ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ เตือน ‘สเต็มเซลล์-กัญชา’รักษามะเร็ง

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ เตือน ‘สเต็มเซลล์-กัญชา’รักษามะเร็ง – ศ.นพ.สมชาย เอี่ยมอ่อง ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมากระแสทางสังคมเรื่องของการนำเซลล์ต้นกำเนิดหรือ สเต็มเซลล์ (Stem cell) และการนำกัญชา มาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งอย่างแพร่หลาย

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ เตือน

ดังนั้นราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จึงต้องการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและเข้าใจ สามารถวิเคราะห์ถึงความถูกต้องกับผลที่หากนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบัน

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ เตือน

นพ.สมชาย

ผศ.ดร.นพ.นิพัญจน์ อิศรเสนา ณ อยุธยา หัวหน้าศูนย์สเต็มเซลล์และเซลล์บำบัด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยเกี่ยวกับ สเต็มเซลล์กับการรักษาโรคมะเร็งว่า การ นำสเต็มเซลล์ไปใช้ทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับคือ การปลูกสเต็มเซลล์แทน สเต็มเซลล์ชนิดที่เสียไปให้สร้างเซลล์ของเนื้อเยื่อนั้นๆ ในร่างกาย

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ เตือน

นพ.นิพัญจน์

การนำไปใช้ในโรคมะเร็งที่เป็นที่ยอมรับเป็นเพียงการใช้สเต็มเซลล์เลือดปลูกสร้างระบบเลือดให้ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดจนระบบเลือดเสียไป ไม่ใช่ใช้ สเต็มเซลล์ไปฆ่ามะเร็งโดยตรง ในทางตรงข้าม สเต็มเซลล์บางชนิดเป็นเซลล์พี่เลี้ยงที่ดีทำให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ป่วยโดยไม่เกิดประโยชน์

นอกจากการใช้สเต็มเซลล์แล้วในทางการแพทย์มีการวิจัยการใช้เซลล์ของระบบภูมิคุ้ม กันเพื่อรักษามะเร็ง เช่น NK cells T-cells ไปจนถึงเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ดัดแปลงพันธุกรรมเช่น CAR T-cells แม้มีแนวโน้มจะพัฒนาจนใช้งานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นการวิจัยไม่ใช่การรักษามาตรฐาน ซึ่งตามหลักจริยธรรมไม่สามารถเก็บค่าบริการได้

เซลล์ภูมิคุ้มกันบางชนิดมีผลข้างเคียงที่รุนแรง จนถึงปัจจุบันมีมะเร็งน้อยชนิดที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลในระยะยาว ในขณะที่ในมะเร็งหลายชนิดมีข้อมูลว่าวิธีที่ใช้กันในปัจจุบันยังไม่ได้ผล การจะตัดสินใจรับภูมิคุ้มกันบำบัดควรศึกษาข้อมูลให้ดีจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น สมาคมโลหิตวิทยา สำหรับการฉีดเซลล์ภูมิคุ้มกันเพื่อหวังป้องกันมะเร็งรักษาสุขภาพไม่มีข้อมูลรองรับว่าได้ผล

สุดท้ายอยากฝากให้ประชาชนพึงตระหนักว่า ปัจจุบันทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ แม้แต่ในยุโรปและอเมริกา มีคลินิกและโรงพยาบาลที่หวังกำไรให้บริการสเต็มเซลล์และเซลล์บำบัดอื่นๆโดยไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์จำนวนไม่น้อย มีการโฆษณาอย่างกว้างขวาง ทำให้เข้าใจผิดได้ง่าย ซึ่งความจริงนอกจากจะไม่ได้ผล เสียเงินจำนวนมากแล้ว ยังอาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ซึ่งมีรายงานถึงพิการและแก่เสียชีวิตมาแล้ว นอกจากนั้นสำหรับผู้ป่วยมะเร็งการหยุดการรักษามาตรฐานไปพึ่งคลินิกในลักษณะดังกล่าว ยังเปิดโอกาสให้มะเร็งลุกลามทำให้เสียโอกาสในการรักษามะเร็งที่ควรจะรักษาได้ไปอีกด้วย

ด้าน รศ.ดร.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ อดีตนายกสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยและหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคมะเร็งครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวถึงเรื่องบทบาทของ กัญชา กับ โรคมะเร็งว่า มีการศึกษาว่ากัญชาสามารถออกฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งในการเพาะเลี้ยงเซลล์ในห้องแล็บ แต่ยังไม่มีการศึกษาถึงผลของกัญชาต่อโรคมะเร็งในมนุษย์ กล่าวคือ แม้ว่าจะมีการศึกษากัญชาในห้องปฏิบัติการมานานแล้ว กลับไม่มีหลักฐานการนำเอากัญชามาใช้วิจัยเพื่อรักษามะเร็งในมนุษย์เลย

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ เตือน

นพ.วิโรจน์

นอกจากนี้ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการนำกัญชามาใช้บรรเทาอาการหรือผลข้างเคียงจากโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากพอ

โดยสรุปจากหลักฐานทางการวิจัยที่มีคุณภาพ พบว่า ไม่มีการนำกัญชามารักษาโรคมะเร็งในมนุษย์เลย

แม้ว่ากัญชาอาจมีผลในการรักษาโรคเกร็ง ลมชักได้ แต่การวิจัยกัญชามาใช้รักษาโรคมะเร็งน่าจะไม่ได้ประโยชน์ จึงไม่ควรกล่าวอ้างหลอกลวงว่ากัญชาสามารถรักษามะเร็งได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเข้าใจผิด และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ป่วยมะเร็งได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน