คนโทนํ้าอภิเษก โรงโอ่งเมืองราชบุรี
หนึ่งในขั้นตอนสำคัญในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคมนี้ คือการเตรียมน้ำอภิเษก ซึ่งจะมาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 107 แห่ง รวมกับน้ำที่หอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง รวมเป็น 108 แห่ง
และเตรียมน้ำสรงมุรธาภิเษก จากแหล่งน้ำเบญจสุทธิคงคา คือแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ 5 สาย ได้แก่ แม่น้ำบางปะกง ตักที่บึงพระอาจารย์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก แม่น้ำป่าสัก ตักที่บริเวณบ้านท่าราบ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี แม่น้ำเจ้าพระยา ตักบริเวณปากคลองบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง
แม่น้ำราชบุรี ตักบริเวณสามแยกคลองหน้าวัดดาวดึงษ์ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม แม่น้ำเพชรบุรี ตักบริเวณท่าน้ำวัดท่าไชยศิริ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี และน้ำจากสระศักดิ์สิทธิ์ 4 สระ ได้แก่ สระเกษ สระแก้ว สระคา และสระยมนา อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
พิธี “พลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์” จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันเสาร์ที่ 6 เมษายนนี้
กระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายจากรัฐบาลรับผิดชอบจัดสร้างคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อมอบให้จังหวัดต่างๆ นำไปบรรจุน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ 4 จ.ราชบุรี ได้รับหน้าที่สำคัญในการผลิตคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ หลังจากเคยได้รับมอบหมายให้จัดสร้างคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยครั้งนี้กระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้จัดทำรวมทั้งหมด 125 ใบ
ในการจัดสร้างคนโทครั้งนี้มีการเตรียมปั้น หล่อ การเผาอบสำรองไว้อีกจำนวนหนึ่ง กรณีที่เกิดเหตุแทรกซ้อนขึ้นมา เพราะช่วงการอบสีอาจมีการผิดพลาดเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต เนื่องจากเป็นงานปั้นที่ใช้ฝีมือความประณีตสูง อีกทั้งยังนำไปประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำและพิธีทำ น้ำอภิเษกซึ่งเป็นพิธีสำคัญมากที่สุด
“รู้สึกปลาบปลื้มอย่างสูงหลังจากกระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้จังหวัดราชบุรีผลิตคนโทน้ำ เพื่อใช้บรรจุน้ำศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำสำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ ในวันที่ 6 เมษายน พร้อมกันทั้ง 76 จังหวัด” นายสุขชาติ โฆษะบดี อายุ 62 ปี เจ้าของโรงโอ่งรัตนโกสินทร์ 4 ตั้งอยู่เลขที่ 51/5 หมู่ 1 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี เผยความรู้สึก
ก่อนเล่าถึงกระบวนการทำว่าโรงโอ่งเตรียมความพร้อมและช่างฝีมือที่มีความชำนาญบรรจงสร้างงานทุกขั้นตอน ระยะเวลาทำงาน 45 วัน ตั้งแต่งานเริ่มต้นโดยดูจากแบบพิมพ์เขียว ในการผลิตขึ้นงานจะมีเบ้าพิมพ์ การขัดผิวให้เรียบ รวมถึงการเก็บรอยตะเข็บของชิ้นงาน จนถึงงานเขียนลาย
ทุกขั้นตอนจะมีช่างสิบหมู่จากกรมศิลปากรร่วมทำและคอยดูแลควบคุมใกล้ชิด ช่างจะใช้พู่กันจุ่มน้ำทองเซรามิกซึ่งมีทองผสมอยู่กว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ค่อยๆ บรรจงเขียนลวดลายน้ำทองด้วยความประณีตช่วงด้านล่างและช่วงคอของคนโทแต่ละใบอย่างพิถีพิถัน
เพื่อเตรียมนำไปเผาอบในอุณหภูมิความร้อนสูงประมาณ 900 องศาเซลเซียส ที่กำหนดไว้ หลังจากนั้นจะได้คนโทที่มีลักษณะลวดลายเงาวาวจากสีน้ำทองที่คงความงดงามประณีตซึ่งช่างทุกคนตั้งใจสุดฝีมือ เสร็จแล้วจะนำไปตั้งไว้ให้แห้งนาน 3-5 วัน
“การผลิตคนโทน้ำนั้นจะเผาอบประมาณ วันละ 10 ใบ โดยเฉพาะสีทองเป็นสีพิเศษ ต้องเผาในอุณหภูมิที่นิ่งและเป็นเตาไฟฟ้าเท่านั้น จึงนับเป็นเกียรติของครอบครัวและทีมงานช่าง งานนี้ถือว่าเป็นงานที่ ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินการ จะใช้เวลาประมาณ 45 วัน หลังจากต้นแบบเสร็จ โดยผู้ที่ออกแบบคนโทน้ำคือช่างสิบหมู่ผู้ควบคุมแบบ ควบคุมขนาด ควบคุมลวดลาย รายละเอียดตลอดจนสีสันของคนโท”
นายสุขชาติกล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผลิตจำนวน 125 ใบ โดยจะมีตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และตราสัญลักษณ์จังหวัด
จำนวน 77 ใบ ส่วนที่เหลือจะเป็นตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเดียว และบางจังหวัดอาจจะมี 2 หรือ 3 ใบ เพราะมีการตักน้ำศักดิ์สิทธิ์หลายแหล่งมารวมกัน ทางครอบครัวต่างตั้งใจทำงาน ครั้งนี้ถือเป็นเกียรติประวัติและเป็นมงคลที่สุดของวงศ์ตระกูลเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับคนโทชุดแรกจัดใส่กล่องกำมะหยี่พิเศษสวยงามสมพระเกียรติ นำส่งมอบให้กระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 25 มี.ค. จำนวน 67 ใบ และชุดที่สองส่งมอบเมื่อวันที่ 31 มี.ค. อีก 58 ใบ รวม 125 ใบ และแก้ไขเรื่อง สีตราสัญลักษณ์ที่ผิดพลาดอีกจำนวน 6 ใบ ครบตามจำนวนที่ได้รับมอบหมาย
โดยทางจังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี จัดรถนำขบวนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร นำรถยนต์บรรทุกคนโทน้ำอภิเษกเดินทางถึงกรุงเทพมหานคร ส่งมอบให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อจัดส่งให้จังหวัดต่างๆ ต่อไป
“ช่างฝีมือทุกคนช่วยกันทำอย่างสุดฝีมือด้วยความภูมิใจและเต็มใจ ทั้งกลางวันกลางคืนเท่าที่จะมีเวลาทำได้ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงงานเสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้งานสำคัญออกมาอย่างดีที่สุด สวยงามสมพระเกียรติ
สำหรับจังหวัดราชบุรีกำหนดประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สระโกสินารายณ์ ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ในวันที่ 6 เม.ย. จากนั้นจะอัญเชิญมาไว้ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง เพื่อเตรียมจัดทำน้ำอภิเษกก่อนอัญเชิญส่งมอบเพื่อใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก” นายสุขชาติกล่าวในตอนท้าย