ในบรรดาตลาดแท็บเล็ตนั้น ขนาดเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้หลายคนให้ความสำคัญ ซัมซุง ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อก้องโลกจากเกาหลีใต้ มีผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตใหม่ที่สร้างมาสำหรับผู้ชื่นชอบความโอ่อ่ากว้างขวางในการใช้งาน
ซัมซุง กาแล็กซี แท็บ เอส 10 อัลตรา (Samsung Galaxy Tab S10 Ultra) แท็บเล็ตหรูชั้นพรีเมียม ขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดในวงการ ด้วยหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาดมโหฬาร 14.6 นิ้ว เรียกได้ว่าพอๆ กับโน้ตบุ๊กเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว
ความละเอียด 1,848×2,960 พิกเซล ขอบจอบาง สัดส่วนจอภาพต่อตัวเครื่องร้อยละ 90.7 ความหนาแน่นพิกเซล 239 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) รองรับความถี่สูงสุด 120 เฮิร์ตซ์ (Hz) เทคโนโลยีภาพ HDR10+ พร้อมฟังก์ชัน Vision Booster ช่วยลดแสงสะท้อนบนจอภาพ
Galaxy-Tab-S10-Ultra-พร้อม-Book-Cover
การออกแบบภายนอกเรียบหรู กว้าง 208.6 ยาว 326.4 และบางเพียง 5.4 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ขนาด 11,200 มิลลิแอมป์ต่อชั่วโมง (mAh) อยู่ที่ 718 กรัม ถือว่าน้ำหนักค่อนข้างมาก ถือมือเดียวได้แต่นานไปอาจรู้สึกเมื่อยข้อมือ
ถือไปไหนมาไหนอาจจะเทอะทะเล็กน้อย แต่สัมผัสที่ได้นั้น น่าจับมาก เพราะซัมซุงออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยดีไซน์ใหม่ถอดด้ามทั้งเครื่อง และปากกา
ปากกา-S-Pen
ขนาดใหญ่มโหฬารมากับความเสี่ยงกระทบกระแทก และเปรอะเปื้อนของเหลวต่างๆ ทางซัมซุงจึงออกแบบมาให้แท็บเล็ตรุ่นนี้ทนทานเป็นพิเศษ ด้วยอะลูมิเนียมเสริมแกร่ง Enhanced Armor Aluminium ประกอบแน่นหนา
ได้การรับรองมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นแบบ IP68 (ฝุ่นไม่เข้าและกันน้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที) ทางผู้ทดสอบลองดูแล้ว เชื่อถือได้
แท็บเอส 10 อัลตรา มีลำโพงสเตอริโอ 4 ตำแหน่ง ปรับแต่งเสียงโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของค่าย AKG ประเทศเยอรมนี (ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของซัมซุง) ทำให้คุณภาพเสียงที่ได้ออกมาน่าประทับใจมาก
กล้องหลัง
พลังเสียงดังสะใจ เบสชัดมากทำให้เสียงมีพลัง ไดนามิกดีมาก ย่านกลางเด่นพุ่งเข้าหาผู้ใช้ ย่านสูงอาจถูกกลบไปบ้างดนตรีบางสไตล์ ไม่แหลมบาดหู แต่ชดเชยด้วยเวทีเสียงที่กว้างขวาง เปิดลำโพงดังสุดไม่พบเสียงแตก สายบันเทิงถูกใจแน่นอน
ด้านหน้ามีกล้องถ่ายภาพ 2 ชุด ได้แก่ เลนส์หลักมีเซ็นเซอร์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (MP) และเลนส์ภาพกว้างความละเอียดเท่ากัน ด้านหลังมีกล้องอีก 2 ชุด แบ่งเป็นความละเอียด 13MP และ 8MP ในเลนส์ภาพกว้าง
รองรับการถ่ายคลิปความละเอียดสูงสุดที่ 4K อัตราเฟรม 30 เฟรมต่อวินาที (4K@30fps) คุณภาพโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ถัดลงมาเป็นแถบสีขาวอ่อนยาวๆ ระบุตำแหน่งสำหรับไว้วางปากกา S-Pen เพื่อชาร์จ
S-Pen ที่แถมมาใช้งานได้คล่องแคล่วแม่นยำ (ฟังก์ชันบลูทูธยังอยู่ไม่หายไปไหน) มีความหน่วงเวลาอยู่ที่ 2.8 มิลลิวินาที (ms) ผู้ใช้แปะติดกับบริเวณด้านหลังเครื่องเพื่อชาร์จ หรือแปะไว้กับขอบเครื่องก็ได้ แต่ระบบชาร์จจะไม่ทำงาน
นอกจากนี้ S-Pen หลังเครื่องยังช่วยยกแท็บเล็ตให้ลาดเอียงเข้าหาผู้ใช้เวลาวางลงบนพื้นราบ ส่วนพอร์ตของแท็บเล็ตเป็น USB-C 3.2 อยู่ขอบด้านล่าง พร้อมระบบตรวจลายนิ้วมือใต้จอภาพด้วยแสง
CPU-Benchmark-(Geekbench-6)
กาแล็กซี แท็บ เอส 10 อัลตรา ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิพ Dimensity 9300+ ซึ่งเป็น SoC เรือธงจากค่าย Mediatek เกาะไต้หวัน สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร (nm)
ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง หรือซีพียู แบบ 8 คอร์ แบ่งออกเป็น 3 คลัสเตอร์ ได้แก่ Cortex-X4 ความถี่สัญญาณนาฬิกา 3.4 กิกะเฮิร์ตซ์ 1 คอร์ (GHz) Cortex-X4 ความถี่ 2.8 GHz อีก 3 คอร์ และ Cortex-A720 ความถี่ 2.0 GHz จำนวน 4 คอร์
GPU-Benchmark-(Geekbench-6)
หน่วยประมวลผลกราฟิก หรือจีพียู เป็นรุ่น Immortalis-G720 มีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 12 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) 512 GB รองรับสัญญาณ 5G และ Wi-Fi 7 รวมถึง Bluetooth 5.3
แท็บเล็ตรุ่นนี้มีสเป๊กรองรับการใช้งานและความบันเทิงได้ทุกรูปแบบ โดยซัมซุงเน้นหนักเรื่องระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาใหม่ด้วย Vapor Chamber ที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้แท็บ เอส 10 อัลตรา รองรับการใช้งานยาวนาน และการเล่นเกมที่ใช้กราฟิกสูงเป็นเวลานานได้
ผู้ทดสอบทดลองใช้เล่นเกมกาชาอยู่ 1 เดือน ไม่พบปัญหาเรื่องความร้อนแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นเกมกาชายอดฮิตอย่าง Genshin Impact และ Honkai Star Rail จากค่าย HoYoverse ประเทศจีน หรือเกมวางแผนเชิงยุทธวิธีน้องใหม่อย่าง Girl’s Frontline 2 จากค่าย MICA TEAM ประเทศจีน
รวมถึง Blue Archive จากค่าย Nexon Games ประเทศเกาหลีใต้ เล่นต่อเนื่องทุกเกมนานนับชั่วโมงพบว่าเครื่องเพียงอุ่นๆ เท่านั้น และไม่พบว่ามี fps ตกด้วย
แอพ-Sketch-หลังใช้-Galazy-AI
อย่างไรก็ดี ผู้ทดสอบรู้สึกแปลกใจที่ทางซัมซุงหันมาใช้ชิพจาก MediaTek แทน Qualcomm ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะปกติผลิตภัณฑ์เรือธงของซัมซุงมักใช้ชิพจากทางค่าย Qualcomm แม้แต่ซัมซุง กาแล็กซี แท็บ เอส 9 อัลตรา ก็ใช้ชิพ Snapdraon 9 Gen 2 จากค่ายดังกล่าว
แน่นอนว่า ผลการทดสอบเบนช์มาร์กที่ออกมา ชัดเจนว่า Dimensity 9300+ มีประสิทธิภาพสู้ทาง Snapdragon Gen 3 ซึ่งเป็นรุ่นที่ซัมซุงใช้ในสมาร์ตโฟนเรือธงปีก่อนอย่าง ซัมซุง กาแล็กซี เอส 24 ซีรีส์ ไม่ได้ (ไม่ต้องไปพูดถึง เอส 25 ซีรีส์ปีนี้ ที่ใช้ Snapdragon 8 Elite)
แอพ-Sketch-ก่อนใช้-Galaxy-AI
หนึ่งในไฮไลต์ของแท็บเล็ตรุ่นนี้ เป็นความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ที่ซัมซุงตั้งชื่อไว้เก๋ไก๋ว่า Galaxy AI ที่น่าชื่นชมคือการบูรณาการเอไอเข้ากับการใช้งานต่างๆ ซึ่งทางซัมซุงทำจุดนี้ได้ดีกว่าค่ายแอปเปิ้ล
ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชั่นวาดภาพอย่าง Sketch ให้ผู้ใช้รังสรรค์ภาพในจินตนาการได้ตามใจชอบ ก่อนให้เอไอนำไปประมวลผลเพื่อเติมแต่งมิติและสีสัน จนกลายเป็นผลงานน่ารักๆ ออกมาได้น่าดูชม
จุดน่าเสียดายเห็นจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ ที่ขนาดยังเท่ากับรุ่นที่แล้ว (11,200 mAh) แม้จะรองรับการใช้งานหนักได้ทั้งวัน และใช้งานทั่วไป 4-5 วัน อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังไม่ดีเท่า iPad Pro ค่ายแอปเปิ้ล นอกจากนี้ การชาร์จรองรับกำลังไฟสูงสุดที่ 45 วัตต์ การทดสอบพบว่าใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง 30 นาที ในการชาร์จจาก 0% ถึง 100%
เล่นเกม-Girl’s-Frontline-2
ผู้ทดสอบมองว่า ซัมซุง กาแล็กซี แท็บ เอส 10 อัลตรา เป็นแท็บเล็ตขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับนำมาใช้ทดแทนโน้ตบุ๊ก แต่ผู้ใช้จำเป็นต้องซื้อ Book Cover with Trackpad มาเติมเอง
หน้าจอ OLED ที่เลิศล้ำ แต่ยังไม่เท่าจอของ Apple iPad Pro ขุมพลัง Dimensity 9300+ เทียบไม่ได้กับชิพประสิทธิภาพสูงระดับคอมพิวเตอร์พีซีของ Apple M4 หรือแค่ M2 ของ iPad Air ก็ไม่ไหวแล้ว ถึงแท็บเล็ตของแอปเปิ้ลทั้งสองรุ่น จะขนาดเล็กและบางกว่าก็ตาม
เล่นเกม-Honkai-Star-Rail
แต่ทั้งหมดนี้ชดเชยด้วยซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาได้ยอดเยี่ยมกว่าแอปเปิ้ล เอไอที่ดูมีประโยชน์และน่าใช้งาน การออกแบบภายนอกรียบหรู ทนทานกันน้ำกันฝุ่น จอขนาดยักษ์และลำโพงกระหึ่มคุณภาพเสียงสะใจ
พร้อมระบบระบายความร้อนที่รองรับงานหนัก และความบันเทิงทุกรูปแบบ ส่งผลให้ซัมซุง กาแล็กซี แท็บ เอส 10 อัลตรา เป็นแท็บเล็ตใหญ่ที่สุด ดีที่สุดของฝั่งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งทางซัมซุงรับประกันโอเอสยาวนาน 7 ปี
วางจำหน่ายแล้วในไทย สนนราคา 48,900 บาท (ไม่รวม Book Cover with Trackpad)
ทีมข่าวสดไอที
จันท์เกษม รุณภัย
