สภาสตรีฯ โหวตเลือก‘ดร.วันดี จุลเจริญ’ นั่งประธานสมัย 2 สานต่อโครงการผ้าไทย
วันที่ 20 มิ.ย. ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 39 วาระสำคัญคือการเลือกตั้งคณะกรรมการอำนวยการสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯชุดใหม่ หลังจาก ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ หมดวาระลง โดยมีนายสมาคมองค์กรสมาชิกจากทั่วประเทศร่วมประชุมนับพันคน
โฉมหน้าคณะกรรมการอำนวยการสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯชุดใหม่
ทั้งนี้ มีผู้แทนจากสมาคมองค์กรสมาชิกสามัญ สมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการฯ 28 คน ผู้ได้คะแนนจาก 1 ถึง 19 จะได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมการฯ การเลือกตั้งครั้งนี้จัดการลงคะแนนคล้าย การเลือกตั้งทั่วไป มีการนำบัตรลงคะแนนไปหย่อนในคูหาเลือกตั้ง โดยมี พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ เป็นประธานคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง และมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเป็นกรรมการเพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธราม
บรรยากาศร่วมโหวต
ผลการนับคะแนนด้วยวิธีเปิดเผย ปรากฎว่า ดร.วันดี มีคะแนนนำขาดลอย 124 คะแนน และได้รับการโหวตจากสมาชิกฯ ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ต่อเป็นสมัยที่ 2 ท่ามกลางการแสดงความยินดีของสมาชิกอย่างคับคั่ง
ดร.วันดี กล่าวว่า ต้องขอบคุณองค์กรสมาชิกทั่วประเทศที่ส่งผู้แทนเข้ามาคัดเลือกเป็นคณะกรรมการฯ หลายคนอาจจะใหม่ ยังไม่เป็นที่รู้จักกัน แต่ได้เห็นศักยภาพมีความสามารถในทุกมิติ อยากให้ใช้พลังของสตรีมาช่วยกันทำงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป เพราะยังมีงานที่ต้องทำเพื่อองค์กรสตรีและส่วนรวมอีกมาก ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับเลือก ก็อยากเชิญชวนให้มาร่วมกันทำเพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็นไทยต่อไป
สำหรับนโยบายที่จะทำต่อไปในปีนี้คือการสืบสานพระราชปฎิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับผ้าไทย สภาสตรีฯ ได้จัดโครงการตามรอยผ้าไทยเพื่อแม่ของแผ่นดิน เพื่อให้ผ้าไทยเป็นวัฒนธรรมคู่แผ่นดินไทยสืบไป และด้วยพระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทำให้ผ้าไทยขายดีเพิ่มขึ้นหลายเท่า จึงเป็นโครงการที่จะทำอย่างต่อเนื่องต่อไป
นอกจากนั้นจะผลักดันให้เด็กด้อยโอกาสทั่วประเทศได้เรียนหนังสือ รวมทั้งการเรื่องการสืบสานวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ต่อไป
ปัจจุบันองค์กรสตรีมีอยู่กว่า 190 องค์กรทั่วประเทศ รวมถึง สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง ที่มีอยู่ทั่วประเทศ จะผลักดันผ่านองค์กรต่างๆ ให้ส่งเสริมวัฒนธรรมของจังหวัดนั้นๆ เพื่อรักษาวัฒนธรรมให้อยู่คงอยู่สืบต่อไป และต้องคงไว้ซึ่งความเป็นไทย รวมทั้งจะสร้างศักยภาพให้องค์กรสตรีมีความเข้มแข็ง เพื่อพัฒนาประเทศต่อไป โดยเฉพาะโครงการจิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ เพราะไม่ต้องใช้ทุนทรัพย์ แค่มีพลังแห่งความศรัทธาก็ทำกิจกรรมนี้ได้
สภาสตรีฯ สานต่อโครงการ”ตามรอยผ้าไหมไทย ลมหายใจของแผ่นดิน”เยี่ยม”วรรม๊ะไหมไทย”
