“พระองค์ท่านทรงเมตตาพวกเราตั้งแต่วันแรกจนถึง วันนี้ ทรงติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานจะปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด” นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เหตุการณ์นี้เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก นับจากทุกคนทราบข่าวว่าเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี 13 ชีวิตเข้าไปติดอยู่ในถ้ำตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.2561 และไม่สามารถออกมาได้เนื่องจากน้ำปิดทางเข้าออกที่มีทางเดียว อีกทั้งสภาพอากาศที่ฝนตกหนักยังเป็นอุปสรรคในการกู้ภัยและค้นหา

ท่ามกลางความวิตกกังวลนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิรา ลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานพรและกำลังใจที่สำคัญยิ่งว่าการร่วมแรงร่วมใจของทุกคนช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายได้

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ว่า ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแจ้งว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเด็กและโค้ชฟุตบอล จำนวน 13 ราย รวมทั้งทรงห่วงใยกลุ่มผู้ประสบภัยทุกคน และทรงให้กำลังใจไปยังครอบครัวผู้ประสบภัยทุกคน ขอให้ทุกคนปลอดภัย รวมถึงทรงให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามค้นหาขอให้ประสบความสำเร็จ

ต่อมาวันที่ 27 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และรับสั่งผ่านราชเลขานุการในพระองค์ให้ดูแลให้ดีที่สุด ทั้งครอบครัวและการช่วยเหลือเด็กๆ รวมถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ต้องมีแผนที่รัดกุมไม่ให้เกิดความสูญเสีย

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้า อยู่หัวรับสั่งผ่าน ราชเลขานุการส่วนพระองค์ว่าพระองค์ท่านทรงห่วงใยเด็ก เยาวชนทุกคน พร้อมให้กำลังใจเยาวชนและครอบครัว รวมทั้งพระราช ทานพรให้ปลอดภัย

นอกจากนี้ยังพระราชทานพรให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ขอให้ทำให้สำเร็จ และพระราชทานเพิ่มเติมในเรื่องการบริหารจัดการการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทรงให้แนวทางปฏิบัติโดยสรุปว่า ให้แบ่งพื้นที่ให้ดี โดยแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนหน้า ส่วนหลัง และส่วนสนับสนุน

ขณะเดียวกัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายณรงค์ศักดิ์ ในฐานะหัวหน้าศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไปจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อปรุงอาหารสำหรับแจกจ่ายให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งผู้ปกครอง สื่อมวลชน และประชาชน ทั้งพระราชทานจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อดูแลครอบครัวของผู้สูญหาย และผู้ปฏิบัติงานภายในถ้ำหลวงตลอดเวลา

หลังจากเวลาผ่านพ้นไปครบหนึ่งสัปดาห์ วันที่ 29 มิ.ย. รถลำเลียงของพระราชทานมาถึงวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำ นางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในหลวงพระราชทานสิ่งของแก่เจ้าหน้าที่รวมถึงจิตอาสาทุกคนที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า อาทิ ถุงยังชีพ ไฟฉาย ถ่านไฟฉาย เสื้อกันฝน อาหารแห้ง

จากนั้นพระราชทานหลอดไฟแอลอีดี (LED) สำหรับชาร์จไฟ สนับสนุนงานหน่วยซีล ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านในถ้ำ ให้ทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังยังอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 13 ชุด ถวายแด่ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ผู้มาทำพิธีสร้างขวัญกำลังใจให้ทีมหมูป่าและครอบครัว รวมถึงทีมกู้ภัย อาสาสมัคร และประชาชน

กระทั่งวันสำคัญยิ่งมาถึง ในช่วงค่ำวันที่ 2 ก.ค. เจ้าหน้าที่ หน่วยซีลและผู้เชี่ยวชาญดำน้ำชาวอังกฤษเข้าไปพบทั้ง 13 ชีวิตที่เนินนมสาวในถ้ำหลวง บรรดาผู้คนทั่วโลกต่างโพสต์ข้อความยินดีปรีดากับข่าวดีนี้อย่างกว้างขวาง

ภารกิจค้นหาลุล่วงแล้ว ขั้นตอนที่ยากยิ่งต่อไปคือการนำเด็กๆ และ โค้ชเอก เอกพล จันทะวงษ์ ออกมาจากถ้ำ

วันที่ 3 ก.ค. นายกรัฐมนตรีเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี ว่า การชมเชยเบื้องต้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ขอให้รักษาสติ สมาธิ ปัญญาในการปฏิบัติภารกิจ โดยภารกิจจะสำเร็จเรียบร้อยก็ต่อเมื่อทุกคนออกมาและกลับสู่ครอบครัวด้วยความปลอดภัย

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากการวางแผนทำงานอย่างเป็นระบบ มีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั้งคนไทยและต่างชาติที่มาร่วมภารกิจหรือส่งกำลังใจมาช่วย การนำคณะออกจากถ้ำต้องคิดและวางแผนให้ดี คำนึงถึงสุขภาพและภาวะจิตใจก่อนนำตัวออกมา ต้องใช้ดุลพินิจ วุฒิภาวะ ศรัทธา และฉันทะที่ถูกต้อง หาวิธีการนำตัวออกมาอย่างปลอดภัย รอบคอบ ไม่ประมาท อย่าให้เกิดการบาดเจ็บหรือการสูญเสียทั้งคณะเด็กและคณะผู้ช่วยเหลือ จากนั้นจึงส่งตัวเข้ารับการเช็กสภาพร่างกาย ณ โรงพยาบาลให้เรียบร้อยและส่งกลับสู่ครอบครัว ส่วนบริเวณถ้ำหลวงให้ฟื้นฟูพื้นที่และจัดระบบความปลอดภัยให้รัดกุม

นอกจากนี้ ทรงรับสั่งว่า ทำอะไรต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ ตระหนักถึงความเป็นมาและนำประสบการณ์ไปปรับใช้ นำบทเรียนนี้ไปใช้ในการวางแผนระบบแจ้งเตือนภัยต่างๆ จัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ในการแจ้งเตือนและช่วยชีวิตที่ทันสมัย พร้อมทั้งให้หน่วยงานบริหารจัดการน้ำไปประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ โดยทำแผนเผชิญเหตุ วิธีป้องกัน และแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง

ส่วนชาวต่างประเทศที่มาร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ให้ดูแลให้ดี เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้พาท่องเที่ยวต้อนรับอย่างดี โดยทรงรับเป็นอาคันตุกะของพระองค์ จนกว่าจะเดินทางกลับ

ทรงมีพระราชกระแสขอบใจ ชื่นชม ชมเชยทุกหน่วยงานทั้งของไทยและต่างประเทศ ตลอดจนประชาชนชาวไทยและต่างประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ระหว่างภารกิจที่เกิดเหตุเศร้าสลดขึ้น เมื่อ จ.อ.สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ อายุ 38 ปี เสียชีวิตจากการขาดอากาศขณะปฏิบัติหน้าที่นำขวดอากาศเข้าไปวางตามจุดในถ้ำหลวง เมื่อความทราบถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแสดงความเสียพระทัยและรับสั่งให้จัดงานศพอย่างสมเกียรติ โดยพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และทรงมีรับสั่งให้ดูแลครอบครัวและบุตรหลานอย่างดีที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน