ประจำเดือนมากผิดปกติ สัญญาณเตือน-เสี่ยง‘มดลูกโต’

คอลัมน์สุขภาพ : รายงานพิเศษ

ประจำเดือนมากผิดปกติ – ‘มดลูกโต’ เป็นโรคที่ผู้หญิงหลายคนอาจไม่เคยรู้จัก

พญ.หยิงฉี หวัง สูติ-นรีแพทย์การผ่าตัดส่องกล้อง โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึง ปัจจุบันผู้หญิงป่วยด้วยโรคมดลูกโตกันค่อนข้างมาก มักพบในผู้หญิงที่อายุระหว่าง 30-45 ปี โรคมดลูกโตพบได้หลายสาเหตุ ได้แก่ เนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

แต่สาเหตุหลักๆ ที่พบคือ โรคมดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือ การที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญหรือแทรกซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเกิดภาวะอักเสบเรื้อรังจนเกิดพังผืดในชั้นกล้ามเนื้อมดลูก สุดท้ายมดลูกเกิดการขยายตัวและหนาขึ้น เกิดภาวะมดลูกโต ทำให้เกิดอาการประจำเดือนมามากผิดปกติ และอาการต่างๆ ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล

ที่สำคัญคือโรคมดลูกโตนั้น ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด หาก ผู้ป่วยมีกรรมพันธุ์หรือเคยผ่าตัด เกี่ยวกับมดลูกอาจทำให้เป็นโรคมดลูกโตได้ นอกจากนี้การหมุน เวียนของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอาจส่งผลให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน

ประจำเดือนมากผิดปกติ สัญญาณเตือน-เสี่ยง‘มดลูกโต’

พญ.หยิงฉีกล่าวต่อว่า อาการมดลูกโตที่สังเกตได้ด้วยตนเอง คือ คลำเจอก้อนที่บริเวณท้องน้อย โดยมากหากคลำเจอนั่นหมายถึงก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ประมาณคนท้องได้ 3 เดือน ซึ่งต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น

แต่ถึงแม้ว่าจะคลำไม่เจอ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้เป็นโรคมดลูกโต

นอกจากนี้ยังมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น ถ้าตำแหน่งของมดลูกโตอยู่บริเวณด้านหน้า ก็จะไปกดกระเพาะปัสสาวะทำให้เกิดอาการปัสสาวะถี่ แต่ถ้ามดลูกโตไปทางด้านหลัง ก็จะไปกดตำแหน่งที่ทำให้ปวดหลัง

ปวดท้องน้อย ประจำเดือนมามากกว่าปกติ ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยมากกว่า 2-3 แผ่นต่อวัน มีอาการปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติและปวดมากขึ้นเรื่อยๆ มีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ออกมาขณะมี ประจำเดือน มีอาการคล้ายๆ ตกเลือดขณะมีประจำเดือน ปวดเชิงกรานและช่องท้อง ปวดหน่วง ช่องท้อง

ประจำเดือนมากผิดปกติ สัญญาณเตือน-เสี่ยง‘มดลูกโต’

พญ.หยิงฉีกล่าวอีกว่า การตรวจวินิจฉัยมดลูกโตทำได้โดย สูติ-นรีแพทย์จะซักประวัติโดยละเอียด แพทย์ตรวจภายใน อัลตราซาวด์ทางช่องคลอดหรือทวารหนักในกรณีที่ผู้ป่วยยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ มาก่อน ตรวจเอ็มอาร์ไอช่องท้องส่วนล่าง ในกรณี ที่ต้องการยืนยันและหรือประเมินความรุนแรงของโรคว่าเกิดพังผืดต่ออวัยวะข้างเคียงหรือไม่

สำหรับการดูแลรักษามดลูกโต สูติ-นรีแพทย์ จะรักษาตามอาการและความรุนแรงของโรค เป็นสำคัญ ได้แก่ รับประทานยาพอนสแตน หรือไอบูโพรเฟน เพื่อช่วยให้อาการปวดและ การอักเสบดีขึ้น ใช้ Progestin Only Hormone และหรือยาคุมกำเนิดเพื่อลดอาการปวด และช่วยให้ปริมาณรอบเดือนมาน้อยลง ชะลอการเติบโต ของพังผืดในกล้ามเนื้อมดลูก

หากมีอาการรุนแรงสูติ-นรีแพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดมดลูก ซึ่งส่วนใหญ่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดส่องกล้องแบบแผลเล็ก ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง แผลมีขนาดเล็ก 5-10 ม.ม. เสียเลือดน้อย ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนหรือติดเชื้อ ฟื้นตัวเร็วใน 1-2 วัน และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ภายใน 1 สัปดาห์ ลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจในการเข้ารับการรักษาได้เป็นอย่างดี

ประจำเดือนมากผิดปกติ สัญญาณเตือน-เสี่ยง‘มดลูกโต’

พญ.หยิงฉีกล่าวด้วยว่า เราสามารถป้องกันมดลูกโตได้ โดยควบคุมน้ำหนักให้ไม่เกินเกณฑ์ ใส่ใจตรวจร่างกายและตรวจภายในกับสูติ-นรีแพทย์เป็นประจำทุกปี รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกตามวัยที่เหมาะสมและตาม คำแนะนำของสูติ-นรีแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงความผิดปกติและรับมือได้ทันท่วงที

ดังนั้นการหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตนเองอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

อ่านข่าวสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน