คอลัมน์ สดจากเยาวชน

“การได้ปลูกผัก ทำเกษตร หรือกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนจัดขึ้น เป็นการเรียนรู้นอกเวลา ทำให้เรารู้จักความเหนื่อยว่าเป็นอย่างไร และโตขึ้นเราต้องขยัน อีกทั้งทำให้เรามีความรับผิดชอบ อดทน สามารถช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของครอบครัว เพราะเราจะทำงานบ้าน ปลูกผัก หารายได้ด้วยตนเอง ทักษะเหล่านี้ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน ต้องเรียนรู้จากกิจกรรม

และเมื่อพี่ๆ ทางมิชลินมาลงพื้นที่จัดกิจกรรม ทำให้พวกเรามีห้องเรียน เรียนหนังสือ ทำกิจกรรม และมีสนามเด็กเล่นที่มีเครื่องเล่นทำมาจากยางรถยนต์เก่า สอนให้เราเห็นคุณค่าสิ่งของเหลือใช้ รู้จักการแบ่งปันและเรียนรู้การทำงานกับพี่ๆ”
1
ด.ญ.วราพร ชัยเมือง นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนบ้านบ่อระแหง ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี กล่าวขณะร่วมกิจกรรมกับพนักงานจิตอาสาของมิชลิน ในโครงการ “มิชลินอาสาพัฒนาชุมชน” ปีที่ 7 โดยมีพิธีส่งมอบสนามเด็กเล่นที่สร้างสรรค์จากยางรถยนต์ที่ไม่ใช้งาน และส่วนต่อเติมอาคารเรียนให้โรงเรียนบ้านบ่อระแหงในครั้งนี้

นางสุชาลา เทพบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย บริษัท มิชลิน อาร์โอเอช จำกัด กล่าวว่าโครงการมิชลินอาสาพัฒนาชุมชน เป็น 1 ใน 17 กิจกรรมที่มิชลินดำเนินการในปีนี้ โดยดำเนินโครงการสู่ปีที่ 7 เปิดโอกาสให้พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมนำเสนอโครงการเพื่อพิจารณาคัดเลือก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่บ้านเกิดของพนักงานและชุมชนบริเวณรอบโรงงานมิชลิน

น.ส.สุวภัทร คุณพันธ์ พนักงานศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทมิชลิน ผู้นำเสนอกิจกรรมโครงการมิชลินอาสา พัฒนาชุมชน 2559 ในครั้งนี้ เล่าว่าในฐานะศิษย์เก่าต้องการช่วยเหลือโรงเรียนในชุมชน นำเสนอโครงการแล้ว ทางบริษัทเห็นชอบและให้ทำกิจกรรมจิตอาสา ต่อเติมอาคารเรียน สร้างสนามเด็กเล็ก รวมถึงลงพื้นที่ทาสีและจัดระเบียบทางเท้า ปลูกผักปลอดสารพิษ และกิจกรรมระบายสีสำหรับเด็กอนุบาล

โรงเรียนเล็กๆ ในชุมชน ท้องถิ่นต่างๆ การช่วยเหลือตัวเองไม่ว่าจะเป็นการปลูกผัก เลี้ยงปลา เพื่อนำมาเป็นอาหารกลางวัน หรือการใช้พื้นที่ทางธรรมชาติเป็นห้องเรียนแหล่งเรียนรู้ ล้วนช่วยเติมเต็มทักษะการใช้ชีวิตให้เด็กได้อย่างมาก
2
ยืนยันจากเสียงของ 3 สาววัยมัธยม ด.ญ.อัจฉรา กล้าหาญ นักเรียนชั้นม.2 ด.ญ.มณพา ต่างพันธ์หมี และ ด.ญ.ปนัดดา สมคิด นักเรียนชั้นม.3 ช่วยกันเล่าด้วยน้ำเสียงสดใสว่า โรงเรียนสอนทักษะทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ ในส่วนของวิชาชีพนั้นจะเน้นให้เด็กเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง

เช่น การทำแปลงเกษตร เลี้ยงปลา ไก่ หรืองานฝีมือต่างๆ ที่เรานำองค์ความรู้เหล่านี้ไปช่วยที่บ้านและชุมชนของเราได้ การทำแปลงเกษตร ปลูกผักด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้ง มะเขือเทศ แตงกวา นอกจากจะนำมาเป็นอาหารกลางวันแล้ว ยังเป็นรายได้เสริมให้นักเรียน

โรงเรียนบ้านบ่อระแหง เป็นโรงเรียนขยายโอกาสที่จัดการเรียนการสอนระดับอนุบาล 1 ถึงมัธยมต้น มีนักเรียนทั้งหมด 192 คน ครู 16 คน เน้นการสร้างอาชีพควบคู่ความรู้ทางวิชาการ มีนายฉัตรชัย กลั่นบุศย์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งกล่าวถึงความรู้สึกว่า ดีใจที่ได้รับการคัดเลือกจากมิชลินนำพนักงานจิตอาสามาร่วมพัฒนาโรงเรียนในครั้งนี้ บ้านบ่อระแหงเป็นโรงเรียนขยายโอกาสย่อมขาดแคลนในหลายเรื่อง

“ดีใจมากที่ศิษย์เก่านำโครงการดีๆ มาช่วยเหลือสร้างโอกาสเรียนรู้แก่รุ่นน้อง นอกจากได้เห็นถึงการแบ่งปัน พนักงานจิตอาสายังพร้อมใจช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดโอกาส การพัฒนาชุมชนให้ยั่งยืนต้องเกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงคนในชุมชน โรงเรียน หรือท้องถิ่นเท่านั้น ยังรวมถึงภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้ามาเป็นกำลังหลักและกำลังเสริมในการเพิ่มศักยภาพของเด็กและผู้คนในชุมชนด้วย” ผอ.โรงเรียนบ้านบ่อระแหงกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน