2เด็กไทย / หลังเสร็จสิ้นภารกิจเด็กไทยในบอลโลก จูงมือนักเตะทีมชาติรัสเซียลงสนามพบทีมชาติซาอุดีอาระเบียในนัดเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่สนามลุชนิกี สเตเดี้ยม กรุงมอสโก สาธารณรัฐรัสเซีย เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ครั้งนี้ น้องออมสิน ด.ญ.นัถฌญา พวงจีน อายุ 7 ขวบ จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟเมืองเอก และน้องฟร๊องซ์ ด.ช.ธนกร เยาวรัตน์ อายุ 8 ขวบ จากโรงเรียนโสมาภาพัฒนา สองเยาวชนไทยในโครงการ “แมคโดนัลด์ เพลเยอร์ เอสคอร์ท” มาพร้อม “เจ้าซาบิวาก้า” (Zabivaka) ตัวน้อย ตุ๊กตาสุนัขลากเลื่อน มาสคอตฟุตบอลโลก 2018 ที่นำมาฝากพี่ๆ ด้วย

น้องออมสิน-น้องฟร๊องซ์กับคุณแม่

2เด็กไทย / ก่อนจะร่วมกันบอกเล่าประสบการณ์อันยิ่งใหญ่สุดแสนประทับใจให้ฟังว่า หลังเดินทางไปถึงสาธารณรัฐรัสเซีย ประเทศเจ้าภาพ ได้พบเจอเพื่อนๆ ต่างชาติที่จะทำหน้าที่จูงมือนักฟุตบอลเหมือนกัน โดยทักทายทำความรู้จักกันผ่านภาษาอังกฤษ น้องออมสินยังสอนเพื่อนๆ พูดภาษาไทยคำว่า “สวัสดี ขอบคุณ เธอชื่ออะไร” จนเพื่อนๆ พูดตามได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนน้องออมสินเองก็เรียนรู้ภาษารัสเซียเพิ่มขึ้นอีกหลายคำนอกจากคำว่า “ปรีเวียต-สวัสดี” ที่เตรียมไป

ของฝากจากรัสเซีย

จากนั้นน้องๆ เดินทางไปยังโคโมเลนสโกเย ปาร์ค พี่ๆ ทีมงานชาวรัสเซียสอนการละเล่นท้องถิ่น พร้อมให้เด็กๆ สวมชุดพื้นเมืองตามบุคลิกของเด็กๆ น้องฟร๊องซ์และเพื่อนใหม่ สเตบาน ชาวโคลัมเบีย ได้สวมชุดองครักษ์สุดเท่ ส่วนน้องออมสินได้สวมชุดเจ้าหญิงน้อยแสนสวย ก่อนจะไปนั่งรถม้า และเรียนรู้ทักษะฟุตบอล พร้อมลงแข่งขันกันอย่างสนุกสนานบนสนามหญ้า

สนุกกับเกมที่เพื่อนชาวโรมาเนียสอน

น้องฟร๊องซ์ที่รักกีฬาฟุตบอลไม่ได้ทำหน้าที่ผู้รักษาประตูตามถนัด แต่สวมบทนักเตะและทำประตูให้ทีม ส่วนน้องออมสินสนุกกับการวิ่งไล่ลูกฟุตบอลก่อนเผยว่า “เตะบอลเหนื่อยมากกกก!”

และแล้วก็มาถึงวันสำคัญที่เด็กๆ จะต้องทำหน้าที่จูงมือนักฟุตบอลโลกลงสนาม น้องฟร๊องซ์เล่าว่า “วันนั้นเขาพาเราไปนั่งรอในห้องพักนักกีฬา มีเกมฟุตบอลให้เล่น พร้อมวาดรูประบายสี แล้วให้เราซ้อมจูงมือพี่ๆ ทีมงานก่อน พอตอนเย็นเราก็ได้เจอนักบอลตัวจริงก่อนลงสนาม ผมได้จูงมือนักฟุตบอลทีมรัสเซีย ก่อนออกไปที่สนามผมก็ถามเขาว่าชื่ออะไร เขาบอกว่าชื่อ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เบอร์ 17”

ฝึกทักษะฟุตบอล

ด้านน้องออมสินเล่าถึงวันที่จูงมือ อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ กองกลางจอมเก๋าทีมชาติรัสเซียว่า “พอเจอพี่นักบอลที่หนูต้องจูงมือ หนูก็ถอดกำไลข้อมือรูปช้างของตัวเองให้เขาพร้อมบอกว่า For you เขาทำหน้าตกใจแล้วก็บอกว่า Thank you ด้วยค่ะ ที่หนูถอดกำไลให้เขาเพราะอยากแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีน้ำใจ”

เด็กไทยทั้งสองเล่าถึงนาทีสำคัญจูงนักเตะลงสนามว่า ตื่นเต้นมาก ยิ่งใหญ่มาก เสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั้งสนาม คนเต็มทุกที่นั่ง ก่อนที่เราจะได้เห็นภาพน้องออมสินยกมือไหว้กล้องผ่านการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก นั่นคือความตั้งใจของเด็กไทยตัวเล็กๆ ที่อยากให้ทุกคนเห็นถึงวัฒนธรรมไทยที่สวยงาม โดยเจ้าตัวซ้อมไหว้อยู่หลายรอบก่อนลงสนาม

ในห้องสันทนาการ

“หนูหันไปพูดกับซาเมดอฟว่า Hello My name is ออมสิน. What is your name? และ How old are you? I am seven years old. I come from Thailand. เขาบอกว่า I like Thailand. ด้วยค่ะ หนูอยากพูดกับเขา หนูไม่กลัว เพราะหนูไม่ใช่คนขี้อายค่ะ” ออมสินเล่าด้วยความภูมิใจ

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจน้องๆ ทั้งสองคนขึ้นไปนั่งชมเกมการแข่งขันบนอัฒจรรย์กับคุณแม่ และดีใจที่ทีมชาติรัสเซียที่ตัวเองจูงลงสนาม ชนะไป 5-0 แต่น้องๆ บอกเสียงเศร้าว่า “แอบสงสารเพื่อนชาวซาอุดีอาระเบียที่ร่วมจูงมือนักเตะด้วยกัน เพราะทีมประเทศเขาแพ้ ทำให้เพื่อนนั่งหงอยๆ”

เรียนรู้วัฒนธรรมรัสเซีย

คุณแม่น้องออมสิน สิรินทร์ทิพย์ พวงจีน อายุ 32 ปี กล่าวว่า โครงการ “แมคโดนัลด์ เพลย์เยอร์ เอสคอร์ท” เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูก เป็นประสบการณ์ที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน น้องยังได้ฝึกความอดทน ได้มิตรภาพจากเพื่อนๆ ต่างชาติ รู้จักการแบ่งปัน โครงการนี้ยังทำให้น้องรู้ว่าถ้าตั้งใจทำอะไรจริงๆ ก็จะประสบความสำเร็จได้

ด้านคุณแม่พิมวรินทร์ เยาวรัตน์ อายุ 39 ปี กล่าวว่าโครงการนี้ทำให้เด็กธรรมดาคนหนึ่งได้ไประดับโลก เป็นความทรงจำที่ดีของเขาไปตลอดชีวิต ลูกได้ไปจูงมือนักฟุตบอลระดับโลก เป็นความฝันของเขา เป็นกีฬาที่เขารัก เราสนับสนุนเขา สิ่งเหล่านี้คือใบเบิกทาง ต่อไปเขาต้องขยันฝึกซ้อม พยายามไปให้ถึงจุดนั้นด้วยตัวเอง การที่ลูกเข้าร่วมโครงการนี้ ได้ไปอยู่กับทีมงานกับเพื่อนๆ ทำให้เรารู้ว่าลูกมีความสามารถอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้

มิตรภาพจากเพื่อนเยาวชน

มหกรรมเกมกีฬาระดับโลกครั้งนี้ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ น้องออมสิน นักเล่านิทานประกอบการแสดง บอกว่า “หนูอยากเป็นดารา แต่ถ้าโตขึ้นไม่ได้เป็นดาราอย่างที่หวัง ก็จะเป็นนักเตะหญิง ตอนนี้บอลหญิงไทยก็ได้ไปบอลโลกแล้ว พอไปดูบอลโลกมาแล้วอยากจะพยายามทำให้ได้แบบพี่ๆ นักเตะที่เจอค่ะ”

จูงทีมชาติรัสเซียนัดเปิดสนาม

ขณะที่น้องฟร๊องซ์มีความฝันเพิ่มขึ้นมาหลังได้ดูบอลโลกสดๆ ในสนามว่า “ผมอยากไปดูบอลที่สเปน อยากไปดูโรนัลโด้แข่ง อยากไปฝรั่งเศสดูเนย์มาร์แข่งด้วย อยากรู้ว่าตัวจริงจะเป็นอย่างไร ผมรู้ว่าไทยอาจจะได้ไปบอลโลกในอีก 8 ปีข้างหน้าเพราะเขาเพิ่มโควต้าเป็น 48 ทีม

“8 ปีข้างหน้าผมจะติดทีมชาติให้ได้ และจะพาทีมชาติไทยไปบอลโลก”

น้องฟร๊องซ์กับเพื่อนใหม่สเตบาน

เจ้าหญิงและสององครักษ์น้อย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน