ล่องช่องแคบบอสฟอรัส สัมผัสมนต์เสน่ห์‘ตุรกี’ : หลาก & หลาย

ล่องช่องแคบบอสฟอรัส – ลมเย็นจะปะทะผิวกายพอให้ได้กระชับเสื้อคลุม หากคุณเดินทางไปตรุกี ในช่วงปลายเดือนพ.ค.

ตุรกี เป็นประเทศที่มีสีสันและมนต์เสน่ห์ จนกลายเป็นจุดหมายให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ด้วยเพราะมีภูมิประเทศคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างยุโรปและเอเชีย และเป็นดินแดนเก่าแก่ที่เคยเจริญมาตั้งแต่สมัยกรีก เปอร์เซีย และยุคโรมัน จึงเต็มไปด้วยอารยธรรม ความหลากหลายผสมผสานทางวัฒนธรรมสืบต่อมาจนเป็นตุรกีในปัจจุบัน

ล่องช่องแคบบอสฟอรัส

สถาปัตยกรรมริมฝั่งช่องแคบบอสฟอรัส

จุดหมายของเราครั้งนี้ คือ เมืองอิสตันบูล ที่มีช่องแคบบอสฟอรัส ยาว 32 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างทะเลมาร์มาราและทะเลดำเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชีย โดย อนาโตเลีย เป็นชื่อเรียกของแผ่นดินที่อยู่ในทวีปเอเชีย ส่วน เทรซ เป็นชื่อเรียกของเมืองที่อยู่ฝั่งยุโรป ซึ่งที่มีพื้นที่อยู่ประมาณ 3%

ช่องแคบบอสฟอรัส ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของตุรกี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สองริมฝั่งเป็นเมืองที่มีสีสันอย่างมาก การล่องเรือผ่านช่องแคบบอส ฟอรัส จึงถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เป็นที่นิยมเมื่อมาเที่ยวตุรกี

เราเดินทางเข้าสู่ช่องแคบบอสฟอรัส ด้วยความตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำ ที่ภูมิสถาปัตย์มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างกลิ่นอายของยุโรป และกลิ่นอายความเป็นเอเชีย

ล่องช่องแคบบอสฟอรัส

ล่องช่องแคบบอสฟอรัส

อาคารที่สลับซับซ้อนลาดขึ้นไปบนเชิงเขาทั้งสองฝั่ง มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ซึ่งหนึ่งในนั้นมี 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางเป็นฉากหลังอยู่ ทำเอาหายใจไม่ทั่วท้องกับความสวยที่ปรากฏตรงหน้าเลยทีเดียว

ระหว่างการล่องเรือเราจะค่อยๆ ได้เห็นสีสันของเมืองความวุ่นวายจอแจ ตึกอาคารทรงทันสมัย โรงแรมห้าดาวสุดหรู สะพานเชื่อมสองทวีปที่สุดอลังการ ก่อนที่จะปรากฏอีกบรรยากาศของเมืองกับอาคารทรงเก่าแก่ บ้านไม้น่ารักๆ ไปจนถึงพระราชวังสุดอลังการ จะสามารถพบได้ระหว่างการล่องเรือ ครั้งนี้ ทำให้เพลิดเพลินไม่น้อยเลยทีเดียว

ล่องช่องแคบบอสฟอรัส

พระราชวังโดมาบาห์เช่

การเดินทางไปตุรกี มักมีคำถามหลายๆ คำถามที่นักท่องเที่ยวคาใจ ไม่ว่าจะเป็น เมืองปลอดภัยแค่ไหน คนน่ากลัว หรือไม่ เดินทางยากหรือเปล่า ด้วยภาพของการก่อการร้ายในอดีตทำให้หลายคนอาจขยาดกับประเด็นเหล่านี้

แต่ปัจจุบันเมืองหลวงอย่างอิสตันบูลเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศเดินทางมา ชาวตุรกียิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมจะพูดคุยให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างดี แม้ว่าเราจะเห็นตำรวจทหารที่ถือปืนดูขึงขังแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่จินตนาการไว้

ด้วยความเป็นเมืองที่เคยถูกปกครองด้วย 3 อาณาจักรสำคัญ ตั้งแต่ก่อนคริสตกาล อิสตันบูล จึงมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และน่าสนใจ อย่างวิหารเซนต์โซเฟีย ซึ่งมีโดมใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก การก่อสร้างใช้ผนังอาคารรับน้ำหนักของโดมแทนเสาค้ำยันทั่วไป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากเมื่อนับย้อนกลับไปนับพันปี และอาคารทรงนี้ยังแผ่อิทธิพลไปถึงรัสเซียที่ได้รับอิทธิพลของโบสถ์ทรงนี้ไปด้วยเช่นกัน

เมื่อคุณมาตุรกี การเดินทางเข้าเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่จึงเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ทำไฮไลต์ของการเดินทางอย่าง วิหารฮาเกียโซเฟีย หรือ วิหารเซนต์โซเฟีย เคยเป็นวิหารของพระราชาคณะแห่งคอน สแตนติโนเปิล และเป็นโบสถ์ของนิกายไบแซนไทน์ในเวลาเดียวกัน

เมื่อชาวเติร์กมีชัยเหนือแผ่นดินนี้ได้เข้าครอบครองโบสถ์คริสต์อายุ 900 ปี ด้วยการเปลี่ยนแปลงแต่ไม่ทำลาย ทำให้สัญลักษณ์ต่างๆ อย่างโมเสกภาพพระเยซู และสาวกของพระองค์ได้ถูกฉาบปูนทับ และนำสัญลักษณ์ของมุสลิมมาติดไว้แทนเท่านั้น

ล่องช่องแคบบอสฟอรัส

วิหารเซนต์โซเฟีย มีทั้งสัญลักษณ์ของมุสลิมและพระเยซู

เมื่อเข้าไปที่วิหารนี้ จึงได้เห็นโมเสกต่างๆ และยังมีภาพของพระเยซู พระแม่มารีอยู่ถึงปัจจุบัน

ทุกวันนี้ วิหารเซนต์โซเฟียหรือสุเหร่าฮาเกีย ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญซึ่งยังมีมนต์ขลังทำให้นักท่องเที่ยวอ้าปากค้างในความยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเห็นจากมุมไกลๆ หรือเมื่อได้เข้ามาเยือนวิหารก็ตาม

อีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้ คือ สุเหร่าสีน้ำเงิน หรือ บลูมอสก์ (Blue Mosque) หรือ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) ปัจจุบันถือเป็นสถานที่สำคัญซึ่งชาวตุรกีเดินทางมาละหมาด การเข้าชมที่นี่จึงต้องปฏิบัติตามขนบประเพณี คือ ถ้าเป็นผู้หญิงต้องมีผ้าคลุมศีรษะ ไม่ใส่กระโปรงสั้น เสื้อแขนกุด ถอดหมวก ถอดแว่น ถอดรองเท้า ก่อนเข้าชม

ล่องช่องแคบบอสฟอรัส

บลูมอสก์ จากภายนอก

ประวัติของบลูมอสก์ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมชัยและต้องการเอาชนะวิหารเซนต์โซเฟียของคริสต์ จึงถูกออกแบบอย่างสวยงาม ยิ่งใหญ่ ภายในประดับด้วยกระเบื้องที่มีสีฟ้าสดใส ลายดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น ตามชื่อของสุเหร่านั่นเอง

ยังมีพระราชวังโดมาบาห์เช่ ที่สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอับดุลเมจิต ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมยุโรป เราเลยได้เห็นหอนาฬิกาสไตล์บาโร็ก พระราชวังที่สร้างด้วยสไตล์นีโอคลาสสิค

ที่น่าตะลึงคือ พื้นที่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นเพียง 1 ใน 10 แต่ก็กว้างใหญ่จนเดินเหนื่อย และยังอึ้งกับสิ่งของในพระราชวังแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟแชนเดอเลียร์ ที่เป็นของขวัญจากอังกฤษ ทำจากแก้วคริสตัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหนักถึง 5,000 กิโลกรัม ประดับดวงไฟ 750 ดวง

และยังมีพรมทอมือผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสาหินอ่อนบันไดทางขึ้นห้องโถงตรงราวทำด้วยไม้วอลนัต ลูกกรงราวบันไดทำด้วยแก้วคริสตัล และของประดับอีกมากมาย

นอกเหนือไปจากสถาปัตยกรรมแล้ว อิสตันบูล ยังเป็นเมืองที่คึกคักและมีสีสัน โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการช็อปปิ้ง มีถนนหลายสายที่น่าสนใจและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นขาช็อป แบรนด์เนมก็มีห้างสรรพสินค้าที่หรูไม่แพ้ยุโรป หรือสินค้าพื้นเมือง ขนมของกิน เรียกว่ามีทุกอย่าง เช่น ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต (Spice Market) เป็นตลาดเครื่องเทศสารพัดชนิด ชา กาแฟ ถั่ว อินทผาลัม ที่มีราคาตามคุณภาพ

ล่องช่องแคบบอสฟอรัส

ตลาดแกรนด์บาซาร์

หรือ ตลาดแกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นงานฝีมือพรม เครื่องเงิน ของที่ระลึก ที่มีสีสัน และน่าสนใจด้วยเสน่ห์แบบตุรกี แต่ละร้านราคาสามารถต่อรองได้ ส่วนขนมมีให้ชิมแบบจุใจ เช่น เตอร์กิช ดีไลต์ เรียกว่า พอใจแล้วค่อยซื้อได้

นี่แค่เมืองเดียวยังมีสีสันและสนุก ขนาดนี้ ถ้าจะแนะนำประเทศที่น่าไป ซักครั้ง ก็ขอยกให้ตุรกีอย่างไม่มีข้อติติงเลย

เมธาวี มัชฌันติกะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน