คอลัมน์ ข่าวสดหรรษา
แหล่งท่องเที่ยวตามรอยพุทธชื่อดังแห่งตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ก็คือ “พระพุทธบาทสี่รอย” อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
ปัจจุบัน พระครูพุทธบทเจติยารักษ์ หรือพระครูบาพรชัย ปยะวัณโณ เป็นเจ้าอาวาส
ภายในวัดพระพุทธบาทสี่รอย มีจุด ท่องเที่ยวตามความเชื่อที่ระลึกถึงองค์สัมมา สัมพุทธเจ้าประกอบโดย จุดแรก “ผาข้าวเย็น” เป็นพื้นที่ฉันข้าว ต่อมาเป็น “บ่อน้ำศักดิ์” หลังจากฉันข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้นำบาตรมาล้างที่บ่อน้ำแห่งนี้ขณะนั้นได้มีพญานาคมา เฝ้าชมบารมีของพระพุทธองค์ ปัจจุบันจึงมี ผู้ชอบมาโยนหินลูกแก้วลงในบ่อน้ำแห่งนี้
จากนั้นมาดูโบสถ์จัตุรมุข สร้างด้วยนิมิตของเจ้าอาวาส มีหน้ามุขยื่นออกไปสี่ทิศ เรือนยอดเป็นยอดปราสาท ยกฉัตร โดดเด่นและสง่างาม ตัวอาคารประดับประดาด้วยลวดลายวิจิตรงดงาม ทางเข้าขนาบด้วยปูนปั้นมกรคายนาคทุกด้าน ภายในวิหารก็วิจิตรงดงามด้วยการประดับประดาลวดลาย ภายในประดิษฐานพระประธานของวัดเอาไว้ และมีพระทองคำปางต่างๆ
ส่วนที่ประชาชนเข้ามาสักการะเป็นจำนวนมาก คือ พระพุทธบาทสี่รอย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ ประดิษฐานอยู่ในวิหารครึ่งไม้ครึ่งหินอ่อน สร้างขึ้นเรียบง่าย หน้าบันประดับลวดลายพรรณพฤกษา ต้นเสาภายในตกแต่งด้วยกระจกสีสวยงาม
ตามเรื่องเล่าของพระพุทธบาทสี่รอย เมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าเสด็จออกโปรดสัตว์และเผยแผ่พระธรรมคำสอนมา พร้อมด้วยพระสาวกประมาณ 500 รูป มาจนถึงภูเขาลูกหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศไทยปัจจุบันเรียกว่า “ภูเขาเวภารบรรพต” พระพุทธองค์ก็ได้รู้ด้วยญาณว่าบนเทือกเขาแห่งนี้เคยมีพระพุทธเจ้าอีก 3 พระองค์เสด็จมาเยือนแล้ว ได้แก่ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ และพระพุทธเจ้ากัสสปะ และทุกพระองค์ประทับพระบาทลงบน ก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งบนภูเขาลูกนี้
พระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์ว่าในเมื่อพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์เสด็จประทับรอยพระพุทธบาทบนหินทั้งสิ้น แม้แต่พระศรีอริยเมตไตรยซึ่งจะเสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตก็จะมาประทับรอยพระบาทลงบนรอยเท้าทั้งหมดเพื่อให้กลายเป็นรอยเท้าเดียว พระพุทธองค์จึงประทับรอยพระบาทของตนซ้อนลงบนรอยเดิมทั้งสาม กลายเป็น “พระพุทธบาทสี่รอย” พร้อมทั้งอธิษฐานจิตว่าเมื่อเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ให้เทวดาทั้งหลายนำพระธาตุมาบรรจุที่พระพุทธบาทองค์นี้ เดิมมีชื่อเรียกตามตำนานว่า “พระพุทธบาทรุงรัง” หรือ “พระพุทธบาทรังเหยี่ยว”
โบราณวัตถุชิ้นสำคัญของพระอารามแห่งนี้เป็นพระพุทธบาท มีรอยประทับทั้งสิ้น 4 รอย รอยแรกยาว 12 ศอก เป็นของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยที่สองยาว 9 ศอก เป็นของพระพุทธเจ้ากัสสปะ รอยถัดมายาว 7 ศอกเป็นของพระพุทธเจ้าโกนาคม และรอยสุดท้ายเป็นรอยที่มีความยาว 4 ศอก เป็นของพระพุทธเจ้าโคตม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
สำหรับเส้นทางมาวัดพระบาทสี่รอยให้เริ่มจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ไปยังอำเภอแม่ริม จนถึงเขตตำบลสะลวงช่วงหลักก.ม.ที่ 27-28 ทางด้านซ้ายมือ ทางไปคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จากนั้นให้เลี้ยวเข้ามาระยะทางประมาณ 28 ก.ม. จะถึงวัดพระบาทสี่รอย
หลังจากเที่ยวชมภายในวัดพระพุทธบาทสี่รอยเรียบร้อยแล้ว แวะมาจิบกาแฟรสชาติเข้มข้นที่ร้าน Coffer Nine ก่อนจะแวะซื้อผลิตภัณฑ์สินค้าสมุนไพรจากกลุ่มแม่บ้านตำบลสะลวงแห่งนี้ได้
ทั้งนี้ ในวันที่ 11-12 มี.ค. ที่วัดพระบาทสี่รอย จะมีการจัดประเพณีประจำปีที่มีต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ให้ประชาชนได้ขึ้นไปสรงน้ำที่องค์พระบาทสี่รอย หากผู้มีศรัทธามีโอกาสไปจ.เชียงใหม่ อย่าลืมไปร่วมงานเพื่อความเป็นสิริมงคล
