คอลัมน์ ขนหัวลุก

ใบหนาด

“บําเพ็ญ” เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของคนถอดวิญญาณ

ผมมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อท้ง เป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้ออยู่โชคชัย สนใจเรื่องโลกนี้-โลกหน้า ชีวิตหลังตาย ภูตผี ลางสังหรณ์ เครื่องรางของขลัง รวมทั้งพลังลี้ลับต่างๆ

ท้งชอบพาลูกเมียไปเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยๆ มีโอกาสก็ไปต่างประเทศ อย่างแถวนครวัดนครธม หลวงพระบาง เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง…ปีกลายก็ไปเที่ยวปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กุ้ยหลิน…ได้ของเก่าที่เขาชอบซื้อหามาสะสมมากมายสมใจ

ต่อมาไม่นานก็มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น!

ไม่รู้ว่ามาจากอาถรรพณ์อะไรหรือเปล่า แต่ท้งเล่าว่าตอนแรกๆ ตกใจแทบจะช็อกตายเมื่อค่ำหนึ่งเข้าไปอาบน้ำก่อนเข้านอน เปิดประตูเข้าไปก็มองเห็นตัวเองยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวคนเดียว

“อั๊วเห็นมันชัดๆ เต็มตาเลย! จะว่าเมาก็ไม่ใช่เพราะกินเบียร์ขวดเดียวเอง…มันหันมองแวบหนึ่งแล้วอาบน้ำต่ออย่างไม่สนใจ พอกะพริบตาอีกทีมันก็หายไปแล้ว”

“ลื้อคงตาฝาดไปน่ะจนเห็นภาพลวงตา อย่าไปคิดอะไรมากเลยน่า”

ท้งพยักหน้าแต่แววตาครุ่นคิด ไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า? ที่แน่ๆ คงไม่ถึงกับหวาดกลัวอะไรนัก เพราะความที่สนใจและเชื่อถือเรื่องแบบนี้อยู่ก่อนแล้วจิต วิญญาณ เจตภูต พลังอำนาจเร้นลับที่แฝงอยู่ในจักรวาล สิ่งแวดล้อมต่างๆ และในร่างกายของเราเอง!

ครั้งแรกที่เล่าท้งมาหาผมที่บ้าน แต่อีก 4-5 วันต่อมาก็โทรศัพท์มาเล่าเรื่องน่าขนหัวลุกให้ฟังว่า…บ่ายนั้นรู้สึกเหนื่อยล้าชอบกล จึงปล่อยให้เมียกับลูกจ้างดูแลร้านขายเครื่องกระป๋อง ตัวเองขึ้นไปชั้นบน ตั้งใจว่าจะงีบเอาแรงสักพักหนึ่ง

เปิดประตูเข้าไปก็ยืนตะลึง เมื่อเห็นตัวเองนอนตะแคงกอดหมอนข้างอยู่บนเตียงหลับสนิท กรนเบาๆ อย่างผาสุกในห้องหับที่เปิดเครื่องปรับอากาศไว้เย็นฉ่ำ

“อั๊วไม่ได้เปิดแอร์ทิ้งไว้ สาบานได้” ท้งยืนยัน “ข้างบนก็ไม่มีคนอยู่ ลูกๆ ไปโรงเรียนหมด…ตัวอั๊วที่นอนหลับสบายอยู่นั่นก็แต่งตัวเหมือนอั๊วเป๊ะเลย!”

คำพูดของท้งทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่เขาพบตัวเองครั้งแรกในห้องน้ำ…ครั้นถามเข้าก็ขนลุกเมื่อได้ยินคำตอบว่า…ตอนนั้นเขาก็ปลดผ้าเช็ดตัว เตรียมจะเข้าไปอาบน้ำพอดี

…ท้งเห็นตัวเองเป็นสองร่างในสภาพเดียวกัน!

ปลอบอกปลอบใจว่าคงเป็นเพราะอ่อนเพลีย ง่วงนอน จนเห็นภาพหลอนไปเอง เหมือนกับคนหลงทางในทะเลทราย กระหายน้ำสุดขีดจนเห็นผืนทรายเวิ้งว้างเป็นสระน้ำเย็นฉ่ำ แต่วิ่งเข้าไปหาเท่าไหร่ก็ไม่ถึงเสียที…อย่างที่เรารู้ๆ กันนั่นแหละ

ท้งเองก็ยอมรับว่าเมื่อขยี้ตาจ้องมองอีกครั้งก็เห็นแต่เตียงว่างเปล่า ไม่มีร่างของตัวเองนอนหลับอีกแล้ว…แต่แอร์ยังเปิดอยู่ตามเดิม!

อีก 2-3 วันต่อมาผมก็แวะไปเยี่ยมท้ง ตั้งใจว่าจะไปยั่วเย้าว่าเห็นตัวเองนอนหลับอีกหรือเปล่า? แต่กลับพบเพื่อนนั่งซึม ตาลึกโหลอยู่ในร้าน…พอเห็นหน้าผมก็สั่งให้เด็กเปิดเบียร์เข้าไปในห้องด้านหลังทันที

เรื่องน่าขนหัวลุกอุบัติขึ้นอีกแล้ว!

“เมื่อคืนนี้เองอั๊วกำลังจะขึ้นนอนอยู่แล้ว จู่ๆ มันก็เดินผ่านอั๊วไปทางหลังร้านเฉยเลย…จนป่านนี้ยังไม่กล้าเล่าให้เมียฟัง กลัวอีตกใจตาย ยิ่งเป็นคนขวัญอ่อนอยู่ด้วย”

ผมถามเรื่องเครื่องแต่งตัว ท้งก็กลืนน้ำลาย ถอนใจยาว หน้าตาซีดเซียว

“เหมือนอั๊วเป๊ะ! เหมือนกับมันเพิ่งลุกไปจากตัวอั๊วหยกๆ เลยว่ะ”

จะว่าท้งตาฝาดหรือง่วงนอนก็เป็นไปไม่ได้ นอกจากจะคิดว่าเพื่อนโยนมุขมาอำเล่น เลยผสมโรงบอกว่าโชคดี อยู่ๆ ก็แบ่งภาคได้! วันหน้าวันหลังเจอะเจอตัวเองอีกครั้งก็ลองหาทางพูดคุยดู เผื่อจะได้ความรู้เพิ่มเติมว่าคนเราแบ่งภาคได้ยังไง?

ท้งเอาแต่ถอนใจยาวๆ ลูกเดียว ลงเอยว่าตัวเองคง เป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง มีอาการประสาทหลอนจนน่าตกใจ…ต้องหาเวลาไปปรึกษาจิตแพทย์เสียแล้ว

คืนนั้นผมกลับถึงบ้านตอนค่ำ อาบน้ำเข้านอนราว สี่ทุ่มเศษ…เปิดไฟสว่างจ้าแล้วยืนตะลึงเมื่อเห็นภาพนั้น ถนัดตา…ใครคนหนึ่งนอนหงายเหยียดยาวอยู่บนเตียง…ท้งนั่นเอง!

ร่างนั้นนุ่งกางเกงขายาว สวมเสื้อยืดคอปกสีฟ้า ชุดเดียวกับที่ผมเห็นตอนเย็น…ก่อนจะหายวับไป! ผมรีบคว้ามือถือกดหาท้งทันที…ถามว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ชั้นล่างใช่ไหม? ท้งบอกว่าปวดหัวเลยขึ้นมาพักชั้นบน…รู้ได้ไง?

“ตอนนี้ลื้อกำลังนอนอยู่บนเตียง ยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัวชุดเดิมใช่มั้ย?” ผมถามเร็วปรื๋อ ท้งกลับย้อนถามว่า “ทำไมรู้ล่ะ? หรือว่า…”

เสียงเขาหายไป ผมแน่ใจแล้วว่าเพื่อนไม่ได้เล่า เรื่องตลกให้ฟัง มาปรากฏให้เห็นถนัดตาเป็นการยืนยัน…โชคดีที่เราไม่ได้พบภูตพิสดารของท้งอีกเลยตั้งแต่ นั้นมา!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน