คอลัมน์ สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม

มาอีกแล้วครับท่าน

คุณอานักชิมส่งมาให้ใหม่ ปลาเก๋าแดงตัวใหญ่เท่าบ้าน คราวนี้ผ่าท้องออกมามีปลาแดงตัวยาวเกือบศอกที่เก๋าขยอกเข้าไปอยู่ในท้องด้วย

ปลาแดงถูกย่อยจวนเน่า เราโยนทิ้งไป

เร่งแล่ปลาเก๋าสดๆ ใหม่ๆ
2
สองวันแรกคุณยายลุยทอดกับตัดเนื้อท้องมาทำข้าวต้ม กินกันทั้งบ้านอยู่ 3 วันก็ยังไม่หมด

ชิ้นส่วนใหญ่สุดที่เหลืออยู่คือหัวครับ

คุณยายชำแหละอยู่หนึ่งชั่วโมง แยกออกมาได้เป็น 7 ชิ้นใหญ่

ปรากฏว่าใช้หม้อใบใหญ่ที่สุดแล้วก็ยังยัดลงไปได้แค่ 3 ชิ้น

สามก็สามฟะ

เริ่มจากซื้อหัวไช้เท้ากับแครอตมาเยอะๆ ปอกแล้วหั่นเป็นชิ้นใหญ่ ล้างทิ้งไว้

ขิงแก่แง่งใหญ่อีกหนึ่งหัว ขูดผิวออกเยอะๆ แล้วล้างก่อนทุบ พอแตก

ผสมโชยุ(ถ้าไม่มีก็ซีอิ๊วขาวได้) กับมิริน(ใช้น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลทรายแทนได้เหมือนกัน) ให้อย่างหลังมากกว่าอย่างแรกประมาณ เท่าตัว

เว้นถ้าใช้ของไทยก็ชิมรสดูดีๆ ให้เค็มกับหวานพอก้ำกึ่งกัน

เตรียมเหล้าจีนไว้สัก 2 จอก
1
ตั้งน้ำหม้อใหญ่ประมาณหนึ่งใน 3 พอเดือดพล่านโรยเกลือสักกำมือ

เดือดอีกทีใส่ไช้เท้ากับแครอตลงไปก่อน สักพักเอาปลาทั้งสามชิ้นลงไป

ค่อยๆ เทน้ำผสมโชยุ มิริน เหล้าจีน ตามไปทีละส่วน

ตั้งไฟแรงให้เดือดจัด คอยช้อนฟองให้ดี น้ำต้มเค็มเราจะได้ใสๆ

ชิมรสดู ถ้ายังไม่จัดจ้านสะใจ ค่อยๆ เติมส่วนผสมไปทีละอย่าง

คะเนว่าปลาสุกดีแล้ว หรี่จนเหลือไฟเบาแล้วตุ๋นต่อไปเรื่อยๆ

จะให้ดีต้อง 3-5 ชั่วโมง หรือข้ามคืนไปเลย

รับรองว่ามาอีกวันรสจะหวานเค็มแบบใสๆ ชื่นใจ

แต่วันนั้นเด็กใจร้อนทั้งหลายรอไม่ไหว พอได้ที่ก็ตักขึ้นมาเลยสองชิ้น

เช้าอีกวันที่เหลือแค่ชิ้นเดียวก็สาบสูญไปจากโลก

แถมมีเสียงเรียกร้องให้ทำใหม่อีกด้วยนะ

แสนจะภูมิใจ

ฮา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน