แอนิมอล ฟาร์ม-Animal Farm

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

เล่าเรื่อง แอนิมอล ฟาร์ม หน่อยครับ

ข้าวฟ่าง

ตอบ ข้าวฟ่าง

ผลจากคำแนะนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้คนไทยอ่าน Animal Farm-แอนิมอล ฟาร์ม เฟซบุ๊กหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เผยแพร่ข้อเขียนมีเนื้อหาสรุปใจความหนังสือ พร้อมระบุชัดเจนว่าตัวละครใดคือใครในประวัติศาสตร์การเมืองห้วงเวลานั้น ดังนี้

แอนิมอล ฟาร์ม (Animal Farm) นวนิยายสั้นเชิงอุปมานิทัศน์ เสียดสีการเมือง ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาไทยมาแล้ว 10 ครั้ง เขียนโดย จอร์จ ออร์เวลล์ ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2488 นิยายเรื่องนี้สะท้อนถึงเหตุการณ์การปฏิวัติรัสเซียและการครองอำนาจของสตา ลิน (โจเซฟ สตาลิน ผู้นำของสหภาพโซเวียต ตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1920 ถึง ค.ศ. 1953-วิกิพีเดีย) โดยใช้สัตว์เป็นตัวดำเนินเรื่อง

จอร์จ ออร์เวลล์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดสังคมนิยมประชาธิปไตย มองว่าสหภาพโซเวียตนั้น “ปกครองอย่างโหดร้าย” และเขาใช้นิยายเรื่องนี้เพื่อเสียดสีการปกครองของสตาลิน โดยสะท้อนถึงเหตุการณ์การปฏิวัติรัสเซียและการครองอำนาจของสตาลิน สามารถตีความโดยนัยได้ว่า

เจ้าของฟาร์มที่ปล่อยปละละเลยสัตว์ คือ พระเจ้าซาร์นิโคลัส กษัตริย์องค์สุดท้ายของรัสเซีย, หมูแก่ที่ฝากข้อความให้สัตว์ปฏิวัติก่อนตาย คือ คาร์ล มากซ์ ผู้วางรากฐานแนวคิดแบบคอมมิวนิสม์, หมูขาว คือ วลาดีมีร์ เลนิน ผู้นำการปฏิวัติ จนขับไล่เจ้าของฟาร์มไปได้ (แต่ในประวัติศาสตร์จริงๆ พรรคบอลเชวิกของเขา สั่งยิงพระเจ้าซาร์และครอบครัวตายทั้งหมด), หมูดำ คือ โจเซฟ สตาลิน ผู้ใช้นโยบายแบบทหาร รวมอำนาจ รุนแรง รวบอำนาจและยึดทรัพยากรทั้งหมดของประชาชนเข้าเป็นของรัฐทั้งหมด (หมูดำ ขับไล่หมูขาวไปได้ ในประวัติศาสตร์คือ หลัง ยุคของเลนิน สตาลินไล่กวาดล้างผู้มีตำแหน่ง ในพรรคที่อยู่ข้างเลนิน จนหมด), สัตว์ทั้งหลาย จะเป็นตัวแทนของประชาชนต่างๆ ที่อยู่ในรัสเซีย ซึ่งตอนจบของหนังสือก็เหมือนการบอกว่า การปกครอง แบบนี้ยังไงก็ไม่ยั่งยืน ทำให้เหล่าสัตว์ทั้งหลายลุกขึ้นมาปฏิวัติ

ยังมีรายงานจากมติชน ระบุว่า เป็นนิยายที่ออร์เวลเขียนขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สหราชอาณาจักรยังเป็นพันธมิตรกับสหภาพโซเวียต และชาวอังกฤษส่วนใหญ่ยังคงยกย่อง โจเซฟ สตาลิน แต่ในทัศนะของออร์เวลล์ที่สนับสนุนแนวคิดสังคมนิยมประชาธิปไตย เขามองว่าสตาลินเป็นเผด็จการที่ปกครองสหภาพโซเวียตอย่างโหดร้าย กดขี่ชนชั้นกรรมาชีพอย่างรุนแรง

นิยายเรื่องนี้เสียดสีถึงการกดขี่และความเลวร้ายจากการปกครองแบบอำนาจนิยมเบ็ดเสร็จของสตาลิน โดยอุปมาผ่านการก่อกบฏของเหล่าสัตว์ในฟาร์มแมนเนอร์ ที่มีต่อมนุษย์เจ้าของฟาร์มจอมกดขี่ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็หนีไม่พ้นการกดขี่จากสัตว์ด้วยกันเองอย่างหมู “นโปเลียน” ที่สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นผู้นำแทนมนุษย์ และสร้างระบอบการปกครองที่เอื้อต่อพวกพ้องของตน ภายใต้โครงสร้างสังคมแบบเผด็จการของฟาร์ม

เรื่องโดยย่อมีอยู่ว่า ในฟาร์มแห่งหนึ่งมีสัตว์หลายชนิด อาทิ หมู ม้า แกะ ไก่ สุนัขและลา เจ้าของฟาร์มนามว่า โจนส์ แต่วันหนึ่งสัตว์ทั้งหลายก็เกิดรวมตัวกันไล่มนุษย์ออกจากฟาร์ม ผู้นำการลุกฮือคือ “หมู” เป็นผู้วางแผน เพื่อหวังปกครองกันเองในกลุ่มสัตว์ โดยตั้งกฎระเบียบต่างๆ ขึ้นมาเพื่อความยุติธรรม ไม่ต้องเป็นทาสรับใช้ของคนอีกต่อไป และตั้งชื่อฟาร์มใหม่ว่า แอนิมอล ฟาร์ม

ทว่าเมื่อหมูที่เป็นหัวหน้าล้มตายลง ก็เกิดการแย่งชิงอำนาจในกลุ่มหมูด้วยกัน โดยแบ่งเป็น 2 ขั้ว เมื่อขั้วหนึ่งชนะ การปกครองตัวเองในฟาร์มก็ต่างออกไปจากเดิม สัตว์ชนิดอื่นๆ ถูกใช้งานอย่างหนัก มีการตั้งกฎที่เอื้อต่อพวกพ้องหมูด้วยกัน อย่างไรก็ตาม สัตว์อื่นๆ ก็กลับทนอยู่ใต้การปกครองของหมูโดยไม่มีตัวใดคิด จะลุกขึ้นมาล้มกลุ่มหมูแต่อย่างใด สุดท้ายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงวนลูปซ้ำเดิมคลับคล้ายคลับคลาเหมือนตอนที่ถูกมนุษย์ปกครองอยู่นั่นเอง

นิยายเรื่องนี้ได้รางวัลต่างๆ เยอะมาก ทั้งที่ตอนแรกแทบ จะไม่มีสำนักพิมพ์ไหนยอมพิมพ์ เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสำหรับเด็กๆ ในหลายประเทศ แต่สิ่งหนึ่งที่เหนือกว่ารางวัลต่างๆ คือความรู้สึกร่วมของคนอ่าน เป็นความรู้สึกร่วมที่มีต่อเผด็จการบ้าอำนาจ เป็นการวิพากษ์การปกครองแบบอำนาจนิยมเบ็ดเสร็จผ่านบรรดาเรื่องเล่าของสิงสาราสัตว์ในเรื่อง จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อเอ่ยถึง Animal Farm นักอ่านไม่น้อยจึงมองว่านี่คือหนังสือต่อต้านเผด็จการ

โดย [email protected]

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน