ และโปร มาปีนี้ทางหัวเว่ยมีรุ่นเหนือขึ้นไปอีก เรียกว่า โปร พลัส หัวเว่ยพี 40 โปร พลัส (Huawei P40 Pro Plus) ทำมา เพื่อผู้ใช้งานเซ็กชั่นอัลตราพรีเมียม (เหนือตัวท็อป) โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาเป็นการซูม 10 เท่าผ่านฮาร์ดแวร์ หรือออพติคอล ซูม 10x เป็นเจ้าแรกของโลก

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

ออกแบบสวยงาม

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

เว็บไซต์ แอนดรอยด์อูธอริตี รายงานประสบการณ์การใช้งานมาฝากกัน

ารออกแบบภายนอกของ พี 40 โปร พลัส มีลักษณะคล้ายคลึงกับรุ่นพี 40 โปร ซึ่งเป็นเรื่องดี เพราะการออกแบบของพี 40 โปรนั้นยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระจกหน้าโค้งลงหาขอบ ทำให้จอภาพแลดูไร้ขอบ ขณะที่ขอบอะลูมิเนียมนั้นเริ่มหนาขึ้นที่บริเวณมุมทั้ง 4 ของเครื่องเพื่อช่วยป้องกันกระจกแตกจากกรณีตกกระแทกพื้นได้ดีขึ้น

หัวเว่ยระบุว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากหยดน้ำที่กำลังจะไหลหล่นลงมาจากพื้นราบ เช่นเดียวกันกับขอบบนและล่างของจอที่มีความโค้งด้วยเล็กน้อย ทำให้นิ้วเราเขี่ยได้ง่ายขึ้น ตามการควบคุมหลักของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 10 จากกูเกิ้ล

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

ภาพทดสอบ 1 เท่า

 

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

ภาพทดสอบ 10 เท่า

 

ตัวเครื่อง

มีความกว้าง 72.6 ยาว 158.2 และหนา 9 มิลลิเมตร น้ำหนักรวม แบตเตอรี่ 226 กรัม งานประกอบแน่นหนาผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นเข้าแบบ IP68 ถือว่ามีความหนามากกว่าเรือธงคู่แข่งแบรนด์อื่นเล็กน้อย แต่ด้วยความที่ขอบอะลูมิเนียมและการออกแบบโค้งมนทั้งกระจกหน้าและเซรามิกหลังทำให้เวลาจับนั้นรู้สึกว่าเครื่องบาง ส่วนน้ำหนักนั้นถือว่ากระจายตัวได้ดีสามารถถือได้กระชับ และรู้สึกได้ถึงความหรูหราราคาแพง

ด้านปุ่มเพาเวอร์ และปรับระดับเสียง อยู่ที่ขอบอะลูมิเนียมด้านขวาทั้งหมด (หันเครื่องเข้าหาผู้ใช้) ให้ความรู้สึกตอบสนองรวดเร็วฉับไว แม้ปุ่มจะยื่นออกมาจากตัวขอบค่อนข้างมาก ส่วนที่ขอบล่างเป็นที่อยู่ของ USB-C และถาดใส่ SIM รองรับ Nano Memory (NM) ความจุสูงสุดไม่เกิน 256 กิกะไบต์ (GB) รวมทั้งลำโพง ขอบบน มี IR blaster แต่ไม่มีช่องมินิสเตอริโอสำหรับหูฟัง

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

ทดสอบ 1 เท่า

 

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

ทดสอบ 10 เท่า

 

จอภาพของพี 40 โปร พลัส เป็นเทคโนโลยีจอแบบ OLED ขนาด 6.58 นิ้ว มีอัตราส่วนจอต่อพื้นที่ตัวเครื่องร้อยละ 91.6 ความละเอียดสูงสุดแบบ FHD+ (1,200 x 2,640 พิกเซล) ความหนาแน่นพิกเซล 441 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi)

อัตราส่วนภาพ 19.8:9 ความถี่สูงสุด 90 เฮิร์ตซ์ (Hz) มีหลุมกล้องหน้าอยู่มุมซ้ายบน และเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือในจอภาพ โดยผลการทดสอบพบว่า ยังคงความแม่นยำและรวดเร็วน่าประทับใจไว้ ตามแบบฉบับหัวเว่ย เป็นเรื่องน่ายินดีเช่นเดียวกันกับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าที่สะดวกรวดเร็วกว่า (แต่อาจไม่ปลอดภัยเท่า)

พี 40 พลัส โปร ใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล (SoC) รุ่น Kirin 990 5G จากค่าย HiSilicon ซึ่งเป็นบริษัทลูกของหัวเว่ย ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง หรือซีพียู ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 7 นาโนเมตร (nm) มีคอร์ประมวลผลทั้งหมด 8 หัว (Octa-core) แบ่งเป็น 3 คลัสเตอร์

ได้แก่ ความถี่สัญญาณนาฬิกา 2.86 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) จำนวน 2 คอร์ ความถี่ 2.36 GHz จำนวน 2 คอร์ และความถี่ 1.95 GHz จำนวน 4 คอร์ หน่วยประมวลผลกราฟิก หรือจีพียู รุ่น Mali-G76 หน่วยความจำแรม (RAM) 8 GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) 256 และ 512 GB บนมาตรฐานส่งข้อมูล UFS 3.0

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

ซูม 100 เท่า หัวเว่ย ซัมซุง

 

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

ซูม 100 เท่า หัวเว่ย

 

ผลการทดสอบเบนช์มาร์กผ่านแอพพลิเคชั่น Geekbench 5 ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ได้คะแนนประมวลผลแบบคอร์เดียวที่ 3,691 แต้ม และหลายคอร์อยู่ที่ 11,894 แต้ม อยู่ในระดับเดียวกันกับ Snapdragon 855 จากค่าย Qualcomm ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังสนับสนุนเทคโนโลยีการสื่อสารยุคที่ห้า หรือ 5G ด้วย

แม้ประสิทธิภาพของ Kirin 990 5G จะต่ำกว่า Snapdragon 855 Plus และ Snapdragon 865 เล็กน้อย แต่ผลการทดสอบใช้งานนั้นไม่พบว่ามีความแตกต่างที่รู้สึกได้ เพราะทำงานได้ลื่นไหล โหลดแอพฯ ได้รวดเร็ว เล่นเกมกราฟิกหนักได้โดยที่เฟรมเรต ไม่ตก และรองรับการใช้งานได้รอบด้านเหมือนกัน เช่นเดียวกับความถี่ 90 Hz นั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

เพราะทำให้จอภาพลื่นไหลน่ามอง เมื่อเทียบกับ สมาร์ตโฟนจอ 120 Hz ของคู่แข่งรายอื่น ด้านแบตเตอรี่ของ พี 40 โปร พลัสมีขนาด 4,200 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) มาพร้อมกับฟีเจอร์ชาร์จเร็วทั้งแบบใช้สายและไร้สายที่ขนาด 40 วัตต์ (W) ซึ่งทางหัวเว่ยใช้ขนาดนี้มาตั้งแต่หัวเว่ย พี 20 ซีรีส์ ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดที่ค่อนข้างล้ำหน้ากว่าหลายค่ายที่ยังใช้ขนาด 25 หรือ 30W อยู่ในปัจจุบัน แต่ที่ล้ำสุดเห็นจะเป็น Oppo Find X2 Pro ที่สนับสนุนระบบชาร์จไวขนาดถึง 65W

ส่วนการรองรับระบบชาร์จไวแบบไร้สายที่ขนาด 40W ของพี 40 โปร พลัสนั้นผู้ใช้จะต้องซื้อแท่นชาร์จไร้สายของหัวเว่ยมาเพิ่มเอง ถือว่าเร็วที่สุดแล้วในทุกค่าย (มีเพียงวันพลัส และเสี่ยวหมี่ที่ใกล้เคียงที่ 30W) และแน่นอนว่า พี 40 โปร พลัส สามารถชาร์จไร้สายให้กับสมาร์ตโฟนเครื่องอื่นที่รองรับเช่นกัน (Reverse Charging)

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

นวัตกรรมซูมแท้ 10 เท่า

 

ระยะเวลาการใช้งานจากแบตฯ ของ พี 40 โปร พลัส ถือว่ายอดเยี่ยมมาก เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของเรือธงหัวเว่ยไปแล้วก็ว่าได้ โดยการทดสอบใช้งานทั่วไปพบว่าใช้ได้ยาวนานถึงเกือบ 2 วัน (09.30 น. ถึง 17.00 น.ของวันถัดมา) หากเปิดจอค้างไว้ตลอดเวลาก็จะอยู่ได้ประมาณ 7 ชั่วโมง (ความสว่างครึ่งหนึ่ง) ผนวกกับระยะเวลาการชาร์จที่รวดเร็ว จึงน่าชอบใจกับระบบพลังงานนี้มาก

ล้องถ่ายภาพ

พี 40 โปร พลัส เป็นไฮไลต์ของรุ่นนี้และได้รับความชื่นชมมาก โดยกล้องทั้งหมดนั้นมี 7 เลนส์! (หลัง 5 หน้า 2) ส่วนใหญ่นั้นเหมือนกับรุ่นพี 40 โปร แต่เพิ่มเลนส์ซูม 10X มาในรุ่นโปร พลัส ทุกเลนส์ผ่านมาตรฐานการรับรองจากค่ายไลก้า ประเทศเยอรมนี

จริงอยู่ที่ว่าเรือธงค่ายอื่นๆ นั้นสามารถซูมได้ไกลกว่านี้มาก เช่น ซัมซุง กาแล็กซี เอส 20 อัลตราที่สามารถซูมได้ไกลถึง 100 เท่า แต่ยังเป็นระบบดิจิตอล (ผ่านซอฟต์แวร์) ขณะที่ค่ายอื่นๆ ซึ่งมักโฆษณาว่าซูมได้เท่านั้นเท่านี้ แทบทั้งหมดก็เป็นการซูมแบบดิจิตอล เช่นกัน ส่งผลให้สูญเสียคุณภาพของภาพอย่างใหญ่หลวง ไม่เหมือนกันซูมผ่านฮาร์ดแวร์ หรือออพติคอลซูม ที่ไม่มีการ สูญเสียคุณภาพเกิดขึ้น

หัวเว่ยเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมทางด้านการซูมแท้ของกล้องในสมาร์ตโฟน เคยสร้างความฮือฮามาแล้วเมื่อครั้งพี 30 ด้วยระบบพริซึม กลายเป็นค่ายแรกๆ ที่มีระบบออพติคอลซูม 5 เท่า โดยใช้กระจกหักเหแสงทำมุม 90 องศา เพื่อเพิ่มระยะทางโฟกัสของเลนส์ก่อนถึงเซ็นเซอร์รับภาพ

นวัตกรรมออพติคอลซูม 10 เท่าของ พี 40 โปร พลัสนำหลักการดังกล่าวมาต่อ ยอดโดยใช้การสะท้อนของแสงเพิ่มเป็น 5 ครั้ง เพื่อเพิ่มระยะทางโฟกัสของเลนส์เทียบเท่าระยะ 240 ม.ม. (ระยะตั้งแต่เลนส์ถึงเซ็นเซอร์รับภาพ) ส่งผลให้แสงต้องเดินทางไกลขึ้น กลายเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีระบบซูมแท้ 10 เท่า

หัวเว่ย พี 40โปรพลัส

แบตฯ อึด ชาร์จไว

 

การทดสอบการซูมสิบเท่า พบว่าภาพที่ได้นั้นมีความชัดเจนสวยงาม แต่จะแลดูมีความนุ่มนวลกว่าภาพที่ระยะปกติ และ 3 เท่า เนื่องจากเลนส์ที่ระยะ 10 เท่านั้นมีรูรับแสงที่ขนาดเล็กลงเหลือ f/4.4 ส่งผลให้ทางหัวเว่ยต้องใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลเพิ่มแสงให้ภาพ

แต่ไม่ว่าอย่างไรภาพที่ได้นั้นถือว่าเป็นภาพซูม 10 เท่าบนสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดแล้วชั่วโมงนี้

สําหรับกล้องอื่นของพี 40 โปร พลัส(ข่าวสดไอทีเคยรีวิวไปแล้วในพี 40 โปร) ได้แก่ ด้านหลังมีเลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (MP) เซ็นเซอร์ภาพแบบ RYYB ขนาดรูรับแสง f/1.9 เลนส์อัลตร้าวาย ความละเอียด 40 MP ขนาดรูรับแสง f/1.8 และเลนส์ซูม (3x)

ความละเอียด 8 MP เซ็นเซอร์ภาพแบบ RYYB ขนาดรูรับแสง f/2.4 (อีกอันคือ เลนส์ซูม 10x ความละเอียด 8MP ขนาด รูรับแสง f/4.4 ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว) และเซ็นเซอร์ ToF (Time-of-Flight) ส่วนกล้องด้านหน้า ได้แก่ กล้องเซลฟี่ความละเอียด 32 MP ขนาดรูรับแสง f/2.2 และเซ็นเซอร์ ToF อินฟราเรด รองรับการถ่ายคลิปความละเอียดสูงสุดระดับ 4K อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที ทั้งหน้าและหลัง

เดวิด ไอเมล ผู้ทดสอบมองว่า พี 40 โปร พลัส เป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกับนวัตกรรมอย่างแท้จริง นั่นคือ กล้องซูม 10 เท่าแบบออพติคอล เป็นเจ้าแรกของโลก พร้อมการออกแบบภายนอกที่หรูหราสวยงาม ผสานเทคโนโลยีระดับพรีเมียม

และหนึ่งในระยะเวลาใช้งานจากแบตฯ ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นที่น่าเสียดายที่แม้ จะมาพร้อมกับแอนดรอยด์ 10 จากกูเกิ้ล แต่จะไม่มีแอพฯ และบริการใดๆ ของกูเกิ้ลแถมมาให้ เนื่องมาจากนโยบายกีดกันการค้าของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในขณะนี้

หากสามารถยอมรับจุดนี้ได้ก็ไม่น่ามีอุปสรรคใดเหลือแล้ว เพราะพี 40 โปร พลัส เป็นเรือธงที่มีนวัตกรรมกล้องยอดเยี่ยมที่สุดชั่วโมงนี้อย่างแน่นอนที่สุด

สนนราคาเริ่มต้นที่ 26,990 บาท วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย

จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน