ขอสิทธิเข้าถึงถุงยาง ยาคุม ลดการตั้งครรภ์ในวัยเรียน

โดย นิชานันท์ นิวาศะบุตร

ขอสิทธิเข้าถึงถุงยาง ยาคุม ลดการตั้งครรภ์ในวัยเรียน – ปัญหาการ ‘ตั้งท้อง’ ในวัยรุ่นหรือวัยเรียนเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายหามาตรการแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศไทยมีการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นอันดับ 2 ของประเทศแถบอาเซียน

ขอสิทธิเข้าถึงถุงยาง ยาคุม

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดการประชุมระดับชาติ สุขภาวะทางเพศ ครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด ‘การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น : จากยุทธศาสตร์ สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน’ โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ยูนิเซฟประเทศไทย มูลนิธิแพธทูเฮลท์ (P2H) มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง

รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 1,700 คน

นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานกรรมการ สสส. คนที่ 2 กล่าวว่า สิ่งที่น่ายินดีในการดำเนินการต่อปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นคือ ความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ตั้งแต่ก่อน ออกพ.ร.บ.ท้องวัยรุ่น เช่น บทบาทของ สสส. ที่ร่วมกับภาคีวิชาการและหน่วยงานต่างๆ รวบรวมบทเรียนที่พบว่าได้ผลในการแก้ปัญหาท้องวัยรุ่นมาแล้วในต่างประเทศ นำมาพัฒนาเป็นรูปแบบดำเนินการแบบบูรณาการด้วยแนวทาง “9 ภารกิจ” เพื่อป้องกันปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ในระดับจังหวัด 20 จังหวัดนำร่อง

ขอสิทธิเข้าถึงถุงยาง ยาคุม

ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และนำไปสู่การพัฒนาเป็นยุทธศาสตร์ชาติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. เสริมว่า ผลสำรวจจากสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย สธ. ปี 2560 พบมีหญิงอายุ 10-14 ปี ที่คลอดบุตร จำนวน 2,559 คน คิดเป็นอัตรา 1.3 ต่อประชากรหญิงอายุ 10-14 ปี 1,000 คน หรือเท่ากับวันละ 7 คน และมีหญิงอายุ 15-19 ปี ที่คลอดบุตร 82,019 คน หรือคิดเป็นอัตรา 39.6 ต่อประชากรหญิงอายุ 15-19 ปี 1,000 คน หรือเท่ากับวันละ 225 คน

อัตราการป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการติดเชื้อเอชไอวี ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากอัตรา 93 รายต่อประชากร 1 แสนคน เพิ่มเป็น 161 รายต่อประชากร 1 แสนคน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 72 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นแม้จะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงถึงวันละ 225 ราย

ขอสิทธิเข้าถึงถุงยาง ยาคุมขอสิทธิเข้าถึงถุงยาง ยาคุม

การทำงานของ สสส. ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์สนับสนุนและทำงานร่วมกับ ศธ. พัฒนาระบบและเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาครูให้จัดการเรียนรู้เพศวิถีศึกษาในสถานศึกษาทุกระดับ รวมถึงกำลังพัฒนารูปแบบและเครื่องมือในการเสริมทักษะพ่อแม่ในสถานประกอบการ เพื่อให้มีทักษะการสื่อสารเชิงบวก และพูดคุยเรื่องเพศกับลูกหลานวัยรุ่นได้

นอกจากนี้ สสส. ร่วมกับ สธ.และหลายฝ่าย ดำเนินงานสื่อสารรณรงค์เพื่อปรับเปลี่ยนฐานคิดในสังคมไทย ให้มีมุมมองเชิงบวกต่อเรื่องเพศ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นได้อย่างยั่งยืน

สําหรับกรณีที่แกนนำเยาวชนจากเครือข่ายการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น จำนวน 300 คน จากทั่วประเทศ เดินทางไปยื่นหนังสือถึงตัวแทน สปสช. เพื่อเรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงถุงยางอนามัย และยาคุมฉุกเฉิน เพื่อให้สอดคล้องกับวาระการประชุมระดับชาติ สุขภาวะทางเพศ ครั้งที่ 3 น.ส.พรพรรณ ทองทนงศักดิ์ ผู้จัดการการให้คำปรึกษาห้องแช็ต เลิฟแคร์สเตชั่นดอทคอม กล่าวว่า

สิทธิประโยชน์ของผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เด็กและเยาวชนจะได้บริการถุงยางอนามัย/ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน และคำแนะนำการใช้เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และตั้งครรภ์ แต่ในความเป็นจริงยังมีหน่วยบริการจำนวนมากไม่ได้มีบริการดังกล่าวให้ เมื่อสอบถามไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้รับคำชี้แจงมาว่า หน่วยบริการต้องทำเป็นโครงการพิเศษเพื่อขอรับการสนับสนุนเป็นรายกรณี เนื่องจากไม่มีสำรองสำหรับทุกคน

“ขอให้ สปสช.และกระทรวงสาธารณสุขทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติในการรับบริการถุงยางอนามัย/ยาคุมฉุกเฉิน ให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้ารับบริการด้านสุขภาพของวัยรุ่น ยิ่งเราไม่อยากเห็นวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อม ไม่ควรสร้างความยุ่งยากในการปฏิบัติ ทำให้เยาวชนเสียโอกาส เพราะหลายคนมีความจำเป็นต้องใช้บริการถุงยางอนามัย และยาคุมฉุกเฉินให้สะดวกและทันเวลา” น.ส.พรพรรณกล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน