ควันหลงช่วงส่งท้ายปลายปีที่บ้านแสงตะวัน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม มีแขกใจดีมาเยือนหลายคน

นำทีมโดย ภัทรดนัย อินทรพงษ์อนุวัฒน์ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณอยุธยา, ศรัณย์ภัค เพ็ญชาติ, นายสรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ เจ้าของเพจ gluta และครอบครัวกลูต้า กอลั่ม ยอร์ช สุนัขพันทาง ชื่อดัง, ดร.นสพ.ศิวพงษ์ ช่างประดิษฐ์ ผู้ช่วยคณบดีคณะ สัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยจิตอาสา จาก เพจ I am green heart และพนักงานของปูนซีเมนต์นครหลวง

ทั้งหมดมาร่วมกิจกรรม Insee green heart ตอน “บ้านหลังใหม่เพื่อเพื่อน 4 ขา” เพื่อร่วมกิจกรรมแบ่งปันความรักต่อสุนัขจรจัด ปรับปรุงสภาพโรงเรือนและภูมิทัศน์โดยรอบ ทาสีอัฒจันทร์ ทำความสะอาดลานพักผ่อนของสุนัขให้ถูกสุขอนามัย พร้อมทั้งนำทีมสัตวแพทย์ไปให้บริการตรวจสุขภาพและทำหมันสุนัข

ภัทรดนัยกล่าวว่า เลือกมาทำกิจกรรมที่บ้านแสงตะวันแห่งนี้ เนื่องจากเห็นว่า คุณลุงสัญญาและคุณป้านิดา เปิดรับเลี้ยงสุนัข แมว และสัตว์อื่นๆ รวมกว่า 700 ชีวิต ด้วยทุนของตนเองและได้จากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา โดยมุ่งมั่นทำด้วยใจรักและมีความเมตตากับสัตว์ร่วมโลก

ปัจจุบันเห็นว่าโรงเรือนที่พักอาศัยภายในสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างจะทรุดโทรม หากเกิดน้ำท่วมสัตว์เหล่านี้ก็จะไม่มีที่อยู่จึงได้ช่วยกันปรับปรุงสร้างโรงเรือนใหม่และเทพื้นปูนสร้างอัฒจันทร์ลานพักผ่อน พร้อมกันนี้ได้ส่งมอบโรงเรือนและลานพักผ่อนรวมมูลค่ากว่า 350,000 บาท มอบให้กับบ้านแสงตะวันเพื่อเพิ่มความสุขให้กับหมาจรได้พักผ่อนอีกด้วย

ด้านสรศาสตร์ เจ้าของเพจ Gluta เผยว่า ปัจจุบันปัญหาสุนัขจรในประเทศไทยมีจำนวนมาก เกิดขึ้นจากความไม่รับผิดชอบของมนุษย์ เป็นความรักแบบฉาบฉวย

“ผมขอบอกว่าสุนัขทุกตัวน่ารักหากคุณรักและชอบมันจริงๆ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนหันมาสนใจสุนัขพันทางมากยิ่งขึ้น ปัญหาของสุนัขพันทางคือคนไม่เห็นถึงคุณค่า ผมจึงอยากบอกเล่าเรื่องราวที่พอจะจุดประกายให้คนหันมาสนใจสุนัขพันทางมากขึ้น สร้างแรงบันดาลใจให้คนรักสุนัขอยากเลี้ยง ถ้าหากคิดว่ามีความพร้อมที่จะเลี้ยงสุนัขสักตัวหนึ่ง อยากให้คุณลองรับเลี้ยงสุนัขจรดู แล้วจะพบว่าพวกเขาน่ารัก มีความซื่อสัตย์ และมีความฉลาดไม่ได้แตกต่างจากสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ เลยสักนิดเดียว”

ป้านิดา เจ้าของบ้านแสงตะวัน ที่พักพิงแหล่งสุดท้ายของสุนัขจรจัด กล่าวว่า ที่บ้านแสงตะวันรับเลี้ยงสุนัขไว้มากกว่า 300 ตัว แมวกว่า 400 ตัว หมู ไก่ แรงบันดาลใจที่ต้องเปิดบ้านแสงตะวันขึ้น เนื่องจากเมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น ได้เห็นสัตว์ถูกรังแก จึงสงสารและเข้าช่วยเหลือ ประกอบกับตนไม่มีลูก และรักสัตว์จึงนำมาเลี้ยงด้วยความสงสารเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ปี 2523 เรื่อยมาจนปัจจุบัน

ทุกๆ วัน ที่บ้านแสงตะวันจะให้อาหารหมาวันละ 60 กิโลกรัม อาหารแมว 30 กิโลกรัม บางวันจะเปลี่ยนเป็นข้าวสารใช้วันละ 100 กิโลกรัม มีผู้ดูแลจำนวน 5 คน คือ ตนเอง สามี น้องชาย น้องสาว และหลานชาย รายได้ส่วนใหญ่นั้นได้มาจากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาที่รักสัตว์ ปัจจุบันนี้ทุกคนรู้จักบ้านแสงตะวันมากขึ้น จึงทำให้เกิดผลกระทบทั้งด้านดีและไม่ดี บางคนกล่าวหาว่าเลี้ยงจนเป็นหนี้นอกระบบ ต้องกู้หนี้ยืมสิน แต่ในด้านดีก็จะมีผู้ใจบุญที่มีความเมตตายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งเงินและอาหาร อย่างที่ปูนซีเมนต์นครหลวงเข้ามา สร้างบ้านหลังใหม่ให้ ก็ต้องขอขอบคุณด้วย

“ฝากบอกถึงคนที่เลี้ยงสัตว์ทุกท่าน ขอให้ท่านรักสุนัขและให้ความอบอุ่นตลอดไป อย่ารักเฉพาะเวลาที่สุนัขของตนสวยงาม แต่เมื่อวันหนึ่งสุนัขเกิดเจ็บป่วยเป็นโรค ก็ปล่อยปละละเลยทิ้งขว้างเป็นภาระให้กับสังคม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน