ภารกิจชมรม‘ลมวิเศษ’
ช่วยผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง
ภารกิจชมรม‘ลมวิเศษ’ – โรคถุงลมโป่งพองนับเป็นโรคร้ายใกล้ตัวที่เราอาจมองข้าม เพราะในทุกๆ วัน เราต่างสัมผัสและสูดหายใจเอามลพิษในอากาศเข้าไปโดยไม่รู้ตัว เช่น ฝุ่นควันบนท้องถนน ฝุ่นควันจากการเผาไหม้ขยะและจากโรงงาน เป็นต้น
รวมทั้งผู้สูบบุหรี่ ซึ่งหากมีการสูดดมเป็นปริมาณมากและติดต่อกันจนปอดเสื่อมสภาพจะทำให้เกิดเป็นโรคถุงลมโป่งพองได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีการที่จะฟื้นฟูให้ปอดกลับคืนเป็นปกติทำให้โรคถุงลมโป่งพองกลายเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด
ชมรม “ลมวิเศษ” จึงถูกจัดตั้งขึ้นกับภารกิจช่วยผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองให้มีกำลังใจต่อสู้กับโรคร้ายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการภาคประชาสังคม ชมรมลมวิเศษ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอสเค กล่าวว่า โรคถุงลมโป่งพองส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย รวมถึงสภาพจิตใจทั้งของผู้ป่วยและครอบครัว ตลอดจนผลกระทบทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตในมิติต่างๆ ทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาในระยะยาว การเสียโอกาสทางการทำงาน รวมไปถึงการมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ดูแล
ด้วยเหตุนี้แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และโครงการอุ่นใจเมื่อใกล้แพทยสมาคมฯ พร้อมด้วยจีเอสเค จึงได้จัดตั้งชมรม “ลมวิเศษ” ขึ้น เพื่อร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ในการสร้างความตระหนักถึงอันตรายของโรคถุงลมโป่งพองแก่ประชาชน พร้อมเสริมสร้างความรู้และให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง
แม้ว่าโรคนี้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากมีการรักษาในระยะแรกก็จะลดความรุนแรงของอาการและยืดอายุของปอดให้ทำงานได้อีกนานๆ
ทาง จีเอสเค สนับสนุนการจัดทำสื่อสร้างเสริมความรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับโรคถุงลมโป่งพอง เพื่อสื่อสารผ่านช่องทางเว็บไซต์และโซเชี่ยลต่างๆ แก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองและครอบครัว เพื่อการดูแลผู้ป่วยอย่างถูกต้องและเหมาะสม ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้น
โดยชมรมลมวิเศษได้จัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้และพบปะผู้ป่วยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ รวมถึงการพัฒนาสื่อความรู้ในการดูแลผู้ป่วยโรค ถุงลมโป่งพองผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ www.magicbreath.org โซเชี่ยลมีเดีย เฟซบุ๊ก ยูทูบ เพื่อการเข้าถึงของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ดูแล
และที่สำคัญคือการสร้างนวัตกรรมเพื่อการดูแลตนเองให้ง่ายขึ้นโดยการใช้ “กำไลวิเศษ” สายรัดข้อมืออัจฉริยะ พร้อมคิวอาร์โค้ดเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดียิ่งขึ้นและเกิดความปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยสายรัดข้อมืออัจฉริยะจะใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นของผู้ป่วย เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของครอบครัว โรงพยาบาลที่ผู้ป่วยใช้บริการเป็นประจำ รวมทั้งโรคที่ผู้ป่วยรับการดูแลรักษาอยู่ โดยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้พบเห็นผู้ป่วยสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่กำไลวิเศษจะปรากฏข้อมูลของผู้ป่วยเพื่อประโยชน์ในการรักษา รวมทั้งข้อมูลเพื่อการดูแลยามฉุกเฉิน และข้อมูลทั่วไปสำหรับการดูแลรักษาโรคถุงลมโป่งพองต่างๆ
การดำเนินการของชมรมลมวิเศษ ตลอดจนความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นเพื่อให้ ผู้ป่วยก้าวผ่านความทุกข์กังวลและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัว