รวมพลังแก้เด็กติดเค็ม ชวนร่วมงานวันไตโลกปี 2562
รวมพลังแก้เด็กติดเค็ม – เครือข่ายลดการบริโภคเค็ม สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ชมรมโรคไตเด็ก กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมพลังประกาศเจตนารมณ์ “แก้ปัญหาพฤติกรรมเด็กติดเค็ม” พร้อมประกาศวัน จัดงาน วันไตโลกปี 2562
โดย พ.อ.นพ.อดิสรณ์ ลำเพาพงศ์ กรรมการบริหาร สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย และแพทย์โรคไตในเด็ก กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคไตทั่วโลกกว่า 850 ล้านคน ทำให้โรคไตเป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 6 ของสาเหตุการตายทั้งหมด สิ่งที่น่าสนใจคือ แนวโน้มคนไทยป่วยเป็นโรคไตเพิ่มขึ้น 15% ต่อปี และมีผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นถึง 1,500,000 คน ภายใน 5 ปี โรคเหล่านี้สัมพันธ์กับพฤติกรรมกินเค็ม
นอกจากผู้ใหญ่กินเค็มเกิน 2 เท่าแล้ว ย่อมส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคของเด็กซึ่งเด็กไทยกินเค็มเกินเกือบ 5 เท่า โดยปริมาณโซเดียมเฉลี่ยที่เด็กรับประทานอยู่ที่ 3,194 มิลลิกรัม/วัน ขณะที่ปริมาณโซเดียมที่เด็กวัยเรียนควรได้รับ อายุ 6-8 ปี อยู่ที่ 325-950 มิลลิกรัม อายุ 9-12 ปี อยู่ที่ 400-1,175 มิลลิกรัม และอายุ 13-15 ปี อยู่ที่ 500-1,500 มิลลิกรัม
เนื่องจากโซเดียมเป็นสารปรุงรสในอาหารเพื่อกระตุ้นน้ำลาย ทำให้เด็กอยากอาหารมากขึ้น เป็นที่พอใจของผู้ปกครอง แต่ถ้ากินเค็มมากเกินไปก็เกิดปัญหาติดรสเค็ม ซึ่งจะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงเมื่อโตขึ้นในอนาคต
ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดการบริโภคเค็มและคณะทำงาน การจัดงานวันไตโลก กล่าวว่า ผู้ปกครองมักให้เด็กกินเค็ม โดยไม่รู้ตัว ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปและขนมกรุบกรอบที่พบว่ามีปริมาณโซเดียมสูง หากเด็กเคยชินกับการกินเค็มก็มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ติดเค็ม และส่งผลต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง หัวใจ และไต ตามมา
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผอ.สำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยนอกจากมาตรการจูงใจให้ผู้ประกอบการปรับสูตรเพื่อลดปริมาณโซเดียมในขนมกรุบกรอบและอาหารกึ่งสำเร็จรูปแล้ว ควรมีการให้ความรู้กับผู้ปกครอง การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการลดเค็ม โดยดูฉลากปริมาณโซเดียมหรือแบ่งบริโภคต่อมื้อ ไม่ควรกินจนหมดซองในมื้อเดียว และส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การบริโภคโซเดียมที่เกินความต้องการ ทำให้คนไทยเสียชีวิตถึงปีละกว่า 20,000 คน การลดปริมาณการบริโภคโซเดียมลงจึงเป็นมาตรการที่จะช่วยปกป้องชีวิตของประชาชนได้ดีที่สุดทางหนึ่ง
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการประกาศเจตนารมณ์แก้ปัญหาพฤติกรรมเด็กติดเค็มว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่ายได้จัดทำยุทธศาสตร์ลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายลดเค็มให้ได้ 30% ภายในปี 2568 สอดคล้องกับเป้าหมายร่วมกันขององค์กรอนามัยโลก
จึงเกิดความร่วมมือของทุกภาคส่วนร่วมกันลดการบริโภคเกลือและโซเดียม โดยเฉพาะการปกป้องเด็กและเยาวชนเพื่อลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคในอนาคต ทั้งการติดฉลากโภชนาการและให้ความรู้กับผู้บริโภค การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการปรับสูตรปริมาณโซเดียมลง ให้ได้ 10% ในทุก 2 ปี รวมทั้งสนับสนุนนโยบายการคลังที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ประกอบการผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพในราคาไม่แพง
พ.อ.นพ.อดิสรณ์กล่าวถึงกิจกรรมวันไตโลกว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนมีนาคม เป็นวันไตโลก ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 14 มีนาคม สำหรับกิจกรรมวันไตโลก ในปี 2562 นี้จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2562 ที่ลานเอเทรียม ชั้น 1 ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย