สำรวจความแรง ‘realme 8 5G’ – นับวันคลื่นความถี่ ‘5G’ ในเมืองไทยกำลังขยายเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ จากโอปะเรเตอร์หลายเจ้าที่แข่งกันเพื่อชิงความเป็น อันดับ 1

แน่นอนว่าบรรดาค่ายโทรศัพท์มือถือ ก็ส่งสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่รองรับการใช้คลื่น ‘5G’ ออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

หนึ่งในนั้นคือ ‘เรียลมี’ (realme) ซีรีส์ล่าสุด ‘realme 8’ ออกมา ทำตลาด

แบ่งเป็น 2 รุ่นคือ ‘realme 8’ และ ‘realme 8 5G’

ฉบับนี้จะเน้นไปที่รุ่น ‘realme 8 5G’ เป็นหลัก

ซีรีส์นี้ค่าย ‘realme’ นอกจากดึงนางเอกดัง ‘อั้ม’ พัชราภา ไชยเชื้อ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แล้วยังได้รับแรงบันดาลใจจากหนังดัง ‘Fast and Furious’ ในการออกแบบฝาหลัง ให้มีมุมมองดูมีมิติเมื่อสะท้อนแสง คล้ายๆ ไฟหน้ารถยนต์ทำสีแบบ indium plating ที่ให้ความเงางามเป็นพิเศษ และกระบวนการทำลวดลายแบบ lenti cular pattern โดดเด่นด้วยเส้นสายของแสงเฉดต่างๆ

มีให้เลือก 2 สี Supersonic Blue และ Supersonic Black

‘realme 8 5G’ มาในสโลแกน “ความเร็วไร้ขีดจำกัด” เนื่องจาก ‘5G’ เร็วกว่าเครือข่าย 4G แบบเดิมกว่า 700%

รองรับเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ล่าสุด DSDS และสามารถทำงานบนเครือข่ายแบบ SA/NSA และระบบเครือข่ายชั้นนำได้ทั่วโลก

ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 8.5 ม.ม. ขนาดตัวเครื่อง 162.5 x 74.8 ม.ม. น้ำหนัก 185 กรัม ใช้งานมือเดียวได้สบายๆ

จอแสดงผล IPS LCD ความกว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ความสว่างหน้าจอสูงสุด 600 nits รองรับ 16.7 ล้านสี มีโหมดแสงแดดสูงถึง 1,000 nits ทำให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดแม้อยู่กลางแดดจัด

ด้านบนหน้าจอมีลำโพงสำหรับสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ

ด้านหน้าส่วนล่างใช้ปุ่มกดแบบ On-Screen ประกอบด้วยปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ (ค่าเริ่มต้น)

สามารถเลือกใช้งานวิธีควบคุมแบบ Gestures ซึ่งเป็นการลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการได้ด้วย

ด้านขวามีปุ่ม Power เปิดปิด หรือล็อกหน้าจอ รวมไปถึงเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อก

ปลดล็อกสแกนลายนิ้วมืออัจฉริยะ แม่นยำ ปลอดภัย และรวดเร็วเพียง 0.3 วินาที

ตัวเครื่องด้านซ้าย เป็นถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot สามารถใส่ microSD Card เพิ่มความจุได้สูงสุด 1TB ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มลด ระดับเสียง

ตัวเครื่องด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C ลำโพง และไมโครโฟนกับช่องหูฟังมาตรฐาน 3.5 ม.ม. ไม่ต่างจากสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นๆ มากนัก ส่วนของแถมในกล่องมาครบทั้งเคสใส, อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว, สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, เข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด และคู่มือ การใช้งาน

ที่ขาดไม่ได้คือกล้องถ่ายภาพ กล้องหน้าความละเอียด 16MP มีค่ารูรับแสง F2.1

ส่วนกล้องหลังใส่มาให้ 3 เลน

เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.8

เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร

และเลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

มีเทคโนโลยี AI Beauty และระบบกันสั่นสำหรับการถ่ายวิดีโอแบบ Ultra Steady

โหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) สามารถปรับระดับความเบลอได้ 0-100% (ค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 60%) และทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI Beauty

โหมดถ่ายภาพกลางคืนแบบ Nightscape Mode เก็บรายละเอียดภาพในที่มืด หรือที่แสงน้อยได้ดีขึ้น

ฟิลเตอร์ให้เลือกใช้ 5 รูปแบบ Modern Gold, Cyberpunk, Flamingo, Astral และ Dazzle

ถ่ายภาพมุมกว้างในโหมด PANO และโหมด Expert

ถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที สามารถเลือกถ่ายภาพในมุมปกติ (1x), มุมกว้าง Ultra-Wide (0.6x), ซูม 2 เท่า 5 เท่า และ 10 เท่า ใส่ฟิลเตอร์แบบต่างๆ ได้ รวมถึงโหมด AI Beauty เลือกระดับความเนียนได้ตั้งแต่ 0-100%

นอกจากนี้ยังใส่แอพพลิเคชั่นช่วยตัดต่อมาให้ด้วย

ถือว่าเป็นกล้องหลังที่ใช้งานได้หลากหลาย เพียงพอต่อการเก็บความทรงจำสวยๆ เวลาท่องเที่ยว เรียกว่าแทบไม่ต้องแบกกล้องหลัก แค่กล้องหลังของ ‘realme 8 5G’ ก็เหลือเฟือแล้ว

มาถึงหัวใจของ ‘realme 8 5G’ ใช้หน่วยประมวลผล solid Mali-G57 GPU ของ Dimensity 700 Octa-core ความเร็ว 2.2 Refresh Rate 90 Hz และอัตรา sampling rate สูงสุด 180 Hz บวกกับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ไม่ว่าดูภาพยนตร์ หรือเล่นเกม มองได้เต็มตา

สำหรับ Refresh Rate หรือค่าความเร็วในการเปลี่ยนภาพของหน้าจอแสดงผล จะช่วยให้การใช้งานต่างๆ โดยเฉพาะการเล่นเกมลื่นไหลกว่าเดิม การให้ค่า Refresh Rate 90Hz ถือว่าเหนือกว่าสมาร์ตโฟนหลายๆ รุ่น เพราะปกติจะให้มาแค่ 60Hz

โดย ‘realme 8 5G’ มีค่าเริ่มต้น Refresh Rate 60Hz เช่นกันแต่ปรับได้สูงสุด 90 Hz

ทั้งช่วยในการประหยัดพลังงานได้มากขึ้น 28% เมื่อเทียบกับ CPU 4G รองรับเทคโนโลยี 5G แบบ Dual SIM รองรับการเชื่อมต่อ SA / NSA

ระบบปฏิบัติการ Android 11, realme UI 2.0 หน้าตา UI เรียบง่ายดูทันสมัย ปรับแต่งได้ตามสไตล์ของแต่ละคน

หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1 TB

เทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion (DRE) เพิ่มความสามารถของ RAM ด้วยการดึงพื้นที่หน่วยความจำในเครื่องมาช่วย ดังนั้นการใช้งานหลายแอพฯ พร้อมๆ กันก็ราบลื่นขึ้นและสะดวกสบายขึ้น

เซ็นเซอร์ Magnetic Induction Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, Gyro-meter, Acceleration Sensor

ระบบนำทาง GPS, AGPS, GLONASS, BeiDou, Galileo, QZSS

รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1

ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับการชาร์จไว 18 วัตต์

พร้อมเทคโนโลยี Smart 5G Power Saving ตรวจจับสภาพแวดล้อมของสัญญาณโดยรอบ และสลับการใช้งานระหว่าง 4G และ 5G อัตโนมัติ ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าสมาร์ตโฟนที่ไม่มีคุณสมบัติ Smart 5G ถึง 30%

ในแง่การใช้งานเพื่อความบันเทิง สามารถดูยูทูบได้ความละเอียดสูงสุดถึง 2K

ส่วนการเล่นเกมฮิตๆ อย่าง ‘ROV’ ตัวกราฟิกปรับได้สูงสุด 30 FPS

ถ้าเป็นเกม Call of Duty ปรับ FPS ได้ระดับสูง ขณะที่ภาพ อยู่กลางๆ

แม้ดูเหมือนการ ปรับค่าต่างๆ กรณีเล่นเกมอาจไปไม่สุดนักแต่เวลาเล่นความรู้สึกในการสัมผัสหน้าจอ และความไวของปุ่มต่างๆ ลื่นไหลไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตามหากดูการปรับค่าต่างๆ ของการเล่นเกมแล้ว เหมือนกับว่า ‘realme 8 5G’ ไม่ได้ให้น้ำหนักตรงนี้มากนัก เรียกว่าพอเล่นได้ฆ่าเวลาเพลินๆ

เช่นเดียวกับการถ่ายภาพถือว่าให้ความสำคัญระดับหนึ่ง

เพียงแต่ทั้งการเล่นเกมและถ่ายภาพ ‘realme 8 5G’ ยังเป็นรองคู่แฝดอย่าง ‘realme 8’ ซึ่งเป็นระบบ 4G

แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป ฟังก์ชันต่างๆ และแน่นอนความเร็วทันใจของการใช้งาน ‘realme 8 5G’ กินขาดอยู่แล้วด้วยเครือข่ายที่เร็วและแรงกว่าหลายเท่า

สนนราคา ‘realme 8 5G’ อยู่ที่ 9,999 บาท

ถือว่าน่าคบหากับสมาร์ตโฟนราคาแค่นี้ แต่ฟังก์ชันและการใช้งานรวมถึงคุณสมบัติต่างๆ จัดมาให้แบบแน่นๆ

สันติ จิรพรพนิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน