คอลัมน์ ข่าวสดหรรษา

งานมาถึงวันสุดท้ายแล้วในวันนี้ 19 มีนาคม สำหรับงาน “สบายใจไหว้พระดี สะสมบุญปี 60” ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะ มอลล์ บางกะปิ

นอกจากในงานจะประดิษฐานพระพุทธรูปมงคลและพระพุทธรูป 9 ปางจากพระอารามหลวงแล้ว ยังมีศาลเจ้าที่โดดเด่นตั้งอยู่บริเวณทางเข้างาน ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานจำนวนมาก รวมถึงพระเอกอาร์ต พศุตม์ บานแย้ม และมด ณปภัช ก็มาสักการะแล้ว

ศาลเจ้าดังกล่าวจำลองให้คล้ายกับศาลเจ้าเล่งจูเกียง ที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวองค์จำลองที่อัญเชิญมาจาก จ.ปัตตานี โดยนายประยูรเดช คณานุรักษ์ ประธานกรรมการมูลนิธิเทพปูชนียสถาน (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ปัตตานี เป็นผู้นำคณะอัญเชิญองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมาให้ผู้ร่วมงานร่วมสักการะ

ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกว่าปัตตานีเป็น ดินแดนที่โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในด้านวัฒนธรรมอันงดงามและ เข้มแข็ง โดยเฉพาะวัฒนธรรมของชาวไทยมุสลิม และชาวไทยจีน มีความหลากหลายอยู่รวมกัน ทั้งในด้านเชื้อชาติและศาสนา

ตามประวัติ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมีพี่ชายคือ ลิ้มโต๊ะเคี่ยม (หลินต้าวเฉียน) เมื่อยังเป็นเด็กสองพี่น้องได้ศึกษาเล่าเรียนศิลปะแขนงต่างๆ จนแตกฉาน เนื่องจากลิ้มโต๊ะเคี่ยมจำต้องหลบหนีออกจากประเทศจีน ลิ้มกอเหนี่ยวจึงต้องดูแลเลี้ยงดูมารดาแต่เพียงลำพัง เวลาล่วงมานานมากแล้ว มารดาซึ่งอยู่ในวัยชราไม่เห็นบุตรชายกลับมา และไม่ส่งข่าวคราว ก็มีความคิดถึงเป็นห่วงไม่เป็นอันกิน อันนอน จนล้มป่วยเป็นประจำ

ลิ้มกอเหนี่ยวผู้เป็นน้องสาว ด้วยความกตัญญูจึงอาสาออกเดินทางเพื่อตามพี่ชายให้กลับมาพบมารดา ในวันเดินทางลิ้มกอเหนี่ยวได้เข้าไปร่ำลามารดา และกล่าวสัจวาจาไว้ว่า “จะนำพี่ชายกลับมาหามารดาให้ จงได้ แม้จะต้องสละชีวิตตนก็ตาม” แล้วออกเดินทางพร้อมสมัครพรรคพวกเรือสำเภาเก้าลำ ติดตามมาจนถึงเมืองปัตตานี

กระทั่งได้พบพี่ชายที่บ้านกรือเซะ และพำนักอยู่ระยะหนึ่ง ช่วยเหลือกิจการงานของพี่ชาย และช่วยเหลือชาวเมืองปัตตานี เป็นที่รักใคร่ของทุกคน

ต่อมาจึงชักชวนให้พี่ชายกลับประเทศจีนเพื่อพบมารดาอยู่หลายครั้ง แต่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมไตร่ตรองดูแล้วเห็นว่าตนหาใช่เนรคุณทอดทิ้งมารดาและน้องสาวไม่ แต่เหตุที่ทางการจีนกล่าวโทษว่าสมคบกับโจรสลัดสร้างความอัปยศจนต้องพลัดพรากมาอยู่ที่นี่ หากกลับไปก็จะสร้างความลำบากให้แก่ตน และครอบครัวมาก

ภาระหน้าที่ความเป็นอยู่ทางนี้ก็มีความสมบูรณ์ดีอยู่ อีกทั้งได้รับปากกับเจ้าเมืองว่าจะก่อสร้างมัสยิดกรือเซะให้สำเร็จก่อน จึงไม่สามารถกลับไปในขณะนี้ได้

ลิ้มกอเหนี่ยวเห็นว่าไม่อาจนำพี่ชายกลับบ้านได้อย่างแน่แท้ จึงยอมสละชีวิตทำอัตวินิบาตกรรมที่ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ ใกล้กับมัสยิดบ้านกรือเซะ ให้พี่ชายได้เห็นสัจจะความรัก ความผูกพันของตนเอง

ด้านลิ้มโต๊ะเคี่ยมกับพวกต่างโศกเศร้าอาลัยยิ่ง จึงพร้อมกันจัดการปรงศพตามประเพณีอย่างสมเกียรติ ทำเป็นฮวงซุ้ยไว้ในบริเวณใกล้มัสยิดที่ตนซ่อมแซมสร้างขึ้น และเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ความกตัญญูให้กับน้องสาว จึงขอยุติไม่ซ่อมสร้างมัสยิดต่อไปอีก

ลิ้มกอเหนี่ยวได้สำแดงความศักดิ์สิทธิ์ให้เกิดนิมิตและอภินิหาร เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้สัญจรไปมาในแถบนั้นเสมอ ชาวบ้านที่ไปบนบานหายเจ็บไข้ได้ป่วย และมีโชคลาภ ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง บังเกิดผลตามความปรารถนาแทบทุกคน เป็นที่เคารพ สักการะจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว

ต่อมาประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาซาบซึ้งถึงความกตัญญู ซื่อสัตย์ และรักษาคำ มั่นสัญญาจึงได้นำต้นมะม่วงหิมพานต์ที่ ลิ้มกอเหนี่ยวเสียชีวิต มาแกะสลักเป็นรูปเหมือนบูชาไว้สักการะ และสร้างศาลให้เป็นที่ประดิษฐานรูปบูชาที่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลุโละ

การอัญเชิญองค์จำลองเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเดินทางไกลจากปลายขวานทอง มาถึงกรุงเทพฯ จึงนับเป็นโอกาสดียิ่ง หากมีเวลา ในวันอาทิตย์นี้ไม่ควรพลาดไปร่วมงานที่เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน