เสี่ยวหมี่ 11 ที โปรตัวจี๊ด – เสี่ยวหมี่ 11 ที โปร (Xiaomi 11T Pro) เปิดตัวให้หลังหมี่ 11 ราว 6 เดือน เรียกว่าเป็นรุ่นน้อง เรือธงที่ตัดแต่งใหม่ในราคาสบายกระเป๋ากว่าก็ย่อมได้

ความโดดเด่นหนึ่งของ เสี่ยวหมี่ 11 ที โปร คือแบตเตอรี่ขนาดค่อนข้างใหญ่ถึง 5,000 มิลลิแอมป์ต่อชั่วโมง (mAh) แม้การทดสอบจะไม่พบว่ามีระยะเวลาการใช้งานน่าประทับใจเหมือนกับรุ่นก่อนอย่าง 10 ที โปร แต่คาดว่าน่าจะมาจากชิพประมวลผลที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง และหน้าจอความถี่สูงขนาดใหญ่ ลดปัญหานี้ลงได้ด้วยการเปิดระบบประหยัดพลังงานและลดความถี่หน้าจอลง

การทดสอบพบว่า 11 ที โปร ใช้งานปกติได้ตลอดทั้งวัน แต่หากเล่นทั้งเกมที่มีความต้องการสเป๊กสูง ถ่ายภาพอาหารทุกครั้งก่อนรับประทาน ควักมือถือออกมาอ่านบทความทุกครั้งที่นั่งนิ่ง หรือ สายตาว่างขึ้นมาก็อาจอยู่ได้ไม่ถึงวัน ทั้งยังไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย และฟีเจอร์ชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่นๆ (wireless reverse charging)

แต่จุดนี้ชดเชยด้วยฟีเจอร์ชาร์จไว Quick Charge 3+ รองรับขนาดชาร์จเจอร์สูงสุดถึง 120 วัตต์ (W) ซึ่งทางเสี่ยวหมี่แถมมาให้พร้อมกับสายเคเบิล USB-C to USB-C (สีขาว) ชาร์จสมาร์ตโฟนจาก 0 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์เต็มได้ภายในเวลาเพียง 17 นาที!

เรียกว่าเป็นระยะเวลาการชาร์จที่รวดเร็วน่าประทับใจอย่างมาก และไวที่สุดเท่าที่รีวิวมา

การออกแบบภายนอก เสี่ยวหมี่ 11 ที โปร ยังคงเอกลักษณ์เดิมของที ซีรีส์ ไว้ คือ ความหรูหราภายใต้โฉมหน้าที่เรียบร้อย ทำให้เป็นสมาร์ตโฟนที่อาจแลดูไม่โดดเด่นเตะตา แต่ยิ่งติดตาตรึงใจเมื่อใช้ไปนานๆ เหมือนคนสวยพิศ ไม่สวยผาด

อย่างไรก็ดี ตัวเครื่องนั้นมีขนาดใหญ่ (กว้าง 76.9 ยาว 164.1 หนา 8.8 มิลลิเมตร) และมีน้ำหนัก 204 กรัม ถือว่าค่อนข้างหนัก แม้มีการกระจายน้ำหนักที่ดี แต่อาจทำให้ผู้ที่ฝ่ามือมีขนาดเล็กอาจใช้ไม่ถนัดนัก

การประกอบเครื่องนั้นมีความแน่นหนาผ่านมาตรฐาน IP53 กันฝุ่นเข้าและกันน้ำสาดได้เท่านั้น กระจกนิรภัยทั้งหน้าและหลังเป็น กระจก Gorilla Glass Victus ขอบเป็นอะลูมิเนียมผิวด้าน สันด้านล่างมีถาดใส่ซิมนาโนแบบสองด้าน (ใส่ได้ 2 ซิม) ช่อง USB-C

ลำโพงสเตอริโอ ซึ่งอีกช่องอยู่ที่สันด้านบน ปรับแต่งเสียงโดยค่าย harman/kardon สหรัฐอเมริกา (ในเครือซัมซุง ประเทศเกาหลีใต้) ให้เสียงค่อนข้างดังและไม่แตกปลายเมื่อเปิดดังสุด มีความโดดเด่นอยู่ที่เสียงกลาง

เบส แม้มีขนาดเล็กพอได้หายคิดถึงแต่มีความกระชับตัวดี เสียงสูงแม้ไม่ชัดโดดเด่นและค่อนข้างคม แต่เวทีเสียงปานกลาง และมิติเสียงทางลึกนั้นส่งผลให้โดยรวมแล้วเป็นลำโพงที่เสียงดีไม่เบาทีเดียว

ขณะที่ปุ่มเพาเวอร์และปรับระดับเสียงที่สันเครื่องด้านขวา (หันจอเข้าหาผู้ใช้) ทำจากอะลูมิเนียมผิวด้านเดียวกันกับขอบ มีการตอบสนองดี แต่ค่อนข้างคมไปเล็กน้อย และเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือบิลด์อินของปุ่มเพาเวอร์ถึงมีความว่องไว แต่กลับมีความแม่นยำไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร

สิ่งที่ขาดหายไปเห็นจะเป็นช่องมินิสเตอริโอสำหรับหูฟังแบบมีสาย ขณะที่ด้านหลังนั้นโมดูลกล้องของ 11 ที โปร ไม่ได้ยื่นออกมาจากตัวเครื่องมากจนน่าหงุดหงิดเหมือนกับรุ่นก่อนอย่าง 10 ที โปร ถือว่าน่ายินดีอย่างที่สุด

หน้าจอ 11 ที โปร ใช้เทคโนโลยีจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดสูงสุด 1,080 x 2,400 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 395 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) อัตราส่วนภาพ 20:9 พื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่องร้อยละ 85.1 รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต และความถี่สูงสุด 120 เฮิร์ตซ์ (Hz) ถือว่าเป็นจอที่ลดสเป๊กลงมาจากเรือธงระดับพรีเมียมอย่าง เสี่ยวหมี่ หมี่ 11 โปร แต่ก็ยังถือว่าเหลือเฟือต่อการใช้งาน และจอมาตรฐานสำหรับสมาร์ตโฟนในช่วงราคานี้

เสี่ยวหมี่ 11 ที โปร ใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล (SoC) รุ่น Snapdragon 888 5G สร้างด้วยสถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 5 นาโนเมตร (nm) แม้ไม่ใช่ตัวท็อปจากค่ายควอลคอมม์ สหรัฐ แต่ก็ถือว่าแรงมากแล้ว

ภายในชิพดังกล่าวประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง หรือซีพียู 8 คอร์ แบ่งเป็น 3 คลัสเตอร์ ได้แก่ Kryo 680 ความถี่สัญญาณนาฬิกา 2.84 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) จำนวน 1 คอร์ ความถี่ 2.42 GHz จำนวน 3 คอร์ และที่เหลืออีก 4 คอร์ มีความถี่ 1.8 GHz หน่วยประมวลผลกราฟิกรุ่น Adreno 660

หน่วยความจำแรม (RAM) เลือกได้ 2 รุ่น ได้แก่ 8 และ 12 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) เลือกได้ 2 รุ่น ได้แก่ 128 และ 256 GB ภายใต้มาตรฐานส่งข้อมูลล่าสุด UFS 3.1 (แบนด์วิธข้อมูลสูงสุด 2,900 เมกะไบต์ต่อวินาที) แต่ไม่รองรับการ์ดเก็บข้อมูลเสริมใดๆ

การทดสอบเบนช์มาร์กผ่านแอพพลิเคชั่น Geekbench 5 พบว่าได้คะแนนประมวลผลคอร์เดียวเฉลี่ย 641 แต้ม และหลายคอร์ 3,027 แต้ม ส่วนประสิทธิภาพด้านกราฟิกนั้นทดสอบผ่านแอพฯ 3DMark ชุดทดสอบ Wild Life พบว่าได้คะแนนเฉลี่ย 5,642 แต้ม มีเฟรมเฉลี่ยอยู่ที่ 33.80 เฟรมต่อวินาที (fps) นับว่ามีประสิทธิภาพอยู่ในระดับค่อนข้างสูง รองรับการใช้งานได้ครอบคลุม

แต่การใช้งานหนักเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมงพบว่าชิพมีความร้อนค่อนข้างสูง ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะเป็นปัญหาที่มากับ เจ้าชิพ Snapdragon 888 ซึ่งผู้ทดสอบพบในรุ่นอื่นๆ เช่นกัน ขณะที่ประสิทธิภาพด้านกราฟิกถือว่าสูงอยู่ระดับแนวหน้าของฝั่งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์แล้ว เล่นเกม AAA อย่าง Genshin Impact ได้สบาย

เสี่ยวหมี่ 11 ที โปร ใช้โอเอสแอนดรอยด์ 11 รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายกูเกิ้ล ภายใต้หน้าตา UI ของทางเสี่ยวหมี่ MIUI 12.5 ซึ่งออกแบบมาได้ง่ายต่อการใช้งาน และดูเรียบร้อยไม่รกรุงรัง อย่างไรก็ดี อาจมีผู้ไม่ชอบแอพฯ ติดตั้งมาให้จำนวนมากตั้งแต่เริ่มต้นเท่าใดนัก

ส่วนการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น 11 ที โปร มีมาให้อย่างครบครันตั้งแต่สัญญาณเครือข่ายแบบ 5G สัญญาณ Wi-Fi 6 แบบ dual-band และบลูทูธ 5.2 รวมถึง aptX HD สำหรับผู้รักการฟังเพลงด้วย

กล้องถ่ายภาพของเสี่ยวหมี่ 11 ที โปร นั้นมีสเป๊กคล้ายคลึงกันกับเสี่ยวหมี่ หมี่ 11 เริ่มตั้งแต่กล้องหลัง ประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล (MP) ช่องรับแสงขนาด f/1.75 กล้องเทเลมาโคร (ทั้งสำหรับซูมและถ่ายประชิด) ความละเอียด 5MP แต่ลดสเป๊กกล้องอัลตราไวด์ลงมาเหลือความละเอียด 8 MP และกล้องเซลฟี่ด้านหน้าที่เป็นหลุมกลางจอด้านบน ความละเอียด 16 MP ซึ่งถือว่าโอเวอร์คิลสุดๆ สำหรับถ่ายเซลฟี่

ส่วนด้านการถ่ายคลิปนั้นถ่ายได้สูงสุดถึง 8K@30fps หรือจะเป็น 4K@30/60fps และ 1080p@30/60/120/240/960fps ก็ทำได้หมด (แต่เมมจะพอหรือเปล่า 8K)

แน่นอนว่าคุณภาพที่ได้จากกล้องหลักนั้นก็ใกล้เคียงกันกับกล้องหลักของหมี่ 11 โดยเฉพาะบริเวณที่มีแสงเพียงพอ ให้ภาพที่คมชัด สีสันเปล่งปลั่ง รายละเอียดไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งยังมีคอนทราสต์ที่น่าประทับใจ ผ่านเทคนิคที่เรียกว่า pixel binning คือ การนำพิกเซลเล็กๆ มารวมตัวกันให้พิกเซลมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้รับแสงได้ดีขึ้น ส่งผลให้ภาพที่ถ่ายนั้นมีความละเอียดเดิมถึง 27 MP แต่หากถ่ายในที่แสงน้อยก็จะเริ่มมีรายละเอียดบกพร่องให้เห็นมากขึ้น

ส่วนกล้องอัลตราไวด์นั้นมีช่องรับแสงขนาด f/2.2 แม้ให้สีสันที่เปล่งปลั่งได้เหมือนกล้องหลัก แต่ภาพที่ได้บางจุดมีปัญหาเรื่องความคมชัดที่ลดลงมากกว่า และพบปัญหาเรื่องแสงเกิน (overexposure) ขณะที่กล้องที่โดดเด่นที่สุดนั้นเห็นจะเป็นกล้องเทเลมาโครซึ่งมีช่องรับแสงอยู่ที่ f/2.4 เป็นกล้องถ่ายภาพระยะประชิดที่ให้คุณภาพดีที่สุด สมกับชื่อเสียงกล้องมาโครของเสี่ยวหมี่ โดยเฉพาะตระกูลซีรีส์ 11 ที่กำลังได้รับคำชมเชยอย่างกว้างขวางขณะนี้

โดยสรุป เสี่ยวหมี่ 11 ที โปร เป็น สมาร์ตโฟนที่มีการออกแบบภายนอกที่ ไม่ค่อยเตะตา และอาจไม่ปลื้มกล้อง อัลตรา-ไวด์ ทว่าชดเชยด้วยจอภาพ 120 Hz กล้องถ่ายภาพหลักคุณภาพสูง ลำโพงเสียงดี สเป๊กสูง รองรับการเล่นเกมระดับ AAA และแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่ชาร์จได้เต็มภายใน 17 นาที

นับเป็นหนึ่งเรือธงน้องเล็กที่คุ้มค่าที่สุดของชั่วโมงนี้ สนนราคาที่ 2 หมื่นบาท วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย

จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน