เที่ยว‘เกาสง’เมืองท่า‘ไต้หวัน’

 

เที่ยว‘เกาสง’เมืองท่า‘ไต้หวัน’ – แม้ไต้หวันเป็นเกาะไม่ใหญ่ แต่ก็มีอะไรน่าสนใจเยอะ ไม่ว่าจะเป็นประวัติ ศาสตร์ความเป็นมา และสภาพสังคมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเมืองท่าสำคัญอย่าง “เกาสง” (Kaohsiung) ศูนย์กลางธุรกิจทางภาคใต้ และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของไต้หวัน ทั้งมีท่าเรือใหญ่ติด 10 อันดับแรกของโลก

วัดฉือจี้

ที่นี่เป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับนานาชาติมานับไม่ถ้วน เช่น การแข่งหมากล้อมระดับโลก อันเป็นกีฬาที่บริษัทซีพีออลล์ฯ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่นฯ ในไทย เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่

ใครมาเกาสง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ผู้คนมักไปกัน อาทิ “วัดฝอกวงซาน” ชื่อไทยว่าวัดพุทธรังษีญาณสังวราราม หรือ “มูลนิธิแสงพุทธธรรม” อยู่แถวชานเมือง เป็นวัดนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน

เจดีย์มังกร

ภายในวัดมีทั้งวิหาร หอบูชา ศาลา เจดีย์ สะพาน หอไตร หอฝึกสมาธิ สระน้ำ ถ้ำจำลอง พระพุทธรูปใหญ่น้อยจำนวนมาก มีอาณาบริเวณกว้างขวางมาก ประเภทต้องใช้รถกอล์ฟเป็นพาหนะ เพราะเดินกันไม่ไหว

จุดเด่นคือพระพุทธรูปประดิษฐานองค์ใหญ่สุดสูงถึง 32 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในไต้หวัน วัดนี้มีอาคารหลายแห่งเพราะใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนของคณะสงฆ์ด้วย และยังใช้เป็นสถานที่จัดงานต่างๆ ซึ่งในการแข่งหมากล้อมระดับโลกในปีที่ผ่านมาก็ใช้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่แข่งขัน

หากติดตามวงการท่องเที่ยวจะเห็นว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ การท่องเที่ยวไต้หวันพยายามโปรโมตให้คนไทยไปเที่ยวกัน ซึ่งก็เริ่มมีนักเดินทางของไทยไปมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา อีกอย่างค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก

แต่จะว่าไปแล้วคนไทยก็ยังไม่นิยมชมชอบมากนัก ถ้าเทียบกับการไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะยังทำประชาสัมพันธ์ไม่โดนกระมัง อีกอย่างไม่มีกระแสนักร้อง นักแสดงเป็นแม่เหล็กสำคัญ

ทว่าในความเป็นจริง เกาสงเป็นเมืองน่าเที่ยวเมืองหนึ่งทีเดียว เพราะแม้จะเป็นเมืองเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่วุ่นวาย รถราไม่ติดแหง็กเหมือนบ้านเรา บ้านเมืองก็สะอาดสะอ้าน

ที่สำคัญผู้คนอัธยาศัยใจคอดี มีความเป็นมิตรกับผู้มาเยือน สถานที่ท่องเที่ยวก็มีความหลากหลาย อีกทั้งการเดินทางก็สะดวกสบายมีรถแท็กซี่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟใต้ดิน และรถไฟธรรมดาให้เลือกแล้วแต่เงินในกระเป๋า

รูปปั้นที่เดอะ เพียร์-2 อาร์ต เซ็นเตอร์

ช่วง 2 วันที่อยู่ในเกาสงได้ไปสถานที่สำคัญๆ หลายแห่ง อย่างเดอะ เพียร์-2 อาร์ต เซ็นเตอร์ (The Pier-2 Art Center) โกดังท่าเรือเก่าริมทะเลที่สร้างขึ้นในยุคญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน ตอนนี้ปรับโฉมใหม่ โดยเป็นศูนย์รวมผลงานทางด้านศิลปะที่ทั้งจัดแสดงอยู่กลางแจ้งและในโซนจัดแสดงพิเศษ

ด้านนอกอาคารมีรูปปั้น และผลงานประติมากรรมรูปทรงแปลกตา ส่วนตามผนังจะมีงานกราฟฟิตี้เก๋ๆ มีร้านรวงมากมายที่ตกแต่งสวยงามไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านหนังสือ หรือร้านขายสินค้าต่างๆ แต่ละร้านตกแต่งโดดเด่น และทุกวันอาทิตย์ จะเป็นตลาดนัดแฟชั่น มีของมือสองและของทำมือมาวางขาย

เจดีย์มังกรและเจดีย์เสือ หรือเจดีย์หลงหู (Longhu Pagodas) ตั้งอยู่หน้าวัดฉือจี้ เป็นสถานที่อีกแห่งที่คณะได้ถ่ายรูปสวยๆ กัน ตั้งอยู่ท่ามกลางสระบัวขนาดใหญ่ เป็นเจดีย์สูง 7 ชั้น ทางเข้ามีรูปปั้นมังกรและเสือตัวใหญ่ มีความเชื่อกันว่าถ้าเดินเข้าทางปากมังกรแล้วออกทางปากเสือ จะช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี ถือเป็นสิริมงคลของชีวิต

อดีตสถานกงสุลอังกฤษ

สถานที่สำคัญอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดก็คือ อดีตสถานกงสุลอังกฤษต๋าโกว่ อันเป็นสถานกงสุลอังกฤษแห่งแรกในไต้หวัน ตั้งอยู่บนยอดเขากู่ซานติดกับชายฝั่งทะเล มีอายุกว่า 100 ปี กว่าจะขึ้นไปถึงตัวอาคารข้างบนก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่พอมองลงมาเห็นวิวสวยๆ ของท้องทะเลก็หายเหนื่อย และใช้เวลาสักพักเดินดูห้องต่างๆ ที่มีสิ่งของและรูปภาพตั้งโชว์

นมปั่นมะละกอ เมนูยอดฮิตของชาวเกาสง

ตกกลางคืนนอกจากจะมีโปรแกรมไปล่องเรือที่ “แม่น้ำอ้ายเหอ” หรือแม่น้ำแห่งความรัก (Love River) แล้ว ยังได้ไป “ตลาดกลางคืนรุ่ยเฟิง” ไนต์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของไต้หวัน เหมือนตลาดโต้รุ่งบ้านเรานั่นเอง

มีร้านขายของสารพัดทั้งอาหารการกิน เสื้อผ้าและของใช้สารพัด แถมบางร้านติดป้ายชื่อเป็นภาษาไทยด้วย มีร้านเกมและร้านขายของเด็กเล่น จึงมีพ่อแม่จูงลูกจูงหลานไปเล่นไปกินอย่างสนุกสนาน บรรยากาศคึกคักน่าดู รวมทั้งมี “แผงเล่นไพ่นกกระจอก” ด้วย

มาเกาสงครั้งนี้ทำให้ได้รู้จักไต้หวันในอีกแง่มุมหนึ่ง มีอะไรดีๆ หลายอย่างที่น่าประทับใจ คิดว่าหากมีโอกาสอยากจะไปเยือนอีกครั้ง เพราะมีสถานที่อีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้ไป

ที่ชอบที่สุดคืออาหารคาวหวานที่มีให้เลือกหลากหลาย ล้วนแล้วแต่ถูกปากคนไทยทั้งนั้นเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน