แอปเปิ้ล ‘แอร์พ็อดส์ 3’ หูฟังเสียงดี-ฟีเจอร์แน่นแอปเปิ้ล แอร์พ็อดส์ 3 (Apple AirPods 3) เป็นภาคต่อของหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจากแอปเปิ้ล ผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์แมคอินทอชชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา มาพร้อมกับการอัพเกรดหลายอย่างที่ทำให้มันเป็นหูฟังไร้สายที่ยั่วยวนน่าลิ้มลอง อาทิ คุณภาพเสียงดนตรี ความสะดวกในการใช้งาน และการสวมใส่ที่สบาย ภายใต้รูปลักษณ์เรียบหรูเช่นเดิม

การออกแบบภายนอกของแอร์พ็อดส์ 3 นั้นต่อยอดโดยยังคง คอนเซ็ปต์เรียบหรูจากแอร์พ็อดส์ 2 ใช้สีหลักเป็นสีขาว รูปร่างเรียว โค้งมน และก้านเซ็นเซอร์ ซึ่งก้านของแอร์พ็อดส์ 3 จะสั้นลงเล็กน้อยหากเทียบกับรุ่นก่อน เช่นเดียวกับความโค้งมนที่ปรับปรุงเล็กน้อยให้แลดูนุ่มนวลกลมกลืนมากขึ้น ทำให้ดูหรูหรา สง่างามกว่าเดิม (แลดูคล้ายแอร์พ็อดส์ โปร)

บริเวณก้านแอร์พ็อดส์ 3 เป็นที่อยู่ของเซ็นเซอร์หลายชนิด อาทิ เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกดบีบ ทำให้สามารถควบคุมการใช้งาน อาทิ การเล่นเพลง หรือการรับ-วางสายโทร.เข้าได้ด้วยการบีบที่ก้านของหูฟังชนิดนี้เช่นเดียวกับแอร์พ็อดส์ โปร

นายโอลิเวีย ทัมบินี ผู้ทดสอบจากเว็บไซต์เทคเรดาร์ กล่าวว่าระบบควบคุมของแอร์พ็อดส์ 3 มีการตอบสนองที่ว่องไว อย่างดีเยี่ยม โดยหูฟังจะส่งเสียง “คลิก” นุ่มๆ เพื่อเป็นสัญญาณ การรับคำสั่งควบคุมแต่ไม่สั่นเหมือนกับแอร์พ็อดส์ โปร และเป็นที่ น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถควบคุมระดับเสียงจากหูฟังได้โดยตรง (ต้องปรับจากโทรศัพท์หรือสั่งสิริแทน)

นอกจากนี้ ทางแอปเปิ้ลยังไม่ได้แถมจุกยางหูฟังมาให้เปลี่ยนได้เหมือนแอร์พ็อดส์ โปร แต่ชดเชยด้วยการคงไว้ซึ่งการออกแบบหูฟังแบบกึ่งเปิด ซึ่งน่าจะถูกใจสำหรับผู้ไม่ชอบ หูฟังแบบอิน-เอียร์ ทว่าการออกแบบหูฟังแบบกึ่งเปิดของแอปเปิ้ล นั้นไม่ได้ทำให้แอร์พ็อดส์ 3 ขจัดเสียงรบกวนได้ไม่ดี แม้จะ ไม่มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนภายนอก (Active Noise Cancellation- ANC)

การทดสอบพบว่าแอร์พ็อดส์ 3 มีประสิทธิภาพการกันเสียงรบกวนจากภายนอกอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ โดยยังสามารถได้ยินเสียงจากภายนอกมากพอจะรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ แต่พบว่ามีเสียงดังออกมาเล็กน้อยจากหูฟัง จึงอาจไม่เหมาะจะใช้ในสถานที่ที่ผู้คนต้องการความเงียบมากๆ อาทิ ห้องสมุด เป็นต้น

สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดนั้นเป็นคุณภาพเสียงที่แอร์ พ็อดส์ 3 ทำได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน เป็นผลมาจากการออกแบบรูปร่างโค้งมนแบบใหม่ของแอปเปิ้ลที่ทำให้เสียงจากลำโพงหูฟังถูกส่งเข้าสู่ช่องหูของ ผู้ใช้โดยตรง ทั้งยังเป็นการชดเชยการออกแบบหูฟังแบบกึ่งเปิดที่มัก มีข้อเสียเรื่องการสูญเสียความชัดเจนของดนตรี

ด้านการสวมใส่แอร์พ็อดส์ 3 มีความสะดวกสบายมาก เหตุผลประการแรกมาจากน้ำหนักเบาหวิวข้างละเพียง 4.28 กรัม ไม่ทำให้รู้สึกเหมือนเอาสิ่งแปลกปลอมมาถ่วงหูไว้ ขณะที่พื้นผิวโค้งนุ่มนวลและเรียบลื่นของหูฟัง ช่วยลดอาการระคายเคืองให้ผู้ที่มีขนาดช่องหูเล็ก หรือผิวอ่อนไหวเวลาสวมใส่เป็นเวลานาน

เรื่องความแน่นหนาขณะสวมใส่นั้น การทดสอบใส่วิ่งออกกำลังกายแบบจ๊อกกิ้งไม่พบว่าลื่นหลุดออกจากหู อย่างไรก็ดี หากเป็นผู้กำลังมองหาหูฟังเพื่อใส่ออกกำลังกาย แนะนำว่าควรมองหารุ่นมีครีบเพิ่มความฝืด ในช่องหู หรือสายคล้องคอดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า แอร์พ็อดส์ 3 จะรองรับการออกกำลังเบาๆ ไม่ได้ เพราะการประกอบแน่นหนาผ่านมาตรฐานกันน้ำแบบ IPX4 กล่าวคือสามารถกันเหงื่อได้สบาย โดยมาตรฐานนี้รวมถึงตลับชาร์จแบบพกพาที่มากับหูฟังด้วย

เมื่อเปิดฝาตลับชาร์จพกพาของแอร์พ็อดส์ 3 ขึ้นมาจะส่งผลให้ไฟ LED บอกสถานะ หูฟังสว่างขึ้น ได้แก่ สีเขียว หมายความว่า หูฟังทั้งสองข้างแบตเตอรี่ชาร์จเต็มแล้ว สีเหลืองหมายความว่า มีข้างใดข้างหนึ่ง หรือสองข้างที่ประจุไฟชาร์จยังไม่เต็ม และสีขาวกะพริบ หมายความว่าพร้อมจะเชื่อมต่อ หรือแพริ่งกับโทรศัพท์ของผู้ใช้แล้ว

ตลับชาร์จพกพาดังกล่าวมีช่องไลต์นิ่ง (Lightning port) อยู่ด้านล่าง สำหรับชาร์จไฟผ่านสายเคเบิล ทั้งยังรองรับการชาร์จไฟแบบไร้สายตามมาตรฐาน Qi และ Apple MagSafe โดยทางแอปเปิ้ลแถมสายเคเบิล USB-C to Lightning มาให้แต่หัวชาร์จเจอร์ต้องไปหามาเองต่างหาก

สำหรับรายละเอียดคุณภาพเสียงของ แอร์พ็อดส์ 3 นับเป็นไฮไลต์สำคัญของรุ่นนี้ เริ่มตั้งแต่การติดตั้งไดรเวอร์รุ่นใหม่ที่ให้ รายละเอียดของเสียงผิดเพี้ยนน้อยมาก ส่วนขยาย หรือแอมพลิไฟเออร์ที่มีไดนามิกเรนจ์สูง ช่วยให้เบสฟังดูมีพลัง เสียงมีความคมชัดและเสียงสูงใสไม่แตกปลาย

การทดสอบพบว่า แอร์พ็อดส์ 3 ให้คุณภาพเสียงเพลงไพเราะมากขึ้นกว่าแอร์ พ็อดส์ 2 ชัดเจน โดยเฉพาะเสียงย่านความถี่ต่ำทำให้ดนตรีออกมาฟังดูกระหึ่มและค่อนไปทางอุ่น ถือว่าเป็นหูฟังที่ดีเยี่ยมตัวหนึ่งสำหรับผู้บริโภคทั่วไป แต่ไม่ใช่สำหรับกลุ่มนักเลง หูทองทั้งหลาย (คงรู้กันอยู่แล้วแหละ)

แอร์พ็อดส์ 3 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ปรับ โทนเสียงอย่าง Adaptive EQ (AEQ) ซึ่งใช้ครั้งแรกในแอร์พ็อดส์ โปร โดยเทคโนโลยีนี้ จะทำหน้าที่ปรับโทนเสียงให้เหมาะกับสรีระช่องหูของ ผู้ใช้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้รับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ซึ่งทางแอปเปิ้ลอธิบายว่าไมโครโฟนที่อยู่ด้านในของ หูฟังจะตรวจจับเสียงภายในช่องหูแล้วนำมาผ่าน อัลกอริทึมพิเศษเพื่อ ปรับความดังของความถี่แต่ละย่าน โดยเฉพาะย่านต่ำและกลางเพื่อชดเชยเสียงที่สูญเสียไปกับสรีระช่องหูดังกล่าว

ทว่า ฟีเจอร์น่าประทับใจที่สุดเรื่องคุณภาพเสียงของแอร์พ็อดส์ 3 เป็น Spatial Audio ที่นำข้อมูลเสียงซึ่งบันทึกมาแบบ 5.1 และ 7.1 แชนเนล (ช่องเสียง) รวมทั้ง Dolby Atmos มาผ่านฟิลเตอร์พิเศษของแอปเปิ้ลเพื่อสร้างเวทีเสียงจำลองแบบ 3 มิติ ทำให้ผู้รับฟังเสียงไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือภาพยนตร์ได้ยินราวกับเสียงนั้นพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางรอบตัว

ฟีเจอร์ Spatial Audio เดิมทีนั้นใช้เฉพาะในแอร์พ็อดส์ โปร และแอร์พ็อดส์ แม็กซ์ เพราะต้องอาศัยเซ็นเซอร์ อาทิ accelerometer และ gyroscope ในการติดตามทิศทางของศีรษะ ซึ่งฟีเจอร์นี้ใน แอร์พ็อดส์ 3 ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมาก

น่าเสียดายที่สุดจุดนี้เป็น Codec ที่แอร์พ็อดส์ 3 รองรับได้ มีเพียง SBC และ AAC หมายความว่าไม่รองรับ Codec ประเภท Lossless/Hi-res แม้ที่ผ่านมาคลื่น Bluetooth จะไม่มีแบนด์วิธมากเพียงพอในการส่งข้อมูลแบบ Lossless แต่สมัยนี้สามารถทำได้แล้วผ่าน Codec พิเศษอย่าง aptX Lossless ของค่ายควอลคอมม์ และ LDAC จากค่ายโซนี่

ด้านระยะเวลาการใช้งานจากแบตเตอรี่ของแอร์พ็อดส์ 3 สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง นับเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับของแอร์พ็อดส์ ซีรีส์ นับตั้งแต่แอร์พ็อดส์ รุ่นแรก (ปีค.ศ.2019) ที่วูบ ไปหลัง 24 ช.ม. (5 ช.ม.จากหูฟัง และอีก 19 ช.ม.จากตลับชาร์จ) โดยแอร์พ็อดส์ 3 ใช้ฟังเพลงได้นานต่อเนื่อง 6 ช.ม. สนทนาต่อเนื่องนาน 4 ช.ม. สามารถชาร์จจนเต็มได้ถึง 4 รอบ จากตลับชาร์จ (ที่พลังงานเต็ม) พร้อมสนับสนุนระบบชาร์จไว สามารถฟังเพลงได้นาน 1 ช.ม. จากการชาร์จเพียง 5 นาที แน่นอนว่าชาร์จไร้สายได้ตามที่กล่าวไปแล้ว ทว่าระยะเวลาใช้งานจะสั้นลงถ้าเปิดใช้ Spatial Audio

เรื่องการเชื่อมต่อของแอร์พ็อดส์ 3 แน่นอนว่าทำงานได้ดีที่สุดกับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ล สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone, iPad, Mac และ MacBook ได้ด้วยขั้นตอนเดียว พร้อมฟีเจอร์ Audio Sharing กล่าวคือสามารถใช้หูฟังเชื่อมต่อเพื่อรับเสียงจากผลิตภัณฑ์ 2 ชิ้น ได้ในคราวเดียว เช่น Apple TV และ iPhone เผื่อมีสายเรียกเข้า หรือเชื่อมต่อกับแอร์พ็อดส์ของเพื่อน ในโอกาสที่ต้องการแบ่งปันเพลงโปรดให้เพื่อนลองฟังได้ (แต่เสียงอาจจะดังน้อยลง) นอกจากนี้ ภายในหูฟังยังมีเซ็นเซอร์ที่จะหยุดการทำงานของหูฟังอัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตฯ ด้วยหากไม่ได้สวมใส่ไว้ที่หู

ทีมข่าวสดไอทีมองว่า แอร์พ็อดส์ 3 เป็นหูฟังไร้สายภาคต่อ ที่ยอดเยี่ยมจากแอปเปิ้ล แม้จะน่าเสียดายที่ ไม่สนับสนุน Lossless Codec และไม่มีเทคโนโลยี ANC แต่ชดเชยด้วยคุณภาพเสียงและฟีเจอร์โดดเด่นอย่าง Spatial Audio การใช้งานง่าย พร้อมดีไซน์ใส่สบายไม่เจ็บหู น้ำหนักเบา พกพาง่าย และระยะการใช้งาน ที่นานขึ้น เหล่าสาวกแอปเปิ้ลรับรองว่าไม่ ผิดหวัง สนนราคาที่ 6,790 บาท วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย

ภาพ – เทคเรดาร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน