Google I/O 2023 เปิดตัวฟีเจอร์-ฟังก์ชั่นใหม่อื้อ แช็ตบ็อตกูเกิ้ลก็มาด้วย
Google I/O 2023 – วันที่ 11 พ.ค. เดอะเวิร์จรายงานสรุปมหกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมประจำปีของค่ายกูเกิ้ลเวียนกลับมาถึงอีกครั้งในปีนี้ โดยงาน กูเกิ้ล ไอ/โอ 2023 (Google I/O 2023) ที่จัดขึ้นเมื่อ 10 พ.ค. ภายในเวทีจัดแสดง ชอร์ไลน์ แอมฟิเธียเตอร์ เมืองเมาน์เทนวิล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
นำเสนอฟีเจอร์และผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมนวัตกรรมจากระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ จำนวนมาก ซึ่งทางเว็บไซต์เดอะเวิร์จ สื่อเทคโนโลยีชั้นนำ คัดเลือกสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในงานมาให้ชมกัน
New Pixel
ผลิตภัณฑ์ตระกูลพิกเซลนั้นถือเป็นหนึ่งในพระเอกของมหกรรม กูเกิ้ล ไอ/โอ โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ สมาร์ตโฟนพับได้รุ่นแรกจากกูเกิ้ลอย่าง พิกเซล โฟลด์ (Pixel Fold) แท็บเล็ตกูเกิ้ล พิกเซล แท็บเล็ต (Pixel Tablet) และสมาร์ตโฟน พิกเซล 7เอ (Pixel 7A) ซึ่งเป็นมือถือพิกเซลรุ่น 7 แบบราคาเข้าถึงได้ง่าย
สมาร์ตโฟนพับได้รุ่นแรกของกูเกิ้ลนั้นสนนราคาเริ่มต้นที่ 1,799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6 หมื่นบาท มีหน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว อยู่ด้านนอก และกางออกมาเป็นหน้าจอ OLED ขนาด 7.6 นิ้ว รองรับความถี่สูงสุด 120 เฮิร์ซ (Hz) ถือเป็นการเข้าสู่ตลาดสมาร์ตโฟนพับได้อย่างเป็นทางการของกูเกิ้ล ท้าชนโดยตรงกับซัมซุง กาแล็กซี ซี โฟลด์ (Samsung Galaxy Z Fold)
ส่วนของแท็บเล็ตรุ่นใหม่จะทำงานเป็นทั้งแท็บเล็ตและมีความสามารถคล้ายสมาร์ตดิสเพลย์ มาพร้อมกับฐานรองเครื่องที่ทำหน้าที่เป็นทั้งลำโพงและแท่นชาร์จ สนนราคาที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16,000 บาท
สุดท้ายเป็นสมาร์ตโฟน พิกเซล 7เอ ที่ถือเป็นมือถือตลาดระดับกลาง ใช้ชิพ กูเกิ้ล เท็นเซอร์ จี2 ที่มีความโดดเด่นด้านการประมวลผลของเอไอแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1080p รองรับความถี่สูงสุด 90 Hz ราคาเริ่มต้นประมาณ 16,000 บาท เช่นเดียวกันกับ พิกเซล แท็บเล็ต ตัวใหม่
Google AI snapshots
ระบบการค้นหาผ่าน Google Search จะได้รับการอัพเดทใหม่ เป็นเทคนิคการค้นหาด้วยการใช้เอไอเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เรียกว่า “AI snapshots” ส่งผลให้หน้าตาของผลลัพธ์ที่ปรากฎขึ้นหลังการค้นหาเปลี่ยนไป
มีผลการค้นหา หรือคำตอบ ต่อคำถามที่ค้นหาโดยเอไออยู่ที่ด้านบนสุดเสมอ และเอไอสามารถมีคำถามเพิ่มเติมต่อผู้ค้นหาเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ค้นหากรณีต้องการข้อมูลที่เจาะจงหรือลึกขึ้นกว่าผลลัพธ์ปัจจุบัน ทำให้ผู้ค้นหาสามารถสืบค้นต่อจากผลลัพธ์ได้สะดวก
ฟีเจอร์ AI snapshots นั้นที่ผ่านมาถือเป็นฟังก์ชั่นทดลอง ผู้ที่จะทดลองใช้ต้องเข้าร่วมโครงการพิเศษของทางกูเกิ้ล เรียกว่า Search Generative Experience (SGE) แต่เวอร์ชั่นล่าสุดที่ทางกูเกิ้ลนำมาเปิดตัวนั้นใช้ขุมพลังจากเอไอด้านภาษาตัวใหม่ที่ทางกูเกิ้ลเปิดตัวในงานด้วย ชื่อว่า ปาล์ม2 (PaLM 2)
มีการใช้เหตุผลและการแปลที่ดีกว่าเดิม คอยทำงานอยู่เบื้องหลังกว่า 25 บริการของกูเกิ้ลมาสักพักใหญ่แล้ว ในจำนวนนี้ รวมถึงแช็ตบ็อต “บาร์ด” (Bard) ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังจะมาเปิดให้ใช้กันได้ทั่วโลกฟรีในอีกไม่กี่อึดใจ
Bard chatbot
การมาถึงของไอเอที่มีความก้าวหน้าเหนือชั้นจนกลายเป็นแช็ตบ็อตที่ช่วยให้การสืบค้นข้อมูลสะดวกรวดเร็วขึ้นอย่าง ChatGPT จากค่าย OpenAI สร้างแรงกระเพื่อมด้านนวัตกรรมเอไอไปทั่วโลก แน่นอนว่าทางกูเกิ้ลในฐานะราชาการสืบค้นข้อมูลไม่ยอมตกเป็นรอง
หลังก่อนหน้านี้ บาร์ด แช็ตบ็อต ของกูเกิ้ลเป็นเพียงฟีเจอร์ทดลองใช้เฉพาะในสหรัฐฯ ล่าสุด ภายในงานมหกรรม กูเกิ้ล ไอ/โอ 2023 ทางกูเกิ้ลประกาศเปิดให้คนทั่วโลกได้ใช้กันแล้ว (ลิงค์ไปแช็ตบ็อต)
นอกจากนี้ ทางกูเกิ้ล ยังเพิ่มเติมฟังก์ชั่นใหม่และความสามารถพิเศษเข้าไปให้บาร์ดด้วย อาทิ การรองรับภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี รวมถึงฟังก์ชั่นเคลื่อนย้ายข้อมูลที่เป็นอักษรจากบาร์ดไปยัง Google Docs และ Gmail ได้สะดวกด้วย
ยังไม่หมดเท่านั้น กูเกิ้ล ยังเพิ่มฟีเจอร์ถนอมสายตาและประหยัดพลังงานอย่าง Dark mode เข้าไปให้อีก ตลอดจนฟังก์ชั่นใหม่ที่จะทยอยอัพเดทเข้ามาในอนาคตอันใกล้ เช่น ฟังก์ชั่นสร้างภาพด้วยเอไอ (ใช้คอร์โมดูล Firefly จากค่าย Adobe) และการใช้งานร่วมกับบริการจากค่ายผู้ให้บริการอื่น อาทิ OpenTable และ Instacart
AI-powered customization for Android OS
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ จากค่ายกูเกิ้ล จะได้รับอัพเดทใหม่สำหรับการค้นหาข้อมูลผ่านเอไอด้วยเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่บนแอนดรอยด์ คือ เมจิก คอมโพส (Magic Compose) ฝังตัวอยู่ในแอพพลิเคชั่น Messages สามารถแนะนำผู้ใช้เป็นข้อความตอบกลับสำเร็จรูปได้สะดวกรวดเร็ว
อีกฟีเจอร์หนึ่งเป็นเอไอสำหรับเนรมิตรภาพพื้นหลัง หรือวอลเปเปอร์มือถือได้ด้วยตัวผู้ใช้เองผ่านการเขียนบรรยายภาพให้เอไอนำไปวิเคราะห์แล้วสร้างขึ้นมา ส่วนฟังก์ชั่นใหม่เฉพาะสมาร์ตโฟนตระกูลพิกเซล (มาเดือนมิ.ย.) นั้นจะเป็น cinematic wallpaper ที่ใช้เอไอวิเคราะห์ภาพพื้นหลังแล้วเพิ่มมิติของภาพเข้าไปทำให้แลดูคล้ายเป็นภาพที่ออกมาจากภาพยนตร์
Wear OS 4
เวียร์ โอเอส ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะจากค่ายกูเกิ้ล รุ่นที่ 4 จะมาพร้อมกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการพลังงานที่ดีขึ้นทำให้มีระยะเวลาใช้งานยาวนานขึ้นกว่ารุ่น 3 และฟังก์ชั่นสำรองและกู้ข้อมูลบนนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ
รวมถึงฟังก์ชั่นสำหรับผู้พิการ ตลอดจนความสามารถในการประสานงานกับผลิตภัณฑ์อัจฉริยะอื่น อาทิ หลอดไฟ และลำโพงอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้สะดวกรวดเร็วจากนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ ซึ่งทางกูเกิ้ล ยืนยันว่า เวียร์ โอเอส 4 จะเริ่มทยอยอัพเดทกันช่วงปลายปีนี้
Google Home app
ทางกูเกิ้ลยังเปลี่ยนโฉมแอพ Google Home ใหม่ และนำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่แอพดังกล่าวอยู่ในช่วงทดลองใช้มานาน ทำหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการผลิตภัณฑ์อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง หรือไอโอที ในบ้านของผู้ใช้ โดยเวอร์ชั่นเต็มที่จะเปิดให้ใช้นั้นถูกปรับโฉมใหม่หลายจุด อาทิ อินเตอร์เฟสกล้อง แถบ Favorite ใหม่ และการรองรับอุปกรณ์อีกเพียบ
Perspectives
ระบบการสืบค้นข้อมูลของกูเกิ้ลยังมีอีกหนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามา คือ เปอร์สเป็กทีฟ ซึ่งทำงานตามคำแปลตรงตัว คือ การขุดค้นเอา “มุมมอง” ของผู้ใช้คนอื่นมาประกอบกับการค้นหา โดยกูเกิ้ลจะอาศัยแหล่งข้อมูลจากเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Reddit (อารมณ์แบบพันธุ์ทิพย์ของชาวโลก) Stack Overflow, YouTube และ Blog อื่นๆ ที่น่าเชื่อถือ
Google Photos (Magic Editor)
แอพภาพของกูเกิ้ลจะได้อัพเดทฟังก์ชั่นใหม่เป็นการตกแต่งภาพแบบใหม่ Magic Editor ที่ใช้เอไอเข้ามาช่วยเหลือทำให้เปิดประตูการตกแต่งภาพได้อย่างกว้างขวาง เช่น การทำให้ท้องฟ้าในภาพแลดูชัดขึ้น การขยับย้ายตำแหน่งสิ่งของ หรือมนุษย์ในภาพ (หรือแม้กระทั่งจัดการลบคนที่เราไม่ต้องการเห็นออกไป) แต่ฟังก์ชั่นนี้เฉพาะผู้ใช้มือถือพิกเซลเท่านั้น
Duet AI
(AP Photo/Jeff Chiu)
เอไอตัวใหม่จากกูเกิ้ลที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้แอพทำงานออฟฟิศอย่าง Docs, Sheets, Slides, Meet และ Gmail อาทิ ผู้ใช้จะสามารถร่างอีเมล์ได้รวดเร็วขึ้นด้วยข้อความแนะนำไปจนถึงสร้างภาพประกอบงานนำเสนอผ่านเอไอ แต่เอไอข้างต้นจะยังอยู่ขั้นทดลองเท่านั้น หมายความว่า ผู้ที่ต้องการทดสอบใช้งานต้องไปลงชื่อไว้กับกูเกิ้ลผ่านเว็บไซต์
