มือถือเรดหมี่ โน้ต 11 – เรดหมี่ หนึ่งในผู้พัฒนาสมาร์ตโฟนดาวรุ่งจากประเทศจีน ซับแบรนด์ของค่ายเสี่ยวหมี่ที่หลายคนรู้จักดี สร้างบรรทัดฐานใหม่ของความคุ้มค่าอีกครั้งให้ตลาดมือถือระดับเอนทรี่ด้วย เรดหมี่ โน้ต 11 (Redmi Note 11) เปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อช่วงต้นเดือนก.พ. โดยเป็นน้องเล็กของเรดหมี่ โน้ต 11 โปร 5 จี (Redmi Note 11 Pro 5G) ด้วยจุดเด่นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เซ็นเซอร์ปลดล็อกเครื่องความไวสูง หน่วยความจำแรม และพื้นที่เก็บข้อมูล รวมถึงหน้าจอและกล้องถ่ายภาพดีขึ้นกว่า เรดหมี่ โน้ต 10

แม้เรดหมี่ โน้ต 11 เป็นสมาร์ตโฟนตลาดเอนทรี่ สนนราคาราว 6 ถึง 7 พันบาท แต่มีประสิทธิภาพและดีกรีเป็นคู่แข่งได้โดยตรงกับซัมซุง กาแล็กซี เอ ซีรีส์ (Samsung Galaxy A series) จากประเทศเกาหลีใต้ ทางเว็บไซต์แอนดรอยด์อูธอริตี จึงนำประสบการณ์ทดลองใช้งานมาให้รับชมกัน ว่ามิติใหม่ของสมาร์ตโฟนระดับเอนทรี่เป็นอย่างไร

เริ่มที่การออกแบบภายนอกของเรดหมี่ โน้ต 11 เรียกได้ว่าทางเรดหมี่ยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้เกือบทุกประการเหมือนรุ่นก่อนหน้าตามคอนเซ็ปต์เรียบง่ายสายใช้งาน ไม่ได้แลดูโดดเด่นนักหากเทียบกับค่ายคู่แข่งอื่นๆ ในช่วงราคาเดียวกัน อาทิ ฝาหลังพลาสติกชั้นดีชนิดโพลีคาร์บอเนต แลดูคล้ายฝาโลหะหากมองไกลๆ กระจกนิรภัย Gorilla Glass 3 ช่วยปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วนและแรงกระแทก รวมถึงมาตรฐานกันน้ำสาดแบบ IP53

ตัวเครื่องเรดหมี่ โน้ต 11 ขนาดกว้าง 73.9 ยาว 159.9 หนา 8.1 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมแบตฯ อยู่ที่ 179 กรัม ลำโพงสเตอริโอ มีช่องใส่หูฟัง และ USB-C สนับสนุนซิมการ์ดได้ 2 ชิ้นพร้อมกัน พร้อมช่องใส่การ์ดข้อมูลเสริมแบบ microSDXC แยกต่างหาก หมายความว่าสามารถใส่ได้ 2 ซิม และการ์ดไมโครเอสดีพร้อมกัน นับเป็นคุณสมบัติที่ห่างหายไปจนหาแทบไม่ได้แล้วในสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมทุกวันนี้

สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ใช้หน้าจอชนิด AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว มีเรโซลูชั่น 1,080×2,400 พิกเซล (FHD+) อัตราส่วนภาพ 20:9 ความหนาแน่นพิกเซล 409 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) พื้นที่จอภาพต่อตัวเครื่องคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 84.5 ความสว่าง 700 นิต สูงสุดได้ถึง 1,000 นิต รองรับความถี่ (Refresh Rate) หน้าจอสูงสุด 90 เฮิร์ตซ์ (Hz) ช่วยให้ภาพลื่นไหลน่าใช้งาน และหน้าจอสัมผัสมีความไว 180 Hz ถือเป็นหน้าจอที่ดีมากสำหรับมือถือราคาช่วงนี้ สอดคล้องกับผลการทดสอบใช้งานพบว่า ให้ภาพที่คมชัด สีสดใสเตะตา และสามารถสู้แสงเวลาใช้งานกลางแจ้งได้พอสมควร

โน้ต 11 รันด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 11 จากกูเกิ้ล ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้โฉมหน้าของ MIUI 13 ใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล (SoC) รุ่น Snapdragon 680 จากค่ายควอลคอมม์ สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร (nm) ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง หรือซีพียูแบบ 8 คอร์ (Octa-core) และหน่วยประมวลผลกราฟิก หรือจีพียูรุ่น Adreno 610 มีพื้นที่เก็บข้อมูล (ROM) และหน่วยความจำแรม (RAM) 4 แบบ ได้แก่ 64/4, 64/6, 128/4 และ 128/6 กิกะไบต์ (GB) ตามลำดับ อัตราการส่งข้อมูลมาตรฐาน Universal Flash Storage (UFS) 2.2 หรือ 1,200 เมกะไบต์ต่อวินาที (MB/s)

ซีพียูแบ่งเป็น 2 คลัสเตอร์ ได้แก่ Kryo 265 Gold ความถี่สัญญาณนาฬิกา 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) จำนวน 4 คอร์ และ Kryo 265 Silver ความถี่ 1.9 GHz อีกจำนวน 4 คอร์ ใช้พลังงานจากแบตฯ ขนาดใหญ่ 5,000 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh)

ขนาดแบตฯ ดังกล่าวเทียบกับสเป๊กข้างต้นแล้วถือว่าใหญ่มาก และน่าจะกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์โดดเด่นที่สุดของเรดหมี่ โน้ต 11 จากการทดสอบใช้งานพบว่า มีพลังงานมากเพียงพอใช้งานได้นานเกือบ 2 วัน ภายใต้หน้าจอความถี่ 90 Hz ถือว่าน่าประทับใจมาก และหากปรับลดความถี่หน้าจอลงมาเหลือ 60 Hz ก็สามารถใช้งานได้ 2 วันแบบสบายๆ ไม่หมดเท่านั้น โน้ต 11 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ชาร์จไว 33 วัตต์ โปร และชาร์จเจอร์ขนาด 33 วัตต์ (W) แถมมาอีกด้วย ซึ่งสามารถชาร์จแบตฯ ตั้งแต่ศูนย์จนเต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง

ด้านประสิทธิภาพของเครื่อง แม้จะอาศัยเทคโนโลยีเก่าอย่างแรมชนิด LDPPR4x และมาตรฐานอัตราการส่งข้อมูล UFS 2.2 (ปัจจุบันสูงสุดเป็น UFS 3.1) แต่การทดสอบใช้งานไม่พบปัญหาการสะดุด หรือโหลดช้าไม่ทันใจในการใช้งานทั่วไป ขณะที่คะแนนเบนช์มาร์กแม้ไม่สูงจนน่านำมาแสดงให้ดูนัก แต่ก็อยู่ในช่วงคะแนนที่เหมาะสมสำหรับสมาร์ตโฟนราคานี้แล้ว เรียกว่าสามารถรองรับการใช้งานทั่วไปได้สบาย (แต่เล่นเกมที่ใช้กราฟิกสูงๆ นี่เลิกคิดไปได้เลย)

แน่นอนว่า เรดหมี่ โน้ต 11 ไม่ใช่สมาร์ตโฟนที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความเป็นมือถือระดับเอนทรี่ทำให้หลายฟีเจอร์ต้องถูกนำออกไป เพื่อลดต้นทุนให้ราคาเครื่องอยู่ในระดับเข้าถึงได้ง่าย อาทิ ไม่รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารยุคที่ห้า (5G) การกลับไปใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 และสัญญาณบลูทูธ 5.0 (ปัจจุบันเป็น Wi-Fi 6e และ Bluetooth 5.3) หมายความว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะตกรุ่นอย่างรวดเร็วหลังจากซื้อมา แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นกำไร เพราะแม้จะเป็นเทคโนโลยีเก่า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะช้าจนเซ็ง เพราะการใช้งานทั่วไปรับรองได้ว่าแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างแน่นอน

อีกจุดหนึ่งที่เป็นข้อด้อยของเรดหมี่ โน้ต 11 คือประสิทธิภาพเรื่องการถ่ายภาพ แม้ทางเรดหมี่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมาอย่าง โน้ต 10 แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่น่าประทับใจนัก เริ่มจากจากโมดูลด้านหลังที่นูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย ประกอบด้วยเลนส์ 4 ชุด ได้แก่ เลนส์ไวด์ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (MP) ช่องรับแสงขนาด f/1.8 ระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัส 26 ม.ม. มีระบบออโต้โฟกัสแบบ Phase Detection Auto Focus (PDAF)

เลนส์ถัดมาเป็นอัลตราไวด์ ความละเอียด 8MP ช่องรับแสงขนาด f/2.2 ให้ภาพมุมกว้าง 118 องศา พร้อมเลนส์มาโคร (ระยะประชิด) และเลนส์ระยะทางลึก ความละเอียด 2MP ช่องรับแสงขนาด f/2.4 เท่ากันทั้งสองชุด พร้อมแฟลช LED รองรับ HDR และ Panorama สามารถถ่ายคลิปได้ความละเอียดสูงสุด 1080p หรือ FHD อัตราเฟรม 30 เฟรมต่อวินาที (1080p@30fps) เช่นเดียวกับกล้องเซลฟี่ที่เป็นหลุมเลนส์ฝังอยู่กลางจอภาพด้านบน ความละเอียด 13MP ขนาดช่องรับแสง f/2.4

นายเอริก ซีแมน ผู้ทดสอบจากเว็บไซต์แอนดรอยด์อูธอริตี กล่าวว่า ซอฟต์แวร์การถ่ายภาพของเรดหมี่นั้นใช้งานง่ายตรงไปตรงมา รวมทั้งมีฟีเจอร์ให้เลือกเล่นได้หลากหลาย
ผลการถ่ายภาพจากกล้องหลักในเวลากลางวันพบว่า สามารถให้ภาพที่มีความคมชัดสูง สีสันสดใสน่ามอง แต่มีคอนทราสต์ที่ไม่โดดเด่น ขณะที่หากถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยลงเรื่อยๆ จะพบว่ามี noise มากขึ้น และสีจืดชืดลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับกล้องอัลตราไวด์ให้คุณภาพของภาพออกมาในเกณฑ์ที่สามารถยอมรับได้ในสภาวะแสงเพียงพอ

ส่วนกล้องมาโครถือว่าไม่ค่อยดีเนื่องจากภาพขาดรายละเอียด เช่นเดียวกับกล้องเซลฟี่ที่คุณภาพของภาพที่ออกมาไม่สม่ำเสมอ บางครั้งดี บางครั้งก็ใช้ไม่ได้ ผนวกกับคลิปที่ถ่ายได้เพียง 1080p@30fps ถือว่าน่าเสียดาย

ด้านซอฟต์แวร์อย่าง MIUI 13 ของทางเรดหมี่ ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนการอัพเดตไปเป็นแอนดรอยด์ 12 รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นได้อัพแน่นอน ทางเรดหมี่ระบุว่าจะได้อัพช่วงไตรมาสสามของปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงกันระหว่างบริษัทแม่อย่างเสี่ยวหมี่กับกูเกิ้ล

นายซีแมนมองว่า เรดหมี่ โน้ต 11 โดยรวมแล้วมีประสิทธิภาพพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจสำหรับสมาร์ตโฟนช่วงราคา ดังกล่าว ไม่ว่าขุมพลังของเครื่องที่สามารถแข่งขันสมาร์ตโฟนคู่แข่งแบรนด์อื่นได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แบตฯ ขนาดใหญ่ให้ระยะเวลาใช้งานได้น่าประทับใจ หน้าจอที่ยอดเยี่ยมเกินราคาค่าตัว และการประกอบภายนอกที่แน่นหนาดูเรียบร้อยเรียบง่าย

เหมาะกับสายใช้งานที่ต้องการความคุ้มค่า ผู้กำลังมองหามือถือสำหรับใช้งานทั่วไปที่มีหน้าจอใหญ่ สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็ว มีระยะเวลาการใช้งานนาน ไม่ต้องชาร์จบ่อย ในราคาเข้าถึงง่าย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในกลุ่มเดียวกันกับซัมซุง กาแล็กซี เอ03เอส (Samsung Galaxy A03s) และโนเกีย จี20 (Nokia G20) นับว่าเป็นการยกระดับสมาร์ตโฟนระดับเอนทรี่จากเรดหมี่ หรือมิติใหม่ของความคุ้มค่าที่แท้ทรู

ทีมข่าวสดไอที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน