วันชาติไทย : รู้ไปโม้ด โดย น้าชาติ ประชาชื่น
วันชาติไทย – น้าชาติ เรียนถามว่า วันชาติไทย มีความเป็นมาอย่างไร จำได้ว่าเป็นวันที่ 24 มิถุนายน
นันทมาลี
ตอบ นันทมาลี
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ และคณะรัฐมนตรีมีมติให้เป็นวันหยุดราชการ
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศเรื่อง กำหนดวันสำคัญของชาติไทย มีใจความสำคัญว่า กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันสำคัญของชาติไทย ดังนี้ 1.เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 2.เป็นวันชาติ 3.เป็นวันพ่อแห่งชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับสนองพระราชโองการ
จากประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้วันที่ 5 ธันวาคมของชาวไทยเป็นวันสำคัญรวมแล้วเป็น 3 โอกาส
ทั้งนี้ ที่เคยกำหนดวันที่ 24 มิถุนายน เป็น “วันชาติ” สืบเนื่องจากเป็นวาระ อันเป็นวันที่คณะราษฎร “ปฏิวัติสยาม” ในพ.ศ.2475 โดยประกาศใช้ตั้งแต่ พ.ศ.2481 และเริ่มงานฉลองในปี พ.ศ.2482 กระทั่ง พ.ศ.2503 ก็เปลี่ยนไปเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ ไทย ตามอย่างประเทศราชาธิปไตยอื่นๆ ปัจจุบันตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี
ทั้งนี้ ย้อนไปวันที่ 18 กรกฎาคม 2481 รัฐบาลพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา (ยศขณะนั้น) ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องวันชาติ ความว่า
“ด้วยคณะรัฐมนตรีประชุมปรึกษาและลงมติว่า วันที่ 24 มิถุนายน ย่อมถือว่าเป็นวันชาติ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ด้วยเหตุ ที่ว่า การปฏิวัติสยามจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เกิดขึ้นโดยคณะราษฎร ในวันและเดือน ดังกล่าว เมื่อปี พ.ศ.2475 คณะรัฐมนตรีจึงกำหนดไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น”
โอกาสนั้น ในปี 2483 มนตรี ตราโมท ได้ประพันธ์เพลงประจำวันชาติของไทย โดยให้ชื่อเพลงว่า “วันชาติ 24 มิถุนายน” ขึ้นด้วย
เวลาผ่านมา 22 ปี ถึงวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2503 รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ถือวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย ความว่า
“ด้วยคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นว่า ตามที่ได้กำหนดให้มีการเฉลิมฉลองวันชาติไทยในวันที่ 24 มิถุนายน นั้น ได้ปรากฏในภายหลังว่ามีข้อที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ในด้านประชาชนและหนังสือพิมพ์ก็ได้เสนอแนะให้พิจารณาในเรื่องนี้หลายครั้งหลายคราว คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณา โดยมี พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
“คณะกรรมการนี้ได้พิจารณาแล้วเสนอความเห็นว่า ประเทศต่างๆ ได้เลือกถือวันใดวันหนึ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับชนในชาติต่างๆ กัน โดยถือเอาวันประกาศเอกราช วันอิสรภาพ วันตั้งถิ่นฐาน วันสาธารณรัฐ วันสถาปนาพระราชวงศ์ บ้าง ซึ่งไม่เหมือนกัน แต่ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติโดยทั่วไปนั้นได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติ เช่น ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น ฯลฯ เป็นต้น แม้ประเทศไทยเราเองก็ได้ถือเอาวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยมาแล้ว เพิ่งจะมากำหนดเอาวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติเพิ่มขึ้นอีกวันหนึ่งในระยะหลังนี้เอง
“คณะกรรมการจึงมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามขนบ ประเพณีของประเทศที่พระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็น การสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติโดยทั่วกัน จึงสมควรจะถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็น วันเฉลิมฉลองของชาติไทยต่อไป โดยยกเลิกวันชาติในวันที่ 24 มิถุนายน เสีย คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบด้วย จึงได้ลงมติให้ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2481 เรื่อง วันชาติ นั้นเสีย และให้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยด้วยต่อไปตั้งแต่บัดนี้”
ทั้งนี้ วันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาล ที่ 9 คือวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ดังนั้น วันชาติจึงตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ตามประกาศเมื่อปี 2503 และ 2560 ดังกล่าว